ยิงถล่มร้านเกมส์-อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ พัทยาดุ!

ยิงถล่มร้านเกมส์-อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ พัทยาดุ! ยิงถล่มร้านเกมส์-อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ขณะลูกค้านั่งใช้บริการอยู่เต็มร้าน กระสุนโดนกระจกประตูเข้าร้านแตก โชคดีไม่มีใครเจ็บ คาดฝีมืออริของวัยรุ่นที่เป็นลูกค้าในร้านมายิงถล่มขู่ล้างแค้น
เสียง/บรรยาย
      เวลา 00.40 น. วันที่ 20 พ.ย. 56 พ.ต.ท.ประสิทธิ์ มั่นศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา  ได้รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่ร้าน บิ๊กฟิส อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ แอนด์ เกมส์ ตั้งอยู่ ตรงข้ามซอยกอไผ่ 4/5 หรือซอยโรงเรียนอักษร ซอยกอไผ่ ย่านพัทยาใต้ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปตรวจสอบ
       ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว4ชั้นด้านล่างเปิดเป็นร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่และเกมส์ออนไลน์ส่วนตึกข้างๆเรียงติดกันนั้นเป็นร้านค้าและหอพัก ตรวจสอบพบว่าร้านที่เกิดเหตุนั้นที่บริเวณประตูกระจกทางเข้าร้านถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนชนิดลูกซองยิงเข้าใส่จนกระจกประตูร้านแตกเสียหาย พร้อมกับเศษตะกั่วลูกปืนตกอยู่ที่พื้น ทั้งนี้กระสุนปืนไม่ทะลุเข้าไปในร้าน ส่วนลูกค้าที่ใช้บริการอยู่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
          สอบสวนนายอุเทน เพ็งเขียว หรือกบ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นน้องชายเจ้าของร้านให้การว่าตนรับจ้างเข้าเวรเฝ้าร้านให้กับพี่สาวโดยขณะเกิดเหตุตนกำลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนซึ่งเป็นลูกค้าอยู่ในร้าน โดยมาเล่นกันประมาณ5คน และมีลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติมาใช้บริการอยู่ในร้านด้วย ขณะนั้นมีคนร้ายขับรถจักยานยนต์ผ่านมาหน้าร้านแล้วใช้อาวุธปืนยิงเข้าในใส่ร้าน ซึ่งยิงมาตรงจุดที่กลุ่มเพื่อนๆนั่งเล่นเกมส์กันอยู่พอดี กระสุนปืนโดนประตูกระจกหน้าร้านจนแตก  ตนและเพื่อนๆรวมถึงลูกค้าคนอื่นๆพากันมอบหลบด้วยความตกใจกลัว เมื่อแน่ใจว่าคนร้ายไปแล้วจึงรีบวิ่งพากันออกมานอกร้าน ซึ่งขณะนั้นมีชาวบ้านเห็นคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน  ขับรถจยย.โดยคนขับสวมเสื้อสีดำ  และคนนั่งซ้อนที่ใส่เสื้อสีขาว ได้ชักปืนลักษณะปืนลูกซองสั้น ยิงถล่มเข้าไปในร้าน 1 นัด แล้วขับรถหลบหนีไป ภายหลังเกิดเหตุเพื่อนๆต่างพากันตกใจกลัวรีบเช็คบิลแล้วหนีกลับไปทันทีก่อนที่ตนจะแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ
        ส่วนสาเหตุที่ร้านถูกคนร้ายใช้ปืนยิงครั้งนี้น้องชายเจ้าของร้าน เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเจตนามายิงถล่มใส่ร้านเพื่อข่มขู่กลุ่มวัยรุ่นลูกค้าที่ตนรู้จัก  แต่ก็โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
         ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้านแต่กล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ อย่างไรก็ตามก็จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบ้านของชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบหาลักษณะและรถของคนร้ายเพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป