Pattaya News
Wednesday, January 14, 2015
Monday, February 3, 2014
ข่าวชลบุรี เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ วอนตำรวจช่วยเหลือหลังจากถูกโจรกรรมรถจักรยานยนต์
เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ วอนตำรวจช่วยเหลือหลังจากถูกโจรกรรมรถจักรยานยนต์
เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ใน ต.บ้านสวน วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ หลังจากภายในอพาร์ทเม้นท์ถูกโจรกรรมรถจักรยานยนต์ของลูกค้า อยู่เป็นประจำ
นางสาวพรรณนิภา กสิโกศล อายุ 23 ปี ผู้ดูแล ที.ดับบลิว. พราวด์ อาพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 95 / 299 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้ทำการร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า รถจักรยานยนต์ของผู้เช่าอาพาร์ทเม้นท์ ได้ถูกโจรกรรมอยู่เป็นประจำ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ทั้งๆที่ได้มีการติดตั้งตู้แดง ของ สภ.เมืองชลบุรี ล่าสุดกล้องวงจรปิดที่ติดไว้โดยรอบ ประมาณ 50 ตัว สามารถบันทึกภาพกลุ่มคนร้ายจำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน เข้ามาในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในที่จอดรถจักรยานยนต์ จากนั้นก็ได้งัดแงะ ซึ่งใช้เวลา ไม่ถึง 3 นาที ก็นำรถจักรยานยนต์ออกไปได้อย่างลอยนวล
จึงอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้รับผิดชอบในเขตนี้ ให้มีการทำการเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ให้เร็วขึ้น เนื่องจากหลังที่การนำกล้องวงจรไปตรวจสอบ และก็ยังไม่รับความคืบหน้า อีกทั้งยังได้มีรถจักรยานยนต์ในอาพาร์ทเม้นท์ หายเพิ่ม จนทำให้ผู้เช่าเริ่มจะวิตกและไม่มั่นใจถึงความปลอดภัย ได้พากันทยอยออกกันไปบ้างแล้ว ถ้าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้อาพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ต้องปิดตัวลงอย่างแน่นอน
เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ใน ต.บ้านสวน วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ หลังจากภายในอพาร์ทเม้นท์ถูกโจรกรรมรถจักรยานยนต์ของลูกค้า อยู่เป็นประจำ
นางสาวพรรณนิภา กสิโกศล อายุ 23 ปี ผู้ดูแล ที.ดับบลิว. พราวด์ อาพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 95 / 299 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้ทำการร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า รถจักรยานยนต์ของผู้เช่าอาพาร์ทเม้นท์ ได้ถูกโจรกรรมอยู่เป็นประจำ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ทั้งๆที่ได้มีการติดตั้งตู้แดง ของ สภ.เมืองชลบุรี ล่าสุดกล้องวงจรปิดที่ติดไว้โดยรอบ ประมาณ 50 ตัว สามารถบันทึกภาพกลุ่มคนร้ายจำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน เข้ามาในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในที่จอดรถจักรยานยนต์ จากนั้นก็ได้งัดแงะ ซึ่งใช้เวลา ไม่ถึง 3 นาที ก็นำรถจักรยานยนต์ออกไปได้อย่างลอยนวล
จึงอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้รับผิดชอบในเขตนี้ ให้มีการทำการเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ให้เร็วขึ้น เนื่องจากหลังที่การนำกล้องวงจรไปตรวจสอบ และก็ยังไม่รับความคืบหน้า อีกทั้งยังได้มีรถจักรยานยนต์ในอาพาร์ทเม้นท์ หายเพิ่ม จนทำให้ผู้เช่าเริ่มจะวิตกและไม่มั่นใจถึงความปลอดภัย ได้พากันทยอยออกกันไปบ้างแล้ว ถ้าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้อาพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ต้องปิดตัวลงอย่างแน่นอน
ข่าวชลบุรี ตร.ชลบุรี จับแม่ค้าลักลอบจำหน่ายยาบ้า
ตร.ชลบุรี จับแม่ค้าลักลอบจำหน่ายยาบ้า
ตำรวจเมืองชลบุรี รวบจับแม่ค้าลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงาน ได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 15 เม็ด
ร.ต.อ.โชคชัย โทคำมา รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ. เมืองชลบุรี ได้ทำการจับกุมตัวนางสมลักษณ์ หรือลักษณ์ อนันตกูล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี แม่ค้าขายขนม ในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า อยู่ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมายพร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 15 เม็ด โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาเลขที่อยู่ดังกล่าว พร้อมของกลางที่ทำการซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน
สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า ในบ้านของผู้ต้องหาได้มีการลักลอบค้ายาบ้า จึงได้ทำการร่วมกันวางแผนล่อซื้อจำนวน 3 เม็ดในราคา 600 บาท หลังจากมีการซื้อขายเรียบร้อย จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันที โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับยาบ้ามาในราคาเม็ดละ 150 บาท และมาจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานในราคา เม็ดละ 200 บาท โดยจะนำรายได้มาจุนเจือเลี้ยงครอบครัว
ตำรวจเมืองชลบุรี รวบจับแม่ค้าลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงาน ได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 15 เม็ด
ร.ต.อ.โชคชัย โทคำมา รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ. เมืองชลบุรี ได้ทำการจับกุมตัวนางสมลักษณ์ หรือลักษณ์ อนันตกูล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี แม่ค้าขายขนม ในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า อยู่ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมายพร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 15 เม็ด โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาเลขที่อยู่ดังกล่าว พร้อมของกลางที่ทำการซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน
สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า ในบ้านของผู้ต้องหาได้มีการลักลอบค้ายาบ้า จึงได้ทำการร่วมกันวางแผนล่อซื้อจำนวน 3 เม็ดในราคา 600 บาท หลังจากมีการซื้อขายเรียบร้อย จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันที โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับยาบ้ามาในราคาเม็ดละ 150 บาท และมาจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานในราคา เม็ดละ 200 บาท โดยจะนำรายได้มาจุนเจือเลี้ยงครอบครัว
ข่าวชลบุรี ชายวัย 35 ปี ถูกเพื่อนยิงคาห้องพัก เนื่องจากเคลียเรื่องค้ายากันไม่ลงตัว
ชายวัย 35 ปี ถูกเพื่อนยิงคาห้องพัก เนื่องจากเคลียเรื่องค้ายากันไม่ลงตัว
เกิดเหตุ ชายวัย 35 ปี ถูกยิงคาห้องพัก ในเขตตำบลบางทราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานสาเหตุคาดว่า น่าจะเกิดจากการเคลียเรื่องค้ายากันไม่ลงตัว
พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี และกู้ภัยธรรมรัศมีมณีรัตน์ ชลบุรี เข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงและเสียชีวิตในห้องพักเลขที่ 150 /1 หมู่ที่ 6 ตำบลบางทราย ผู้เสียชีวิต อยู่ในห้องเบอร์ 8โดนอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เข้าที่ปาก 1 นัด กระสุนฝังใน นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ทราบชื่อต่อมาคือนายวรวุฒิ หรือก้อง มัตนาวี อายุ 35 ปี พึ่งได้พ้นโทษมาไม่นาน เจ้าหน้าตำรวจตรวจค้นในตัวยังพบซองปืนอยู่ที่เอว และในมือขวายังกำห่อกระดาษที่มียาบ้าจำนวน 20 เม็ด และเงินสดจำนวน 6,590 บาท นอกจาก นั้นที่หน้าห้องยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ปลอกเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายชูรัตน์ มัตนาวี อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นพ่อของตาย ได้เล่าว่า ลูกชายได้พังประตูเข้าไป เจรจากับนาย บุญลือ มั่นจิตร อายุ 27 ปี และเพื่อนของนายบุญลือ และทั้ง 2 ได้พักอยู่ห้องใกล้ ๆ ผู้ตาย ซึ่งตนเองได้ยินเสียงโวยวายและมีการต่อสู้กัน สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หลังก่อเหตุนายบุญลือและเพื่อน จึงพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งกล้องวงจรได้จับภาพ 2 คนร้ายไว้ได้ จากการสันนิฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ตายและนายบุญลือมือปืนคงเข้าไปเคลียเรื่องยาบ้าแต่ตกลงกันไม่ได้จึงทำให้เป็นเหตุดังกล่าว
เกิดเหตุ ชายวัย 35 ปี ถูกยิงคาห้องพัก ในเขตตำบลบางทราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานสาเหตุคาดว่า น่าจะเกิดจากการเคลียเรื่องค้ายากันไม่ลงตัว
พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี และกู้ภัยธรรมรัศมีมณีรัตน์ ชลบุรี เข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงและเสียชีวิตในห้องพักเลขที่ 150 /1 หมู่ที่ 6 ตำบลบางทราย ผู้เสียชีวิต อยู่ในห้องเบอร์ 8โดนอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เข้าที่ปาก 1 นัด กระสุนฝังใน นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ทราบชื่อต่อมาคือนายวรวุฒิ หรือก้อง มัตนาวี อายุ 35 ปี พึ่งได้พ้นโทษมาไม่นาน เจ้าหน้าตำรวจตรวจค้นในตัวยังพบซองปืนอยู่ที่เอว และในมือขวายังกำห่อกระดาษที่มียาบ้าจำนวน 20 เม็ด และเงินสดจำนวน 6,590 บาท นอกจาก นั้นที่หน้าห้องยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ปลอกเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายชูรัตน์ มัตนาวี อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นพ่อของตาย ได้เล่าว่า ลูกชายได้พังประตูเข้าไป เจรจากับนาย บุญลือ มั่นจิตร อายุ 27 ปี และเพื่อนของนายบุญลือ และทั้ง 2 ได้พักอยู่ห้องใกล้ ๆ ผู้ตาย ซึ่งตนเองได้ยินเสียงโวยวายและมีการต่อสู้กัน สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หลังก่อเหตุนายบุญลือและเพื่อน จึงพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งกล้องวงจรได้จับภาพ 2 คนร้ายไว้ได้ จากการสันนิฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ตายและนายบุญลือมือปืนคงเข้าไปเคลียเรื่องยาบ้าแต่ตกลงกันไม่ได้จึงทำให้เป็นเหตุดังกล่าว
ข่าวสัตหีบ เพลิงไหม้ปริศนาเผาวอด ติดกัน 10 คูหา
เพลิงไหม้บ้านพักประทวนทหารนาวิกโยธิน ติดกัน 10 คูหา เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 2 ก.พ.57 ร.ต.อ.สายใจ คำจุลลา พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักประทวนทหารนาวิกโยธิน จำนวนหลายหลัง ที่ ซ.จลดลศึกษา 9/5 ค่ายกรมหลวงชุมพร จึงประสานขอรับการสนับสนุน รถดับเพลิงจากฐานทัพเรือสัตหีบ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เทศบาลเมืองสัตหีบ และเทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ เข้าระงับเพลิง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านแถวปูนสองชั้นติดกัน 10 คูหา ต้นเพลิงมาจากห้องเก็บของชั้น 2 ของบ้านเลขที่ 810/738 โดยมี จ่าเอกเพ็ชรัตน์ ลำดับวงษ์ เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งเพลิงได้โหมลูกไหม้อย่างรวดเร็วลุกลามไปติดกับบ้านเลขที่ 810/737 โดยมี จ่าเอกชัยญา ทองคำ เป็นเจ้าของห้อง และบ้านเลขที่ 810/739 โดยมี พันจ่าเอกอภิวัฒน์ เรืองรอง เป็นเจ้าของห้อง ซึ่งอยู่ข้างซ้ายและขวา กลุ่มเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ชาวบ้านที่อยู่อาศัยใกล้เคียงต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอด พร้อมย้ายสิ่งของหนีไฟกันอย่างอลหม่าน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกือบ 10 คัน ได้ระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่องใช้เวลานานเกือบ 30 นาที จึงจะสามารถระงับเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบตัวบ้านทั้ง 3 หลังถูกเพลิงเผาเสียหายเกือบทั้งหมด รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
สอบถาม น.ส.สุพัตรา ลำดับวงษ์ อายุ 14 ปี ลูกสาวบ้านต้นเพลิง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้นอนดูโทรทัศน์อยู่ชั้นล่างของบ้าน จู่ๆ ได้มีกลิ่นไหม้ และมีกลุ่มควันมาจากห้องเก็บของชั้นบน ขึ้นไปดูจึงพบว่า เพลิงกำลังลุกไหม้กองผ้าที่วางอยู่บนพื้น จึงตั้งสติรีบวิ่งไปหยิบกระป๋องใส่เงินและนำน้ำมาดับไฟ พร้อมร้องเรียกของความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างหนักทำให้ไม่สามารถดับได้ทันเวลา จึงวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมาจากบ้าน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาระงับเหตุ ส่วนสาเหตุไม่ทราบที่มาของเพลิง
ด้าน ร.ต.อ.สายใจ คำจุลลา ร้อยเวรสอบสวน เปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุถึงที่มาของเพลิงได้ ทั้งนี้ ต้องรอตรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบโดยละเอียด จึงจะสามารถทราบแน่ชัดถึงที่มาของเพลิง อย่างไรก็ตาม ได้เรียกผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ในการสรุปผลของการเพลิงไหม้ในครั้งนี้
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 2 ก.พ.57 ร.ต.อ.สายใจ คำจุลลา พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักประทวนทหารนาวิกโยธิน จำนวนหลายหลัง ที่ ซ.จลดลศึกษา 9/5 ค่ายกรมหลวงชุมพร จึงประสานขอรับการสนับสนุน รถดับเพลิงจากฐานทัพเรือสัตหีบ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เทศบาลเมืองสัตหีบ และเทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ เข้าระงับเพลิง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านแถวปูนสองชั้นติดกัน 10 คูหา ต้นเพลิงมาจากห้องเก็บของชั้น 2 ของบ้านเลขที่ 810/738 โดยมี จ่าเอกเพ็ชรัตน์ ลำดับวงษ์ เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งเพลิงได้โหมลูกไหม้อย่างรวดเร็วลุกลามไปติดกับบ้านเลขที่ 810/737 โดยมี จ่าเอกชัยญา ทองคำ เป็นเจ้าของห้อง และบ้านเลขที่ 810/739 โดยมี พันจ่าเอกอภิวัฒน์ เรืองรอง เป็นเจ้าของห้อง ซึ่งอยู่ข้างซ้ายและขวา กลุ่มเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ชาวบ้านที่อยู่อาศัยใกล้เคียงต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอด พร้อมย้ายสิ่งของหนีไฟกันอย่างอลหม่าน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกือบ 10 คัน ได้ระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่องใช้เวลานานเกือบ 30 นาที จึงจะสามารถระงับเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบตัวบ้านทั้ง 3 หลังถูกเพลิงเผาเสียหายเกือบทั้งหมด รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
สอบถาม น.ส.สุพัตรา ลำดับวงษ์ อายุ 14 ปี ลูกสาวบ้านต้นเพลิง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้นอนดูโทรทัศน์อยู่ชั้นล่างของบ้าน จู่ๆ ได้มีกลิ่นไหม้ และมีกลุ่มควันมาจากห้องเก็บของชั้นบน ขึ้นไปดูจึงพบว่า เพลิงกำลังลุกไหม้กองผ้าที่วางอยู่บนพื้น จึงตั้งสติรีบวิ่งไปหยิบกระป๋องใส่เงินและนำน้ำมาดับไฟ พร้อมร้องเรียกของความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างหนักทำให้ไม่สามารถดับได้ทันเวลา จึงวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมาจากบ้าน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาระงับเหตุ ส่วนสาเหตุไม่ทราบที่มาของเพลิง
ด้าน ร.ต.อ.สายใจ คำจุลลา ร้อยเวรสอบสวน เปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุถึงที่มาของเพลิงได้ ทั้งนี้ ต้องรอตรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบโดยละเอียด จึงจะสามารถทราบแน่ชัดถึงที่มาของเพลิง อย่างไรก็ตาม ได้เรียกผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ในการสรุปผลของการเพลิงไหม้ในครั้งนี้
ข่าวพัทยา การประกวด Miss Qipao 2014
การประกวด Miss Qipao 2014
สาวงามจากกรุงเทพมหานครคว้าตำปหน่งมิสกี่เพ้า 2014 ไปครอง พวงด้วยตำแหน่ง Miss Perfect Skin ในการประกวดมิสกี่เพ้า 2014 เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ของศูนย์การค้าสเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช
ช่วงค่ำวันที่ 2 ก.พ. ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนกับงาน Chinese New Year 2014 จัดการประกวดมิสกี่เพ้า 2014 โดยได้รับเกียรติจากนายชูศักดิ์ ศรีวัจณะพงษ์ สมาชิกสภาเมืองพัทยา ร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยในปีนี้เป็นการจัดการประกวดปีที่ 2 โดยเป็นความร่วมมือกันของเมืองพัทยา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และบริษัท พัทยาเอนเตอร์เทนเม้นท์ รีพลับลิค จำกัด โดยในปีนี้ได้รับการตอบรับจากสาวงามเข้าร่วมประกวดมากถึง 41 คน ซึ่งมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน อาทิ นายบรรจง บัณฑูรประยุกต์ สมาชิกสภาเมืองพัทยา อาจารย์วทัญญู มุ่งหมาย โดยในรอบแรกจัดให้สาวงามแต่ละคนเดินโชว์ตัว พร้อมแนะนำตัวให้คณะกรรมการได้ร่วมตัดสิน และได้ตัดสินรางวัลพิเศษ 6 รางวัล ให้กับสาวงามที่มีความโดดเด่นในแต่ละด้าน ซึ่งสาวงามที่สามารถคว้ารางวัลพิเศษทั้ง 6 รางวัล ได้แก่ รางวัล Miss Beauty Chinese Look ได้แก่ หมายเลข 8 น.ส. รัสรินทร์ ยุกตะสิทธศักดิ์ (ปอ) อายุ 21 ปี รางวัล Miss Perfect Skin ได้แก่ หมายเลข 39 น.ส.เกศโมฬี โรจนประดิษฐ์(ฝ้าย) อายุ 24 ปี รางวัล Miss Healty ได้แก่ หมายเลข 34 น.ส. จิราพร วงศ์ศิริวิมล (ทราย) อายุ 23 ปี รางวัล Miss Pretty Eyes ได้แก่ หมายเลข 14 น.ส. พู่ระหง คิม อาฮิลล์ (คิม) อายุ 15 ปี รางวัล Miss Popular Vote ได้แก่ หมายเลข 2 น.ส. วรรณมน ทองอินทร์ (มน) อายุ 21 ปี รางวัล Miss Photogenic ได้แก่ หมายเลข 13 น.ส.ธันย์ชนก เพ็ชรายุทธพันธ์ (เกรซ) อายุ 20 ปี
และผลการตัดสินผู้ที่สามารถคว้าตำแหน่งมิสกี่เพ้า 2014 ไปครองได้สำเร็จได้แก่ หมายเลข 39 น.ส.เกศโมฬี โรจนประดิษฐ์(ฝ้าย) อายุ 24 ปี จ.กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้รับถ้วยรางวัล, มงกุฎนางงาม,ช่อดอกไม้,สายสะพาย,เงินรางวัล 30,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ หมายเลข 34 น.ส. จิราพร วงศ์ศิริวิมล (ทราย) อายุ 23 ปี มหาวิทยาลัยแพทย์เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้รับถ้วยรางวัล,ช่อดอกไม้,เงินรางวัล 10,000 บาท, รางวัล รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ หมายเลข 37 น.ส. ซาร่า สายสกุลเศรษฐ์ (ซาร่า) อายุ 22 ปี จ.พิจิตร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้รับถ้วยรางวัล,ช่อดอกไม้,เงินรางวัล 5,000 บาท, โดยสาวงามที่ได้รับรางวัลทั้ง 3 ตำแหน่งจะได้รับผลิตภัณฑ์กลูต้า แมคแคลร์ และผลิตภัณฑ์ Nicha Clinic Pattaya
สาวงามจากกรุงเทพมหานครคว้าตำปหน่งมิสกี่เพ้า 2014 ไปครอง พวงด้วยตำแหน่ง Miss Perfect Skin ในการประกวดมิสกี่เพ้า 2014 เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ของศูนย์การค้าสเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช
ช่วงค่ำวันที่ 2 ก.พ. ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนกับงาน Chinese New Year 2014 จัดการประกวดมิสกี่เพ้า 2014 โดยได้รับเกียรติจากนายชูศักดิ์ ศรีวัจณะพงษ์ สมาชิกสภาเมืองพัทยา ร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยในปีนี้เป็นการจัดการประกวดปีที่ 2 โดยเป็นความร่วมมือกันของเมืองพัทยา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และบริษัท พัทยาเอนเตอร์เทนเม้นท์ รีพลับลิค จำกัด โดยในปีนี้ได้รับการตอบรับจากสาวงามเข้าร่วมประกวดมากถึง 41 คน ซึ่งมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน อาทิ นายบรรจง บัณฑูรประยุกต์ สมาชิกสภาเมืองพัทยา อาจารย์วทัญญู มุ่งหมาย โดยในรอบแรกจัดให้สาวงามแต่ละคนเดินโชว์ตัว พร้อมแนะนำตัวให้คณะกรรมการได้ร่วมตัดสิน และได้ตัดสินรางวัลพิเศษ 6 รางวัล ให้กับสาวงามที่มีความโดดเด่นในแต่ละด้าน ซึ่งสาวงามที่สามารถคว้ารางวัลพิเศษทั้ง 6 รางวัล ได้แก่ รางวัล Miss Beauty Chinese Look ได้แก่ หมายเลข 8 น.ส. รัสรินทร์ ยุกตะสิทธศักดิ์ (ปอ) อายุ 21 ปี รางวัล Miss Perfect Skin ได้แก่ หมายเลข 39 น.ส.เกศโมฬี โรจนประดิษฐ์(ฝ้าย) อายุ 24 ปี รางวัล Miss Healty ได้แก่ หมายเลข 34 น.ส. จิราพร วงศ์ศิริวิมล (ทราย) อายุ 23 ปี รางวัล Miss Pretty Eyes ได้แก่ หมายเลข 14 น.ส. พู่ระหง คิม อาฮิลล์ (คิม) อายุ 15 ปี รางวัล Miss Popular Vote ได้แก่ หมายเลข 2 น.ส. วรรณมน ทองอินทร์ (มน) อายุ 21 ปี รางวัล Miss Photogenic ได้แก่ หมายเลข 13 น.ส.ธันย์ชนก เพ็ชรายุทธพันธ์ (เกรซ) อายุ 20 ปี
และผลการตัดสินผู้ที่สามารถคว้าตำแหน่งมิสกี่เพ้า 2014 ไปครองได้สำเร็จได้แก่ หมายเลข 39 น.ส.เกศโมฬี โรจนประดิษฐ์(ฝ้าย) อายุ 24 ปี จ.กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้รับถ้วยรางวัล, มงกุฎนางงาม,ช่อดอกไม้,สายสะพาย,เงินรางวัล 30,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ หมายเลข 34 น.ส. จิราพร วงศ์ศิริวิมล (ทราย) อายุ 23 ปี มหาวิทยาลัยแพทย์เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้รับถ้วยรางวัล,ช่อดอกไม้,เงินรางวัล 10,000 บาท, รางวัล รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ หมายเลข 37 น.ส. ซาร่า สายสกุลเศรษฐ์ (ซาร่า) อายุ 22 ปี จ.พิจิตร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้รับถ้วยรางวัล,ช่อดอกไม้,เงินรางวัล 5,000 บาท, โดยสาวงามที่ได้รับรางวัลทั้ง 3 ตำแหน่งจะได้รับผลิตภัณฑ์กลูต้า แมคแคลร์ และผลิตภัณฑ์ Nicha Clinic Pattaya
ข่าวพัทยา บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งหลังปิดหีบเลือกตั้งโซนพัทยา
บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งหลังปิดหีบเลือกตั้งโซนพัทยา
บรรยากาศการนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 11 เขต 7 จ.ชลบุรี โรงเรียนเมืองพัทยา 5 เป็นไปอย่างเงียบเหงา เพราะมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เพียง 10% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเท่านั้น ทำให้การนับคะแนนเสร็จสิ้นไปอย่างรวดเร็ว โดยพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ ตามด้วยพรรคพลังชล
ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 12 เขต 7 โรงเรียนเมืองพัทยา การนับคะแนนเลือกตั้งหลังจากปิดหีบก็เป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนกันค่อนข้างน้อย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีคะแนนนำ ตามมาด้วยพรรคพลังชล
บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 23 เขต 6 ที่วัดหนองใหญ่ เป็นไปอย่างเงียบเหงาเช่นเดียวกัน ไม่มีประชาชนมาร่วมลุ้นร่วมเชียร์การนับคะแนนหลังปิดหีบ เหมือนเช่นการเลือกตั้งทุกครั้ง ซึ่งการนับคะแนนก็เสร็จสิ้นไปอย่างรวดเร็ว เพราะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ค่อนข้างน้อย
ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 24 เขต 6 วัดหนองใหญ่ ในเขตนี้มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เพียง 10% ของผู้มีสิทธิ์ และผู้มีมาลงคะแนนก็เป็นบัตรเสียและไม่ประสงค์ลงคะแนนเป็นจำนวนมาก รวมกว่า 70 ใบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังคงไม่แน่ใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ยังคงรักษาสิทธิ์ของตนจึงเดินทางมาลงคะแนน
ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 28 เขต 6 วัดหนองใหญ่ บรรยากาศการนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งยังคงเงียบเหงาเช่นกัน โดยในหน่วยเลือกตั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้น 1,001 คน แต่มีผู้มาใช้สิทธิเพียง 10 % เท่านั้น โดยพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำ ตามมาด้วยพรรคพลังชล
ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 29 เขต 6 วัดหนองใหญ่ บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งหลังปิดหีบ การนับคะแนะเสร็จสิ้นช้ากว่าหน่วยเลือกตั้งอื่น โดยในหน่วยเลือกตั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิ์ เพียง 20% ของผู้มีสิทธิ์ โดยพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ ตามด้วยพรรคพลังชล ซึ่งผู้ที่มาลงคะแนนยังคงกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนกันมากกว่า 50 ใบ
บรรยากาศการนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 11 เขต 7 จ.ชลบุรี โรงเรียนเมืองพัทยา 5 เป็นไปอย่างเงียบเหงา เพราะมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เพียง 10% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเท่านั้น ทำให้การนับคะแนนเสร็จสิ้นไปอย่างรวดเร็ว โดยพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ ตามด้วยพรรคพลังชล
ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 12 เขต 7 โรงเรียนเมืองพัทยา การนับคะแนนเลือกตั้งหลังจากปิดหีบก็เป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนกันค่อนข้างน้อย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีคะแนนนำ ตามมาด้วยพรรคพลังชล
บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 23 เขต 6 ที่วัดหนองใหญ่ เป็นไปอย่างเงียบเหงาเช่นเดียวกัน ไม่มีประชาชนมาร่วมลุ้นร่วมเชียร์การนับคะแนนหลังปิดหีบ เหมือนเช่นการเลือกตั้งทุกครั้ง ซึ่งการนับคะแนนก็เสร็จสิ้นไปอย่างรวดเร็ว เพราะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ค่อนข้างน้อย
ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 24 เขต 6 วัดหนองใหญ่ ในเขตนี้มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เพียง 10% ของผู้มีสิทธิ์ และผู้มีมาลงคะแนนก็เป็นบัตรเสียและไม่ประสงค์ลงคะแนนเป็นจำนวนมาก รวมกว่า 70 ใบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังคงไม่แน่ใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ยังคงรักษาสิทธิ์ของตนจึงเดินทางมาลงคะแนน
ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 28 เขต 6 วัดหนองใหญ่ บรรยากาศการนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งยังคงเงียบเหงาเช่นกัน โดยในหน่วยเลือกตั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้น 1,001 คน แต่มีผู้มาใช้สิทธิเพียง 10 % เท่านั้น โดยพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำ ตามมาด้วยพรรคพลังชล
ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 29 เขต 6 วัดหนองใหญ่ บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งหลังปิดหีบ การนับคะแนะเสร็จสิ้นช้ากว่าหน่วยเลือกตั้งอื่น โดยในหน่วยเลือกตั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิ์ เพียง 20% ของผู้มีสิทธิ์ โดยพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ ตามด้วยพรรคพลังชล ซึ่งผู้ที่มาลงคะแนนยังคงกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนกันมากกว่า 50 ใบ
ข่าวชลบุรี บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งเขต 7 ตำบลโป่ง
บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งเขต 7 ตำบลโป่ง
บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งหลังปิดหีบเลือกตั้งโป่ง เขต 7
บรรยากาศการนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 9 หมู่ 9 เทศบาลตำบลโป่ง สถานที่เลือกตั้ง รพ. ส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองตาอุ่น โดยมียอดผู้มีสิทธ์เลือกตั้งทั้งหมด 798 คน ผู้มาใช้สิทธ์ 256 ไม่มาใช้ สิทธ์ 542 โดยพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ ตามมาด้วยพรรคพลังชล
และบรรยากาศการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ 3 ตำบลโป่ง สถานที่เลือกตั้งเทศบาลโป่ง โดยมียอดผู้มีสิทธ์ 598 ผู้มาใช้สิทธ์ 199 ไม่มาใช้สิทธ์ 399 โดยพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ ตามด้วยพรรคพลังชล
ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 2 เขต 7 ศาลาการเปรียญวัดโป่ง การนับคะแนนเลือกตั้งก็เป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนกันค่อนข้างน้อย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีคะแนนนำ ตามมาด้วยพรรคพลังชลเช่นกัน
บรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งหลังปิดหีบเลือกตั้งโป่ง เขต 7
บรรยากาศการนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 9 หมู่ 9 เทศบาลตำบลโป่ง สถานที่เลือกตั้ง รพ. ส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองตาอุ่น โดยมียอดผู้มีสิทธ์เลือกตั้งทั้งหมด 798 คน ผู้มาใช้สิทธ์ 256 ไม่มาใช้ สิทธ์ 542 โดยพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ ตามมาด้วยพรรคพลังชล
และบรรยากาศการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ 3 ตำบลโป่ง สถานที่เลือกตั้งเทศบาลโป่ง โดยมียอดผู้มีสิทธ์ 598 ผู้มาใช้สิทธ์ 199 ไม่มาใช้สิทธ์ 399 โดยพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ ตามด้วยพรรคพลังชล
ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 2 เขต 7 ศาลาการเปรียญวัดโป่ง การนับคะแนนเลือกตั้งก็เป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนกันค่อนข้างน้อย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีคะแนนนำ ตามมาด้วยพรรคพลังชลเช่นกัน
ข่าวนองปรือ โค้งสุดท้ายก่อนปิดหีบเลือกตั้งเขต 7หมู่ 5
โค้งสุดท้ายก่อนปิดหีบเลือกตั้งเขต 7หมู่ 5
บรรยากาศการลงคะแนนช่วงโค้งสุดท้ายก่อนปิดหีบเลือกตั้งเขต7หมู่ที่5ตั้งแต่หน่วยเลือกตั้งที่9ถึง19จำนวน10หน่วย
บรรยากาศการลงคะแนนเสียงโค้งสุดท้ายก่อนปิดหีบเลือกตั้งเขต 7 โดยหน่วยเลือกตั้ง ที่โรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งจำนวน 10 หน่วย เริ่มจากหน่วยที่ 9 ไปจนถึงหน่วยที่ 19 ซึ่งมีประชาชนเดินทางมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลาปิดหีบ
หลังจากปิดหีบเลือกตั้งคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งต่างๆทั้ง 10 หน่วยได้เก็บอุปกรณ์พร้อมทำการนับคะแนนซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมการนับคะแนนของหน่วยต่างๆกันอย่างต่อเนื่อง.
หลังจากนับคะแนนเสร็จคณะกรรมการหน่วยเลือกตั้งต่างๆได้นำบัตรที่คัดเลือกนับเสร็จเรียบร้อย นำส่งศูนย์รวมหีบบัตรที่เวทีสวนสุขภาพเทศบาลเมืองหนองปรือ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พร้อมคณะกรรมการทำการตรวจอุปกรณ์พร้อมหีบบัตรเก็บรักษาไว้เพื่อรอนับคะแนนอีกครั้งในวันที่ 23 กุมภาพัน 2557 ต่อไป
บรรยากาศการลงคะแนนช่วงโค้งสุดท้ายก่อนปิดหีบเลือกตั้งเขต7หมู่ที่5ตั้งแต่หน่วยเลือกตั้งที่9ถึง19จำนวน10หน่วย
บรรยากาศการลงคะแนนเสียงโค้งสุดท้ายก่อนปิดหีบเลือกตั้งเขต 7 โดยหน่วยเลือกตั้ง ที่โรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งจำนวน 10 หน่วย เริ่มจากหน่วยที่ 9 ไปจนถึงหน่วยที่ 19 ซึ่งมีประชาชนเดินทางมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลาปิดหีบ
หลังจากปิดหีบเลือกตั้งคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งต่างๆทั้ง 10 หน่วยได้เก็บอุปกรณ์พร้อมทำการนับคะแนนซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมการนับคะแนนของหน่วยต่างๆกันอย่างต่อเนื่อง.
หลังจากนับคะแนนเสร็จคณะกรรมการหน่วยเลือกตั้งต่างๆได้นำบัตรที่คัดเลือกนับเสร็จเรียบร้อย นำส่งศูนย์รวมหีบบัตรที่เวทีสวนสุขภาพเทศบาลเมืองหนองปรือ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พร้อมคณะกรรมการทำการตรวจอุปกรณ์พร้อมหีบบัตรเก็บรักษาไว้เพื่อรอนับคะแนนอีกครั้งในวันที่ 23 กุมภาพัน 2557 ต่อไป
ข่าวพัทยา บรรยากาศการนับคะแนนตามหน่วยเลือกตั้ง
บรรยากาศการนับคะแนนตามหน่วยเลือกตั้งในเขต 6 ต.บางละมุง และต.หนองปลาไหล
เวลา 15.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวได้เก็บภาพบรรยากาศการปิดหีบเลือกตั้งและการนับคะแนนของหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ที่ 3 ต.บางละมุง ซึ่งตั้งอยู่ที่ศาลาการเปรียญวัดประชุมคงคา ,หน่วยเลือกตั้งที่ 8 หมู่ที่ 4 ตำบลบางละมุง ตั้งอยู่ที่อาคารอเนกประสงค์บ้านบางละมุงฝั่งธน และที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 4 ตำบลหนองปลาไหล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้งของแต่ละหน่วย ได้ทำหน้าที่นับคะแนนการเลือกตั้ง ซึ่งการนับคะแนน ส่วนใหญ่ผู้ที่มาลงคะแนนเลือกเพียง 2 พรรคคือพรรคพลังชลและพรรคเพื่อไทย เมื่อทางเจ้าหน้าที่นับคะแนนเสร็จแล้วจึงได้นำผลคะแนนที่ได้รวบรวมส่งทาง กกต.เพื่อรวมกับทุกหน่วย แล้วจะมีการแจ้งผลรวมให้ประชาชนทราบหลังจากเสร็จการเลือกตั้งล่วงหน้าอีก 1 ครั้ง ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ต่อไป
เวลา 15.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวได้เก็บภาพบรรยากาศการปิดหีบเลือกตั้งและการนับคะแนนของหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ที่ 3 ต.บางละมุง ซึ่งตั้งอยู่ที่ศาลาการเปรียญวัดประชุมคงคา ,หน่วยเลือกตั้งที่ 8 หมู่ที่ 4 ตำบลบางละมุง ตั้งอยู่ที่อาคารอเนกประสงค์บ้านบางละมุงฝั่งธน และที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 4 ตำบลหนองปลาไหล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้งของแต่ละหน่วย ได้ทำหน้าที่นับคะแนนการเลือกตั้ง ซึ่งการนับคะแนน ส่วนใหญ่ผู้ที่มาลงคะแนนเลือกเพียง 2 พรรคคือพรรคพลังชลและพรรคเพื่อไทย เมื่อทางเจ้าหน้าที่นับคะแนนเสร็จแล้วจึงได้นำผลคะแนนที่ได้รวบรวมส่งทาง กกต.เพื่อรวมกับทุกหน่วย แล้วจะมีการแจ้งผลรวมให้ประชาชนทราบหลังจากเสร็จการเลือกตั้งล่วงหน้าอีก 1 ครั้ง ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ต่อไป
ข่าวบางละมุง ยังไม่มีการนับคะแนนผลการเลือกตั้ง
ยังไม่มีการนับคะแนนผลการเลือกตั้ง
ผลการเลือกตั้งไม่มีการนับคะแนนเนื่องจากต้องรอนับผลรวมกับการเลือกตั้งล่วงหน้าและบางหน่วยที่มีปัญหาจากทั่วประเทศ คาดวันที่ 23 ก.พ. 57
เวลา 17.00 น. วันที่ 2 ก.พ. 57 บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอบางละมุง ภายหลังเจ้าหน้าที่ประจำเขตที่ 6 ปิดหีบเลือกตั้งครบทั้ง 160 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งต่างช่วยกันนับคะแนนบริเวณหน่วยเลือกตั้งและปิดล๊อกเพื่อนำส่งยัง กกต.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 6 ณ ที่ว่าการอำเภอบางละมุง โดยนายประพันธ์ ประทุมชมพู ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตที่ 6 ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าเขตเลือกตั้งเขตที่ 6 มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 123,000 ราย ผลการเลือกตั้งทุกหน่วยของเขตที่ 6 ไม่พบการทุจริต และทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ทุกหน่วยสามารถเปิดทำการเลือกตั้งได้อย่างราบรื่น ในส่วนของการเปิดหีบบัตรนับคะแนนนั้นยังไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากต้องรอการนับคะแนนรวมกับการเลือกตั้งล่วงหน้าและการเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่มีปัญหาก่อน คาดว่าน่าจะทราบผลชัดเจนในวันที่ 23 ก.พ. นี้ สำหรับผู้ที่มีรายชื่อตกหล่นต้องมาแจ้งต่อนายทะเบียนที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่ และต้องแจ้งก่อนวันที่ 3 – 9 ก.พ. 57
ผลการเลือกตั้งไม่มีการนับคะแนนเนื่องจากต้องรอนับผลรวมกับการเลือกตั้งล่วงหน้าและบางหน่วยที่มีปัญหาจากทั่วประเทศ คาดวันที่ 23 ก.พ. 57
เวลา 17.00 น. วันที่ 2 ก.พ. 57 บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอบางละมุง ภายหลังเจ้าหน้าที่ประจำเขตที่ 6 ปิดหีบเลือกตั้งครบทั้ง 160 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งต่างช่วยกันนับคะแนนบริเวณหน่วยเลือกตั้งและปิดล๊อกเพื่อนำส่งยัง กกต.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 6 ณ ที่ว่าการอำเภอบางละมุง โดยนายประพันธ์ ประทุมชมพู ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตที่ 6 ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าเขตเลือกตั้งเขตที่ 6 มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 123,000 ราย ผลการเลือกตั้งทุกหน่วยของเขตที่ 6 ไม่พบการทุจริต และทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ทุกหน่วยสามารถเปิดทำการเลือกตั้งได้อย่างราบรื่น ในส่วนของการเปิดหีบบัตรนับคะแนนนั้นยังไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากต้องรอการนับคะแนนรวมกับการเลือกตั้งล่วงหน้าและการเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่มีปัญหาก่อน คาดว่าน่าจะทราบผลชัดเจนในวันที่ 23 ก.พ. นี้ สำหรับผู้ที่มีรายชื่อตกหล่นต้องมาแจ้งต่อนายทะเบียนที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่ และต้องแจ้งก่อนวันที่ 3 – 9 ก.พ. 57
ข่าวสัตหีบ บรรยากาศการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง อำเภอสัตหีบ
บรรยากาศการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง อำเภอสัตหีบ
ชลบุรี-เลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี ทำตลกอ้าง กกต กลาง ไม่ให้แจ้งผลการเลือกตั้ง
เวลา 19.00 น.วันที่ 2 ก.พ.57 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 8 และเป็นอำเภอเดียว ที่มีหน่วยเลือกตั้งมากถึง 141 หน่วยว่า หลังปิดหีบทุกหน่วยได้ทยอยกันนับผลคะแนน ณ จุดเลือกตั้งของแต่ละหน่วยการเลือกตั้ง ภายหลังปิดหีบและมีการนับคะแนนครบทั้ง 141 หน่วย แล้ว ปรากฏว่า ผอ.กกต.เลือกตั้ง ไม่สามารถแจ้งผลการนับคะแนน ให้กับประชาชนที่มาเฝ้าดูผลการเลือกตั้งได้
จากการสอบถาม นายวันชาติ วรรณพราหมณ์ ปลัดอำเภอสัตหีบ ในฐานะ ผอ.กกต.เขต 8 ชลบุรี กล่าวว่า เป็นคำสั่งด่วนมากจาก กกต.กลางให้รอการ เลือกตั้งล่วงหน้าที่ต้องจัดขึ้นใหม่อีกครั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อรวบรวมจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง บัตรดี และบัตรเสีย ถึงจะรับรองและประกาศผล
ส่วนผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ในหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งที่นับคะแนนแล้วเสร็จ พบว่า พรรคที่มีคะแนนนำ คือ พรรคเพื่อไทย สามารถกวาดคะแนนนำชนิดทิ้งพรรคคู่แข่งอย่างขาดลอย ส่วนพรรคพลังชล มาเป็นอันดับที่ 2 และ ผู้สมัครจาก พรรคชาติพัฒนามาเป็นอันดับที่ 3 และบัตรผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนมีเป็นจำนวนมาก
ชลบุรี-เลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี ทำตลกอ้าง กกต กลาง ไม่ให้แจ้งผลการเลือกตั้ง
เวลา 19.00 น.วันที่ 2 ก.พ.57 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 8 และเป็นอำเภอเดียว ที่มีหน่วยเลือกตั้งมากถึง 141 หน่วยว่า หลังปิดหีบทุกหน่วยได้ทยอยกันนับผลคะแนน ณ จุดเลือกตั้งของแต่ละหน่วยการเลือกตั้ง ภายหลังปิดหีบและมีการนับคะแนนครบทั้ง 141 หน่วย แล้ว ปรากฏว่า ผอ.กกต.เลือกตั้ง ไม่สามารถแจ้งผลการนับคะแนน ให้กับประชาชนที่มาเฝ้าดูผลการเลือกตั้งได้
จากการสอบถาม นายวันชาติ วรรณพราหมณ์ ปลัดอำเภอสัตหีบ ในฐานะ ผอ.กกต.เขต 8 ชลบุรี กล่าวว่า เป็นคำสั่งด่วนมากจาก กกต.กลางให้รอการ เลือกตั้งล่วงหน้าที่ต้องจัดขึ้นใหม่อีกครั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อรวบรวมจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง บัตรดี และบัตรเสีย ถึงจะรับรองและประกาศผล
ส่วนผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ในหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งที่นับคะแนนแล้วเสร็จ พบว่า พรรคที่มีคะแนนนำ คือ พรรคเพื่อไทย สามารถกวาดคะแนนนำชนิดทิ้งพรรคคู่แข่งอย่างขาดลอย ส่วนพรรคพลังชล มาเป็นอันดับที่ 2 และ ผู้สมัครจาก พรรคชาติพัฒนามาเป็นอันดับที่ 3 และบัตรผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนมีเป็นจำนวนมาก
ข่าวชลบุรี กกต.แถลงสรุปสถานการณ์การเลือกตั้ง
กกต.แถลงสรุปสถานการณ์การเลือกตั้ง
หลังการเลือกตั้ง กกต.ได้เปิดการแถลงสรุปสถานการณ์การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557
เวลา 16.00 น. ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง นำโดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. พร้อมคณะ ประกอบด้วย รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร นายประวิช รัตนเพียร นายบุญส่ง น้อยโสภณ และนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ ร่วมกันแถลงสรุปผลสถานการณ์การเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศ ณ ที่ทำการชั่วคราวคณะกรรมการการเลือกตั้ง ศาลาเฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง จ.ชลบุรี
กกต. กล่าวว่า สืบเนื่องตั้งแต่ที่ กกต.ออกประกาศรับสมัคร ส.ส. เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2556 ก็เกิดอุปสรรคจากการชุมนุมปิดล้อมสถานที่รับสมัครเรื่อยมาทั้งใน กทม. และหลายจังหวัดภาคใต้ ทำให้ไม่สามารถรับสมัครผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้ถึง 28 เขต รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากฝ่ายต่าง ๆ และสำนักงานการเลือกตั้งส่วนกลางและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดหลายแห่งถูกปิดล้อม ไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ด้วยความรับผิดชอบต่อหน้าที่กกต.ได้พยายามทุกช่องทางที่จะทำให้สามารถทำงานตามอำนาจหน้าที่ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ได้หยุดทำงานแม้แต่วันเดียว ถึงแม้จะกระจายกันอยู่คนละที่ก็ตาม
ซึ่งสถานการณ์การเลือกตั้งในครั้งนี้มีจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 93,952 หน่วย เปิดลงคะแนนได้ 83,813 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 89.2 และใน 77 จังหวัด มีการประกาศงดลงคะแนนใน 18 จังหวัด แบ่งเป็นงดลงคะแนนทั้งจังหวัด 9 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ ภูเก็ต พัทลุง สงขลา และตรัง งดลงคะแนนบางส่วน 9 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ สตูล นครศรีธรรมราช ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 69 เขต ส่วนจำนวนเขตที่ประกาศงดลงคะแนนทั้งเขตมี 37 เขต งดลงคะแนนบางส่วน 32 เขต
แต่อย่างไรก็ตาม กกต.ไม่สามารถประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งในภาพรวมทั้งประเทศได้ เพราะตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. และระเบียบ กกต. กำหนดให้ผลการนับคะแนนเลือกตั้งต้องประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ผลการนับคะแนนของหน่วยเลือกตั้ง ผลการนับคะแนนเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้ง และผลการนับคะแนนเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกอาณาจักร แต่เนื่องจากมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ไม่สามารถลงคะแนนได้ ทาง กกต.จึงอยู่ระหว่างศึกษากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มดังกล่าวได้ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 รวมทั้งอยู่ระหว่างเตรียมประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรีในการดำเนินการเยียวยากรณี 28 เขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
หลังการเลือกตั้ง กกต.ได้เปิดการแถลงสรุปสถานการณ์การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557
