Sunday, July 21, 2013

ข่าวพัทยา พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและแห่เทียนพรรษา

พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและแห่เทียนพรรษา
พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของเมืองพัทยา เพื่อไปประดิษฐานวัดใหม่สำราญเกาะล้าน และประเพณีแห่เทียนพรรษา ซึ่งจัดได้อย่างสวยงาม ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
     14.00 น.วันที่ 18 กรกฎาคม ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเมืองพัทยา และพุทธศาสนิกชน ร่วมกันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมายังรถแห่ เพื่อแห่ไปรอบเมืองพัทยา ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา และจะนำไปประดิษฐานวัดใหม่สำราญ เกาะล้าน เนื่องด้วยวัดใหม่สำราญได้รับประทานพระบรมสารีริกธาตุจากสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เพื่อนำมาประดิษฐาน ณ วัดใหม่สำราญ ซึ่งตามคตินิยมโบราณ พระบรมสารีริกธาตุเป็นสิ่งคู่บ้านคู่บ้านคู่เมือง เป็นสิ่งมงคลสูงสุด จึงต้องมีการฉลองสมโภชโดยนานาประการ ประดุจองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาสู่เมืองและนครนั้นๆ ด้วยพระองค์เอง
     และเวลาประมาณ 15.30 น. ที่บริเวณถนนเลียบชายหาดพัทยา หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยาบีช นายวัฒนา จันทนวรานนท์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานในพิธีเปิดขบวนประเพณีแห่เทียนพรรษา ประธานในพิธีได้ตีฆ้องเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการเปิดงานและปล่อยขบวนแห่เทียนพรรษา ภายในขบวนนั้นจะมีการจัดประกวดต้นเทียนและริ้วขบวนแห่เทียนพรรษา มีโรงเรียนเมืองพัทยาทั้ง 11 แห่ง โรงเรียนโพธิสัมพันธ์พิทยาคาร และชุมชนวัดชัยมงคล เข้าร่วมประกวด โดยทุกขบวนได้มีการแสดงอย่างสวยงาม พร้อมประดับประดาต้นเทียนอย่างสร้างสรรค์และสวยงาม ขบวนจะเคลื่อนไปเรื่อยๆ เมื่อผ่านบริเวณจุดแสดงก็จะหยุดแสดงโดยให้เวลาไม่เกิน 7 นาที จนครบทุกขบวน และไปสิ้นสุดที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวพัทยาใต้ โดยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก  ซึ่งวันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนา โดยพระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือนในฤดูฝน เว้นแต่มีกิจธุระ คือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืน หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด

No comments:

Post a Comment