Wednesday, July 17, 2013

ข่าวชลบุรี แก๊งต้มตุ๋นหลอกเงินเกือบล้านบาทก่อนหนีหาย

แก๊งต้มตุ๋นหลอกเงินเกือบล้านบาทก่อนหนีหาย
แก๊งต้มตุ๋น ออกอุบายหลอกเงินป้าขายลอตเตอรี่ในเขตพื้นที่โรงโป๊ะ  ให้ช่วยเหลือไถ่ถอนที่ดินที่เอาไปจำนองไว้ หากขายได้จะแบ่งเงินให้คนละแสนบาท จึงหลงเชื่อ ไปกู้เงินหนึ่งล้านบาทจากเพื่อนมาเพื่อไถ่ถอนที่ดิน ก่อนถูกเชิดเงิน  หลบหนีลอยนวล
                ร.ต.ท.พิเชษฐ์   มีภูเพ็ญ  ร้อยเวร สภ.แหลมฉบัง ได้รับแจ้งจากนางประนม  แซ่ตั้ง อายุ 66  ปี  มีอาชีพขายล๊อตเตอรี่และน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ชาวจังหวัดชลบุรี และนางรวิ  พลเภา  อายุ  63  ปี  ซึ่งทั้งสองคนเป็นญาติกัน ว่าถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกสูญเงินเกือบล้านบาท ก่อนมาปล่อยทิ้งไว้ในเขตพื้นที่แหลมฉบัง  และหลบหนีไปอย่างลอยนวล           นางประนม  กล่าวว่า  “ตนมีอาชีพขายล๊อตเตอรี่และขายน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพอยู่ที่ โรงโป๊ะ โดยก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ได้มีนางสุนิสา และนายสมชาย  มาซื้อล๊อตเตอรี่และได้สั่งซื้อน้ำสมุนไพรไปรับประทาน ก่อนจะโทรมาสั่งอีกครั้งและบอกว่าจะมาเอาในวันจันทร์ที่ 15 กรกฏาคม นี้ พอถึงเวลา นางสุนิสา และนายสมชาย ได้มารับน้ำสมุนไพรตามที่ได้นัดไว้  ก่อนจะสอบถามเส้นทางไปวัดสังกะเปียว พร้อมให้ตนพาไปเนื่องจากไปไม่ถูก ตนจึงชวนนางรวิ ที่อยู่ด้วยกันไปเป็นเพื่อน เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย    ระหว่างทางได้ยินทั้งสองคุยกันเรื่องจะมาดูที่ดินของยายสีในละแวกนั้น พอมาถึงหน้าวัดสังกะเปียว  ก็ได้พบกับผู้ชายรูปร่างอ้วนพร้อมด้วยผู้หญิงมีอายุอีก 1 คน ทั้งสองจึงจอดรถสอบถามคนทั้งสองว่า รู้จักบ้านนางสีไหม  ก่อนทั้งสองจะตอบว่าตนเป็นลูกของนางสี ส่วนผู้หญิงที่นั่งอยู่คือนางสี  ซึ่งก็เหมือนเป็นการเจอกันโดยบังเอิญ แล้วทั้งสองก็คุยเรื่องที่ดินกับนายอ้วน ก่อนนายอ้วนจะหันมาขอความช่วยเหลือจากตน  ด้วยการไปพูดกับนายทุนให้ช่วยซื้อที่ดินของนายอ้วนให้หน่อย เนื่องจากนายอ้วนเป็นหนี้มากจึงอยากขายที่ให้ได้เร็ว ๆ และจะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ป้าทั้งสองคนละแสนบาท ตนจึงรับปากว่าจะช่วยเหลือ ทั้งหมดจึงพาป้าทั้งสองมาพบกับนายทุนที่บริเวณถนนสุขุมวิท  โดยนายทุนขับรถมาอีกหนึ่งคันก่อนจะขึ้นมาคุยกันในรถของนายสมชายและนางสุนิสา ซึ่งนายทุนก็ทำทีว่าก็อยากได้ที่ดินแปลงนี้เช่นกัน แต่ตอนนี้จะต้องเดินทางไปต่างประเทศ จึงขอวางเงินมัดจำไว้ 4 แสนโดยส่งเงิน 4 แสนให้ไว้ที่นายสมชาย แล้วก็ลงจากรถไป  หลังจากนั้นนายอ้วนบอกว่าที่ดินผืนนี้มีทั้งหมด 17 ไร่ มีราคาไร่ละ 1 ล้านบาท แต่จำนองอยู่ 3 ล้านกว่า ที่ร้านทองแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่แหลมฉบัง ถ้าจะขายจะต้องไปไถ่ถอนที่ดินออกมาก่อน
          นายสมชาย  กล่าวว่าตอนนี้มีเงินอยู่ 4 แสนบาท(ของนายทุน) แล้วหันมาถามป้าว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ ให้ป้าช่วยออกเงินส่วนหนึ่ง แล้วที่เหลือนายสมชายจะออกเองทั้งหมด ในตอนนั้นป้าบอกไม่มีเงิน แต่จะหาเงินให้ โดยต้องไปขอยืมเงินจากเพื่อนก่อน  โดยทั้งหมดจึงพากลับไปที่บ้านของป้า โดยทิ้งให้นายอ้วนนั่งรออยู่ที่บ้านตน ส่วนป้าออกไปกู้เงินจากเพื่อนมา 1 ล้านบาท แต่โดนหักไป 1 แสนบาท เป็นค่าดอกเบี้ยก่อน จึงเหลือ 9 แสนบาท โดยเพื่อนได้ไปเบิกเงินสดจากธนาคารมาให้
          หลังจากได้เงินแล้ว  นายสมชาย นางสุนิสา และนายอ้วน ก็พาป้าทั้งสองมาที่ร้านทองแห่งหนึ่งในเขตแหลมฉบัง เพื่อที่จะไถ่ถอนที่ดินออกมา พอมาถึงร้านทองก็ได้จอดรถห่างจากร้านทองประมาณ 50 เมตร ก่อนนายอ้วนจะเอาเงินทั้งหมดลงไป  พอเวลาผ่านไปประมาณเกือบ 20 นาที นายอ้วนก็โทรมาหานางสุนิสาให้ป้าลงไปเซ็นชื่อที่ร้านทอง ป้าก็ลงไปคนเดียวแต่หานายอ้วนไม่เจอ ในเวลาเดียวกันตอนป้าลงจากรถมาสักครู่ นายอ้วนก็โทรเข้ามาหานางสุนิสาอีก ออกอุบายว่าป้าไม่มีบัตรประชาชนให้ป้ารวิลงไปเซ็นชื่อให้แทน พอตนทั้งสองลงไปก็เดินตามหานายอ้วนแต่ไม่พบ จึงเดินกลับมาที่รถ พบว่าทั้งหมดได้หายไปแล้ว จึงคิดว่าป้าต้องโดนหลอกแน่นอน จึงรีบเข้ามาแจ้งตำรวจ สภ.แหลมฉบัง ให้ช่วยติดตามคนร้ายโดยด่วน

No comments:

Post a Comment