เวลา 16.00 น. ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง นำโดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. พร้อมคณะ ประกอบด้วย รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร นายประวิช รัตนเพียร นายบุญส่ง น้อยโสภณ และนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ ร่วมกันแถลงสรุปผลสถานการณ์การเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศ ณ ที่ทำการชั่วคราวคณะกรรมการการเลือกตั้ง ศาลาเฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง จ.ชลบุรี
กกต. กล่าวว่า สืบเนื่องตั้งแต่ที่ กกต.ออกประกาศรับสมัคร ส.ส. เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2556 ก็เกิดอุปสรรคจากการชุมนุมปิดล้อมสถานที่รับสมัครเรื่อยมาทั้งใน กทม. และหลายจังหวัดภาคใต้ ทำให้ไม่สามารถรับสมัครผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้ถึง 28 เขต รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากฝ่ายต่าง ๆ และสำนักงานการเลือกตั้งส่วนกลางและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดหลายแห่งถูกปิดล้อม ไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ด้วยความรับผิดชอบต่อหน้าที่กกต.ได้พยายามทุกช่องทางที่จะทำให้สามารถทำงานตามอำนาจหน้าที่ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ได้หยุดทำงานแม้แต่วันเดียว ถึงแม้จะกระจายกันอยู่คนละที่ก็ตาม
ซึ่งสถานการณ์การเลือกตั้งในครั้งนี้มีจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 93,952 หน่วย เปิดลงคะแนนได้ 83,813 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 89.2 และใน 77 จังหวัด มีการประกาศงดลงคะแนนใน 18 จังหวัด แบ่งเป็นงดลงคะแนนทั้งจังหวัด 9 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ ภูเก็ต พัทลุง สงขลา และตรัง งดลงคะแนนบางส่วน 9 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ สตูล นครศรีธรรมราช ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 69 เขต ส่วนจำนวนเขตที่ประกาศงดลงคะแนนทั้งเขตมี 37 เขต งดลงคะแนนบางส่วน 32 เขต
แต่อย่างไรก็ตาม กกต.ไม่สามารถประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งในภาพรวมทั้งประเทศได้ เพราะตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. และระเบียบ กกต. กำหนดให้ผลการนับคะแนนเลือกตั้งต้องประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ผลการนับคะแนนของหน่วยเลือกตั้ง ผลการนับคะแนนเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้ง และผลการนับคะแนนเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกอาณาจักร แต่เนื่องจากมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ไม่สามารถลงคะแนนได้ ทาง กกต.จึงอยู่ระหว่างศึกษากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มดังกล่าวได้ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 รวมทั้งอยู่ระหว่างเตรียมประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรีในการดำเนินการเยียวยากรณี 28 เขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
Friday, January 31, 2014
ข่าวศรีราชา รถจักรยานยนต์ ถูกรถสิบล้อชน
รถจักรยานยนต์ ถูกรถสิบล้อชนท้าย เสียหลักพลิกคว่ำ เสียชีวิต ส่วนคนขับรถสิบล้อหลบหนีไปอย่างลอยนวล
ร.ต.ท.วิศิษฐ์ โพธิ์ศรี พนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุเพียว เยี้ยงไท้ ศรีราชา ว่าเกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ถูกรถ 10 ล้อชนท้ายแล้วหลบหนี ช่วงคอสะพานตอพยอม ถ.สุขาภิบาล 8 หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมกับหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา
ซึ่งในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีแดง-ดำ สภาพท้ายพังยับเยิน ใกล้กันยังพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1ราย ชื่อนายณัฐพล เกตุสุวรรณ อายุ 22 ปี ชาว จ.จันท บุรี สภาพศพมีแผลที่ใบหน้าเลือดออกจมูก คอหัก ส่วนรถสิบล้อที่ก่อเหตุนั้นได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงถ่ายภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มุ่งหน้าขึ้นสะพานไปทำงานที่เครือสหพัฒน์ ศรีราชา และมาถึงที่เกิดเหตุนั้นได้มีรถสิบล้อไม่ทราบสีและทะเบียนพุ่งชนท้ายรถของผู้ตายอย่างแรง จึงเป็นเหตุรถจักรยานยนต์ของผู้ตายพลิกคว่ำร่างกระแทกกับพื้นถนนหลายตลบ และทำให้ผู้ตายเสียชีวิตตามดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมอบศพให้หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรอีกครั้ง และส่วนคนขับรถสิบล้อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ร.ต.ท.วิศิษฐ์ โพธิ์ศรี พนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุเพียว เยี้ยงไท้ ศรีราชา ว่าเกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ถูกรถ 10 ล้อชนท้ายแล้วหลบหนี ช่วงคอสะพานตอพยอม ถ.สุขาภิบาล 8 หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมกับหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา
ซึ่งในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีแดง-ดำ สภาพท้ายพังยับเยิน ใกล้กันยังพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1ราย ชื่อนายณัฐพล เกตุสุวรรณ อายุ 22 ปี ชาว จ.จันท บุรี สภาพศพมีแผลที่ใบหน้าเลือดออกจมูก คอหัก ส่วนรถสิบล้อที่ก่อเหตุนั้นได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงถ่ายภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มุ่งหน้าขึ้นสะพานไปทำงานที่เครือสหพัฒน์ ศรีราชา และมาถึงที่เกิดเหตุนั้นได้มีรถสิบล้อไม่ทราบสีและทะเบียนพุ่งชนท้ายรถของผู้ตายอย่างแรง จึงเป็นเหตุรถจักรยานยนต์ของผู้ตายพลิกคว่ำร่างกระแทกกับพื้นถนนหลายตลบ และทำให้ผู้ตายเสียชีวิตตามดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมอบศพให้หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรอีกครั้ง และส่วนคนขับรถสิบล้อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ข่าวสัตหีบ นายทหารเรือ ยืนโบกรถ โดนสาวซิ่งเก๋งพุ่งชน
นายทหารเรือ ยืนโบกรถ โดนสาวซิ่งเก๋งพุ่งชน
นายทหารเรือ ยืนโบกรถให้น้องชายอยู่ริมถนน ได้มีเก๋งซิ่งมาอย่างแรงพุ่งชนจนอาการบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 31 ม.ค. 57 ร.ต.ท.วิศิษฐ์ จันทนะลิขิต พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งพุ่งชนคนเดินเท้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนขาเข้า ซอยบ่อนไก่ อ.สัตหีบ จึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีแดง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้ารถแตกร้าว โดยมี น.ส.สุนิสา คาร์เซ่น อายุ 39 ปี เป็นคนขับ กำลังอยู่ในอาการตกใจ ใกล้กันหน้ารถพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อ เรือโทประเทือง อ่วมประเสริฐ อายุ 72 ปี นายทหารเรือ นอกราชการ สภาพนอนหมดสติหายใจรวยริน และตามร่างกายมีบาด แผลหลายแห่ง ในที่เกิดเหตุยังพบรถเก๋ง เชฟโรเลต สีบรอนซ์ทอง ซึ่งอยู่คันหน้าถูกร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บกระเด็นไปกระแทกจนได้รับความเสียหาย โดยมี นายไทย สมพงษ์ อายุ 57 ปีเป็นเจ้าของรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ได้ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษายังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เป็นการด่วน สอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เรือโทประเทือง กำลังยืนอยู่บนถนนเพื่อโบกรถเก๋งเชฟโรเลตของน้องชาย ที่กำลังถอยเข้าจอดภายในบ้าน ทันใดนั้น ได้มีรถเก๋งของ น.ส.สุนิสา วิ่งตามหลังมาด้วยความเร็วพุ่งชนอย่างจัง จนร่างของ เรือโทประเทือง กระเด็นขึ้นมากระแทกกับกระจกหน้ารถ ก่อนกระเด็นไปกระแทกกับรถเก๋งที่จอดอยู่คันหน้า จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่า ขณะเกิดเหตุได้ประมาทไม่ทันระวัง จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว
นายทหารเรือ ยืนโบกรถให้น้องชายอยู่ริมถนน ได้มีเก๋งซิ่งมาอย่างแรงพุ่งชนจนอาการบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 31 ม.ค. 57 ร.ต.ท.วิศิษฐ์ จันทนะลิขิต พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งพุ่งชนคนเดินเท้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนขาเข้า ซอยบ่อนไก่ อ.สัตหีบ จึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีแดง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้ารถแตกร้าว โดยมี น.ส.สุนิสา คาร์เซ่น อายุ 39 ปี เป็นคนขับ กำลังอยู่ในอาการตกใจ ใกล้กันหน้ารถพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อ เรือโทประเทือง อ่วมประเสริฐ อายุ 72 ปี นายทหารเรือ นอกราชการ สภาพนอนหมดสติหายใจรวยริน และตามร่างกายมีบาด แผลหลายแห่ง ในที่เกิดเหตุยังพบรถเก๋ง เชฟโรเลต สีบรอนซ์ทอง ซึ่งอยู่คันหน้าถูกร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บกระเด็นไปกระแทกจนได้รับความเสียหาย โดยมี นายไทย สมพงษ์ อายุ 57 ปีเป็นเจ้าของรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ได้ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษายังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เป็นการด่วน สอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เรือโทประเทือง กำลังยืนอยู่บนถนนเพื่อโบกรถเก๋งเชฟโรเลตของน้องชาย ที่กำลังถอยเข้าจอดภายในบ้าน ทันใดนั้น ได้มีรถเก๋งของ น.ส.สุนิสา วิ่งตามหลังมาด้วยความเร็วพุ่งชนอย่างจัง จนร่างของ เรือโทประเทือง กระเด็นขึ้นมากระแทกกับกระจกหน้ารถ ก่อนกระเด็นไปกระแทกกับรถเก๋งที่จอดอยู่คันหน้า จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่า ขณะเกิดเหตุได้ประมาทไม่ทันระวัง จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว
ข่าวชลบุรี รถจักรยานยนต์ถูกรถกระบะชนแล้วเหยียบซ้ำ
รถจักรยานยนต์ถูกรถกระบะชนแล้วเหยียบซ้ำ
เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะแล้วถูกเหยียบซ้ำ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ร.ต.ท.วิศิษฐ์ โพธิ์ศรี พนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ว่ามีเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะและมีผู้เสียชีวิตที่เส้นทางวัดบ่อหิน หมู่ 5 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ในสภาพศีรษะแตกคอหักและขาทั้งสองข้างหักฉีกขาดเป็นแผลฉกรรจ์ นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ทราบชื่อคือนางสาว พรณภา นบสูงเนิน อายุ 34 ปี ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊บปี๊ไอ สีแดง ของผู้เสียชีวิตล้มค่ำอยู่ในสภาพพังเสียหายยับเยินทั้งคัน และลงไปในซอยประมาณ 200 เมตร หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา พบรถกระบะอีซูซุ สีบรอน-ทอง จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าพังเสียหายและที่ล้อหลังด้านขวามีรอยคราบเลือดกระจายเต็มล้อและกระบะด้านท้าย หลังจากนั้นเจ้าหน้า ที่จึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง และรอญาติมาติดต่อ พร้อมเชิญตัวคนขับรถกระบะไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะแล้วถูกเหยียบซ้ำ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ร.ต.ท.วิศิษฐ์ โพธิ์ศรี พนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ว่ามีเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะและมีผู้เสียชีวิตที่เส้นทางวัดบ่อหิน หมู่ 5 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ในสภาพศีรษะแตกคอหักและขาทั้งสองข้างหักฉีกขาดเป็นแผลฉกรรจ์ นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ทราบชื่อคือนางสาว พรณภา นบสูงเนิน อายุ 34 ปี ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊บปี๊ไอ สีแดง ของผู้เสียชีวิตล้มค่ำอยู่ในสภาพพังเสียหายยับเยินทั้งคัน และลงไปในซอยประมาณ 200 เมตร หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา พบรถกระบะอีซูซุ สีบรอน-ทอง จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าพังเสียหายและที่ล้อหลังด้านขวามีรอยคราบเลือดกระจายเต็มล้อและกระบะด้านท้าย หลังจากนั้นเจ้าหน้า ที่จึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง และรอญาติมาติดต่อ พร้อมเชิญตัวคนขับรถกระบะไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวพัทยา หนุ่มเดนมาร์ค อ้างถูกโจ๋รัสเซียรุมทำร้ายใช้มีดฟัน
หนุ่มเดนมาร์ค อ้างถูกโจ๋รัสเซียรุมทำร้ายใช้มีดฟัน
หนุ่มเดนมาร์ค อ้างถูกชายชาวรัสเซียรุมทำร้ายโดยใช้มีดฟัน ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส
พ.ต.ท.ภัทรศา เดชภาคย์กุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งว่ามีชาวต่าง ชาติถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดได้รับาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณสวนสาธารณะหน้าโรงแรมรอยัล คลิป พระตำหนัก หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยรุดทำการช่วยเหลือส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียล
เมื่อไปตรวจสอบยังห้องฉุกเฉิน พบผู้บาดเจ็บเป็นชายชาวต่างชาติ ทราบชื่อคือ MR.VASILIY KLAUSEN อายุ 25 ปี สัญชาติเดนมาร์ค มีบาดแผลถูกของมีคมเข้าที่บริเวณแขนซ้าย และหน้าอกด้านขวา เป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส สอบถามเบื้องต้นทราบว่าถูกผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวรัสเซีย 2 คน รุมทำร้ายและใช้อาวุธมีดฟันจนได้รับบาดเจ็บ แล้วพากันหลบหนีไป จนมีชาวบ้านมาพบและพามายังป้อมตำรวจและแจ้งหน่วยกู้ภัยมาช่วยนำส่ง รพ.ดังกล่าว
ภายหลังจากการสอบสวนแล้วเจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบเพียงหยดเลือดเป็นทาง และจากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงไม่มีใครทราบเรื่องแต่อย่างใด ซึ่งจากการสอบถามไปยังเมืองพัทยาเพื่อตรวจอบภาพจากกล้องวงจรปิดแต่กล้องไม่สามารถใช้การได้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนตัวผู้บาดเจ็บอีกครั้งหลังจากการรักษาตัวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แท้จริงต่อไป
หนุ่มเดนมาร์ค อ้างถูกชายชาวรัสเซียรุมทำร้ายโดยใช้มีดฟัน ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส
พ.ต.ท.ภัทรศา เดชภาคย์กุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งว่ามีชาวต่าง ชาติถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดได้รับาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณสวนสาธารณะหน้าโรงแรมรอยัล คลิป พระตำหนัก หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยรุดทำการช่วยเหลือส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียล
เมื่อไปตรวจสอบยังห้องฉุกเฉิน พบผู้บาดเจ็บเป็นชายชาวต่างชาติ ทราบชื่อคือ MR.VASILIY KLAUSEN อายุ 25 ปี สัญชาติเดนมาร์ค มีบาดแผลถูกของมีคมเข้าที่บริเวณแขนซ้าย และหน้าอกด้านขวา เป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส สอบถามเบื้องต้นทราบว่าถูกผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวรัสเซีย 2 คน รุมทำร้ายและใช้อาวุธมีดฟันจนได้รับบาดเจ็บ แล้วพากันหลบหนีไป จนมีชาวบ้านมาพบและพามายังป้อมตำรวจและแจ้งหน่วยกู้ภัยมาช่วยนำส่ง รพ.ดังกล่าว
ภายหลังจากการสอบสวนแล้วเจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบเพียงหยดเลือดเป็นทาง และจากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงไม่มีใครทราบเรื่องแต่อย่างใด ซึ่งจากการสอบถามไปยังเมืองพัทยาเพื่อตรวจอบภาพจากกล้องวงจรปิดแต่กล้องไม่สามารถใช้การได้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนตัวผู้บาดเจ็บอีกครั้งหลังจากการรักษาตัวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แท้จริงต่อไป
ข่าวสัตหีบ พ่อค้าขายปลาอ้างถูกมนต์ดำ นำตัวไปตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง แต่ยังให้การปฏิเสธ
พ่อค้าขายปลาอ้างถูกมนต์ดำ นำตัวไปตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง แต่ยังให้การปฏิเสธ
พ่อค้าขายปลา อ้างถูกมนต์ดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดพบปัสสาวะเป็นสีม่วง แต่ให้การปฏิเสธไม่ได้เสพยาบ้า เพียงแต่กินยาแก้ปวดเท่านั้น
เมื่อเวลา11.00 น.วันที่ 30 ม.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอสัตหีบ นำโดย นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ นำกำลังวางแผนล่อซื้อยาเสพติด ที่วัดอัมพาราม ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ เป็นจุดวางแผน ได้มีหนุ่มใหญ่ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาสอบถามหาเจ้าอาวาสวัด ในสภาพเนื้อตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า มาขอให้เจ้าอาวาสช่วยเหลือ หลังอ้างว่าโดนคุณไสย ถูกวิญญาณเข้าสิง
จากการตรวจสอบทราบชื่อ นายธัญญา แก้วงาม อายุ 50 ปี อาชีพขายปลา ให้การว่าได้เดินทางออกมาจากห้องเช่า เพื่อมาขอพบเจ้าอาวาสหลังมีชาวบ้านลือว่า มีน้ำมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ สามารถป้องกันไสยศาสตร์ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 วันได้เกิดทะเลาะมีปากเสียงกับข้างห้องที่อาศัยอยู่เป็นชาวกัมพูชา เนื่องจากชอบส่งเสียงดังรบกวน จากนั้นเวลานอนก็ได้ยินแต่เสียงสวดมนต์เป็นภาษาเขมรแว่วอยู่ในหัว ทำให้ร่างกายมีการสั่น ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ คล้ายคนถูกมนต์ดำ จนไม่สามารถอาศัยอยู่ในห้องได้ จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าอาวาส เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำน้ำมนต์จากศาลามาให้ดื่ม และพรมปัดรังควาญ แต่อาการไม่ดีขึ้น
ซึ่งจากการสังเกตอาการดูเหมือนลักษณะคนเสพยาบ้า เจ้าหน้าที่จึงขออนุญาตตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงจับใส่กุญแจมือ ฐานเสพยาเสพติด ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จากอาการที่คล้ายคนถูกมนต์ดำได้หายเป็นปลิดทิ้ง แต่นายธัญญา ได้ให้การปฏิเสธไม่ได้เสพยาบ้า เพียงแต่กินยาแก้ปวดทิพฟี่เข้าไป เจ้าหน้าที่จึงตรวจพิสูจน์หลักฐานด้วยการนำยาแก้ปวดทิฟฟี่ ผสมกับน้ำแล้วตรวจ ผลออกมาเป็นบวกจริง จึงถือไม่มีความผิด จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต่างตั้งคำถามหลายอย่าง บ้างก็คิดว่าชายคนนี้โดนมนต์ดำ หรือถูกผีเข้าสิงจริงไหม และทำไมเมื่อถูกจับใส่กุญแจมือ มนต์ดำและดวงวิญญาณจึงออกจากร่างไปทันควัน แสดงว่ากุญแจมือจะช่วยมนต์ดำและผีได้จริง หรือชายคนนี้ก็ตกใจกลัวถูกจับติดคุกจนลืมไปว่าถูกผีเข้าอยู่
พ่อค้าขายปลา อ้างถูกมนต์ดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดพบปัสสาวะเป็นสีม่วง แต่ให้การปฏิเสธไม่ได้เสพยาบ้า เพียงแต่กินยาแก้ปวดเท่านั้น
เมื่อเวลา11.00 น.วันที่ 30 ม.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอสัตหีบ นำโดย นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ นำกำลังวางแผนล่อซื้อยาเสพติด ที่วัดอัมพาราม ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ เป็นจุดวางแผน ได้มีหนุ่มใหญ่ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาสอบถามหาเจ้าอาวาสวัด ในสภาพเนื้อตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า มาขอให้เจ้าอาวาสช่วยเหลือ หลังอ้างว่าโดนคุณไสย ถูกวิญญาณเข้าสิง
จากการตรวจสอบทราบชื่อ นายธัญญา แก้วงาม อายุ 50 ปี อาชีพขายปลา ให้การว่าได้เดินทางออกมาจากห้องเช่า เพื่อมาขอพบเจ้าอาวาสหลังมีชาวบ้านลือว่า มีน้ำมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ สามารถป้องกันไสยศาสตร์ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 วันได้เกิดทะเลาะมีปากเสียงกับข้างห้องที่อาศัยอยู่เป็นชาวกัมพูชา เนื่องจากชอบส่งเสียงดังรบกวน จากนั้นเวลานอนก็ได้ยินแต่เสียงสวดมนต์เป็นภาษาเขมรแว่วอยู่ในหัว ทำให้ร่างกายมีการสั่น ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ คล้ายคนถูกมนต์ดำ จนไม่สามารถอาศัยอยู่ในห้องได้ จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าอาวาส เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำน้ำมนต์จากศาลามาให้ดื่ม และพรมปัดรังควาญ แต่อาการไม่ดีขึ้น
ซึ่งจากการสังเกตอาการดูเหมือนลักษณะคนเสพยาบ้า เจ้าหน้าที่จึงขออนุญาตตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงจับใส่กุญแจมือ ฐานเสพยาเสพติด ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จากอาการที่คล้ายคนถูกมนต์ดำได้หายเป็นปลิดทิ้ง แต่นายธัญญา ได้ให้การปฏิเสธไม่ได้เสพยาบ้า เพียงแต่กินยาแก้ปวดทิพฟี่เข้าไป เจ้าหน้าที่จึงตรวจพิสูจน์หลักฐานด้วยการนำยาแก้ปวดทิฟฟี่ ผสมกับน้ำแล้วตรวจ ผลออกมาเป็นบวกจริง จึงถือไม่มีความผิด จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต่างตั้งคำถามหลายอย่าง บ้างก็คิดว่าชายคนนี้โดนมนต์ดำ หรือถูกผีเข้าสิงจริงไหม และทำไมเมื่อถูกจับใส่กุญแจมือ มนต์ดำและดวงวิญญาณจึงออกจากร่างไปทันควัน แสดงว่ากุญแจมือจะช่วยมนต์ดำและผีได้จริง หรือชายคนนี้ก็ตกใจกลัวถูกจับติดคุกจนลืมไปว่าถูกผีเข้าอยู่
ข่าวพัทยา คณะผู้บริหารเมืองพัทยาสักการะเทพเจ้า
คณะผู้บริหารเมืองพัทยาสักการะเทพเจ้า
คณะผู้บริหารเมืองพัทยาและคณะกรรมการมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยาไหว้สักการะ ขอพรจากองค์เทพเจ้า ในวันตรุษจีน ที่เซียนซือ นาเกลือ
เวลา 10.00 น. วันที่ 30 ก.พ. 57 ที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา คณะผู้บริหารเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยา นำโดยนายวัฒนา จันทนวรานนท์ รองนายกเมืองพัทยา เดินทางเข้ากราบไหว้สักการะและขอพรองค์เทพเจ้า เนื่องในวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีน โดยมีนายวิสิทธิ์ ชวลิตนิติธรรม ประธานมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ ทองทิตย์ เจริญ ประธานหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา และคณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ ให้การต้อนรับและนำกราบไหว้ ซึ่งบรรยากาศมีการจุดประทัดรับมังกรทองและสิงโตทอง ที่มาแสดง และรับอั่งเปา จากผู้ใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังพบว่าเหล่าสาธุชนยังคงแห่เข้าสักการะขอพรจากเทพเจ้าและแก้ปีชงอย่างต่อเนื่อง
คณะผู้บริหารเมืองพัทยาและคณะกรรมการมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยาไหว้สักการะ ขอพรจากองค์เทพเจ้า ในวันตรุษจีน ที่เซียนซือ นาเกลือ
เวลา 10.00 น. วันที่ 30 ก.พ. 57 ที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา คณะผู้บริหารเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยา นำโดยนายวัฒนา จันทนวรานนท์ รองนายกเมืองพัทยา เดินทางเข้ากราบไหว้สักการะและขอพรองค์เทพเจ้า เนื่องในวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีน โดยมีนายวิสิทธิ์ ชวลิตนิติธรรม ประธานมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ ทองทิตย์ เจริญ ประธานหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา และคณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ ให้การต้อนรับและนำกราบไหว้ ซึ่งบรรยากาศมีการจุดประทัดรับมังกรทองและสิงโตทอง ที่มาแสดง และรับอั่งเปา จากผู้ใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังพบว่าเหล่าสาธุชนยังคงแห่เข้าสักการะขอพรจากเทพเจ้าและแก้ปีชงอย่างต่อเนื่อง
ข่าวพัทยา คณะผู้บริหารเมืองพัทยาเมืองพัทยา ร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
คณะผู้บริหารเมืองพัทยาเมืองพัทยา ร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพัทยา เนื่องในเทศกาลตรุษจีน เพื่อความเป็นสิริมงคล
ช่วงเช้าที่หน้าศาลาว่าการเมืองพัทยา นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายวัฒนา จันทรวรานนท์ นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา นายอุฤทธิ์ นันทสุรศักดิ์ ประธานสภาเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยา ได้ร่วมกันประกอบพิธีสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคล และ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน โดยมีการจัดเครื่องเครื่องเซ่นไหว้ มาสักการะแด่พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งบรรยากาศภายในพิธี มีการแสดงสิงโต และมังกรทอง โดยมีเหล่าข้าราชการพนักงานเมืองพัทยาเข้าร่วมในพิธี
จากนั้น นายอุฤทธิ์ นันทสุรศักดิ์ ประธานสภาเมืองพัทยา พร้อมด้วยเหล่า สมาชิกสภาเมืองพัทยา ข้าราชการพนักงาน เมืองพัทยา ได้เดินทางไปยังเขา สทร.5 เพื่อทำการสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองพัทยา และประชาชนทั่วไป โดยบรรยากาศในวันนี้พบว่า มีพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ต่างพากันนำเครื่องสักการะ มาไหว้สักการะขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นจำนวนมาก
ช่วงเช้าที่หน้าศาลาว่าการเมืองพัทยา นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายวัฒนา จันทรวรานนท์ นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา นายอุฤทธิ์ นันทสุรศักดิ์ ประธานสภาเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยา ได้ร่วมกันประกอบพิธีสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคล และ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน โดยมีการจัดเครื่องเครื่องเซ่นไหว้ มาสักการะแด่พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งบรรยากาศภายในพิธี มีการแสดงสิงโต และมังกรทอง โดยมีเหล่าข้าราชการพนักงานเมืองพัทยาเข้าร่วมในพิธี
จากนั้น นายอุฤทธิ์ นันทสุรศักดิ์ ประธานสภาเมืองพัทยา พร้อมด้วยเหล่า สมาชิกสภาเมืองพัทยา ข้าราชการพนักงาน เมืองพัทยา ได้เดินทางไปยังเขา สทร.5 เพื่อทำการสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองพัทยา และประชาชนทั่วไป โดยบรรยากาศในวันนี้พบว่า มีพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ต่างพากันนำเครื่องสักการะ มาไหว้สักการะขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นจำนวนมาก
Subscribe to:
Posts (Atom)