Friday, January 31, 2014

ข่าวสัตหีบ พ่อค้าขายปลาอ้างถูกมนต์ดำ นำตัวไปตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง แต่ยังให้การปฏิเสธ

พ่อค้าขายปลาอ้างถูกมนต์ดำ  นำตัวไปตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง แต่ยังให้การปฏิเสธ
พ่อค้าขายปลา อ้างถูกมนต์ดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดพบปัสสาวะเป็นสีม่วง แต่ให้การปฏิเสธไม่ได้เสพยาบ้า เพียงแต่กินยาแก้ปวดเท่านั้น
     เมื่อเวลา11.00 น.วันที่ 30 ม.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอสัตหีบ นำโดย นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ นำกำลังวางแผนล่อซื้อยาเสพติด ที่วัดอัมพาราม ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ เป็นจุดวางแผน ได้มีหนุ่มใหญ่ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาสอบถามหาเจ้าอาวาสวัด ในสภาพเนื้อตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า มาขอให้เจ้าอาวาสช่วยเหลือ หลังอ้างว่าโดนคุณไสย ถูกวิญญาณเข้าสิง
    จากการตรวจสอบทราบชื่อ นายธัญญา แก้วงาม อายุ 50 ปี อาชีพขายปลา ให้การว่าได้เดินทางออกมาจากห้องเช่า เพื่อมาขอพบเจ้าอาวาสหลังมีชาวบ้านลือว่า มีน้ำมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ สามารถป้องกันไสยศาสตร์ได้  ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 วันได้เกิดทะเลาะมีปากเสียงกับข้างห้องที่อาศัยอยู่เป็นชาวกัมพูชา  เนื่องจากชอบส่งเสียงดังรบกวน จากนั้นเวลานอนก็ได้ยินแต่เสียงสวดมนต์เป็นภาษาเขมรแว่วอยู่ในหัว ทำให้ร่างกายมีการสั่น ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ คล้ายคนถูกมนต์ดำ จนไม่สามารถอาศัยอยู่ในห้องได้ จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าอาวาส เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำน้ำมนต์จากศาลามาให้ดื่ม และพรมปัดรังควาญ แต่อาการไม่ดีขึ้น
   ซึ่งจากการสังเกตอาการดูเหมือนลักษณะคนเสพยาบ้า เจ้าหน้าที่จึงขออนุญาตตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบเป็นสีม่วง  เจ้าหน้าที่จึงจับใส่กุญแจมือ ฐานเสพยาเสพติด ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จากอาการที่คล้ายคนถูกมนต์ดำได้หายเป็นปลิดทิ้ง แต่นายธัญญา ได้ให้การปฏิเสธไม่ได้เสพยาบ้า เพียงแต่กินยาแก้ปวดทิพฟี่เข้าไป เจ้าหน้าที่จึงตรวจพิสูจน์หลักฐานด้วยการนำยาแก้ปวดทิฟฟี่  ผสมกับน้ำแล้วตรวจ ผลออกมาเป็นบวกจริง จึงถือไม่มีความผิด  จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต่างตั้งคำถามหลายอย่าง บ้างก็คิดว่าชายคนนี้โดนมนต์ดำ หรือถูกผีเข้าสิงจริงไหม และทำไมเมื่อถูกจับใส่กุญแจมือ มนต์ดำและดวงวิญญาณจึงออกจากร่างไปทันควัน แสดงว่ากุญแจมือจะช่วยมนต์ดำและผีได้จริง หรือชายคนนี้ก็ตกใจกลัวถูกจับติดคุกจนลืมไปว่าถูกผีเข้าอยู่

No comments:

Post a Comment