ข่าวพัทยา เยาวชนริเป็นโจรใช้สนับและมีดออกจี้ปล้นชาวบ้าน

เยาวชนริเป็นโจรใช้สนับและมีดออกจี้ปล้นชาวบ้าน
โจ๋วัยกระเตาะริเป็นโจร ใช้มีดและสนับมือ จี้ชาวบ้านได้เงินสดพร้อมแหวนทอง  เจ้าหน้าที่ตามลากคอได้ 2 คน หนีเข้าป่าอีก 1 คน พบยังเป็นเยาวชนทั้งหมด  เจ้าทุกข์ชี้ตัวยืนยัน สารสิ้นเพิ่งออกมาจากสถานพินิจเด็ก  
เวลา 17.00 น. วันที่ 14 ก.ค. 56 ร.ต.อ.นพดล  รักษาวงศ์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองพัทยา ว่ามีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ชาวบ้าน ภายในซอยสุนีย์ พัทยาใต้ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังสายตรวจเขต พร้อมวิทยุสกัดจับตัวผู้ต้องสงสัย ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายเป็นชาย ทราบชื่อต่อมานายวัชระ  เหยียดรัมย์ อายุ 18 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่ จากการสอบถามทราบว่าคนร้ายยังเป็นเด็กวัยรุ่น อายุไม่น่าจะเกิน 20 ปี มีด้วยกัน 3 คน เป็นชาย 2 คน และหญิงรูปร่างลักษณะท้วม 1 คน ใช้สนับมือขู่และใช้มีดจี้เอาทรัพย์สินซึ่งเป็นเงินสด 1,900 บาท แหวนทองคำน้ำหนัก 2 สลึง รวม 2 วง หลังก่อเหตุได้ไปขึ้นรถ จยย.รับจ้าง หลบหนี  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังกันหาข้อมูลคนร้ายจนทราบจากคนขับวิน จยย.รับจ้างว่าคนร้ายได้ให้ตนเองไปส่งบริเวณซอยแบทแมน พัทยาใต้  เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมซอยเพื่อจับกุมตัวคนร้าย เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบวัยรุ่นชาย 2 คน ลุกขึ้นวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที  ส่วนผู้หญิงถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้  จากการสอบถามทราบชื่อต่อมา นางสาวอ้อ(นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ให้การรับสารภาพว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่เพิ่งก่อเหตุมาจริงๆ โดยร่วมมือกับเพื่อนชื่อนายไผ่(นามสมมุติ)อายุ 17 ปี และนายโต(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามคนร้ายที่หลบหนีไปอีก 2 ราย โดยพบว่าภายในบ่อน้ำมีร่องรอยการกระโดดน้ำลงไปจนสาหร่ายแตกออก และพบรองเท้าฟองน้ำลอยขึ้นมาเหนือน้ำ จึงได้กระจายกำลังกันโอบอ้อมบ่อน้ำร้าง ซึ่งเต็มไปด้วยต้นกก พร้อมตะโกนให้คนร้ายยอมมอบตัว ผ่านไปประมาณ 5 นาที คนร้ายได้โผล่ขึ้นมาจากน้ำ  พร้อมตะโกนว่ายอมแล้ว อย่าทำอะไรผม ผมยังเป็นเยาวชนอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ผู้ต้องหาเดินขึ้นมาจากน้ำ  ยอมให้จับโดยละม่อม  ตรวจค้นกระเป๋าสะพายที่ตัวผู้ต้องพบว่ามีเงินสดจำนวน 1,500 บาท แหวนทอง 1 วง สนับมือ 1 อัน จากการสอบถามทราบชื่อนายไผ่(นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์จริง แต่ทำเพียงคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว ตนเพิ่งออกมาจากสถานพินิจเด็กและเยาวชน มาได้ไม่นาน ไม่มีงานทำ จึงต้องออกจี้ปล้นชาวบ้าน โดยใช้สนับมือขู่เท่านั้น ไม่มีอาวุธมีดแต่อย่างใด ทำมาแล้วหลายครั้ง ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้เสียหายมาชี้ตัว พร้อมยืนยันว่านายไผ่(นามสมมุติ)และนางสาว(อ้อ) เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ตนเองมาจริงๆ ส่วนอีกรายที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมายังไม่ใช่  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวเพื่อนผู้ต้องหาไปทำการสอบสวนว่าเกี่ยวข้องหรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่  ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีไปอีกคนคือนายโต(นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป