รอง ผบช.ภ.2 ประชุมสางคดีไอ้หื่นฆ่าโหดเด็ก 3 ศพ
รอง ผบช.ภ.2 รุดประชุมสางคดีไอ้หื่นฆ่าโหดเด็ก 3 ศพ ล่าสุดพบซิมโทรศัพท์ของสาวเคราะห์ร้ายวัย 18 ปีถูกทิ้งไว้ในปั๊มน้ำมัน คาดหนีไปกบดานเมืองกรุง ขณะที่พ่อเด็กชาวอเมริกันรู้ข่าวแทบช็อค รีบบินด่วนมารับศพลูกชายทั้ง 2 คนไปบำเพ็ญกุศล เผยเหมือนฝันร้ายแม้ตำรวจจับฆาตกรได้แต่ก็ไม่ทำให้ลูกฟื้นคืนชีวิต
กรณีมีคนร้ายก่อเหตุพยายามข่มขืนและใช้อาวุธมีดแทง น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เสียชีวิตคาเตียงนอน ซ้ำยังใช้มีดเล่มเดียวกันแทง ด.ช.โจเซฟ อายุ 7 ปี ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่ตื่นขึ้นมาเห็นและพยายามเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมกับใช้ผ้าขนหนูรัดคอ ด.ช.ไมเคิล น้องชายวัย 2 ขวบ จนเสียชีวิตรวม 3 ศพ เหตุเกิดภายในบ้านพัก หมู่บ้านพาราไดซ์ฮิล 2 ซอยบุญสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน
โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนออกหาข่าวไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ และเบื้องต้นได้รวบรวมพยาน-หลักฐานออกหมายจับนายประจักษ์ มาแสวง อายุ 19 ปี จ.กาญจนบุรี ฆาตกรในคดีนี้ ที่ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน-ดำ หลบหนีไปกับ น.ส.ชนัสดา หรือป๊อบ ธนรักษ์ อายุ 17 ปี แฟนสาว ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ม.ค.57 พ.ต.ท.คงศักดิ์ บุญสื่อสุวรรณ รอง ผกก.สส.สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งจาก น.ส.มิ้ล (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี พยานปากสำคัญ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ น.ส.ชนัสดา หรือป๊อบ แฟนสาวของนายประจักษ์ ว่าสามารถโทรศัพท์ติดต่อไปยังเบอร์ของ น.ส.เอ๋ (ผู้ตาย) ได้แล้ว แต่ไม่มีคนรับสาย จึงทำการเช็คเบสโทรศัพท์พบสัญญาณครั้งสุดท้ายอยู่ในปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนสายบายพาสแหลมฉบัง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายเอก ยืนอยู่หน้าห้องน้ำและใช้ซิมโทรศัพท์ของ น.ส.ชนัสดา อยู่ จึงเชิญตัวมาสอบสวนให้การว่า ขณะเข้าไปทำธุระในห้องน้ำพบซิมโทรศัพท์ดังกล่าววางอยู่หน้ากระจก เมื่อเอามาใส่ในโทรศัพท์ปรากฏว่ายังมีเงินเหลืออยู่จำนวนมากจึงเปิดใช้ และยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้แต่อย่างใด
ต่อมา พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โกสินทร์ รอง ผบช.ภาค 2 เดินทางมาที่ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง ก่อนเรียก พ.ต.ท.คงศักดิ์ บุญสื่อสุวรรณ รอง ผกก.สส. พร้อมกับทีมชุดสืบสวน เข้าร่วมประชุมหาแนวทางในการคลี่คลายคดี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
พล.ต.ต.สุรพล เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนเป็นอย่างมาก ทาง พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.2 จึงสั่งการให้มาตรวจสอบความคืบหน้า พร้อมกับเรียกชุดสืบสวน ร่วมกันหาแนวทางคลี่คลายคดี จากการเช็คประวัตินายประจักษ์ ทราบว่าเพิ่งก่อคดีร่วมกันลักทรัพย์, กักขังหน่วงเหนี่ยว และพยายามฆ่า ในท้องที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ก่อนหนีหมายจับมาที่เมืองพัทยา และก่อเหตุฆาตกรรมสยองขวัญดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะหนีไปกบดานอยู่ที่กรุงเทพมหานครเพื่อแฝงตัวอยู่ในม็อบ หรือไม่อาจหนีไปอยู่บ้านญาติ ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว
จากนั้น พล.ต.ต.สุรพล ได้สอบถามข้อมูลจาก นางวิไลวรรณ ลิเบอร์แมน อายุ 32 ปี กับ Mr.Jason Lieberman อายุ 41 ปี บิดา-มารดาของเด็กชายเคราะห์ร้าย พร้อมกับกล่าวปลอบขวัญและสัญญาว่าจะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษให้ได้
ด้าน Mr.Jason Lieberman เปิดเผยว่า ปกติตนทำงานด้านไอทีอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อภรรยาโทรศัพท์มาแจ้งข่าวร้ายให้ทราบ ตอนแรกตนรู้สึกช็อคและทำใจไม่ได้ เพราะเหมือนฝันร้าย เนื่องจากลูกทั้ง 2 คนคือความหวังสูงสุดในชีวิต จึงรีบบินกลับมา ถึงแม้ตำรวจจะจับคนร้ายได้แต่ก็ไม่อาจทำให้ลูกของตนฟื้นคืนขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตนกับภรรยาได้ไปรับศพลูกชายที่สถาบันนิติเวช เพื่อนำมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบุญสัมพันธ์ และขอวิงวอนให้ตำรวจรีบจับกุมคนร้ายมาชดใช้กรรมให้ได้โดยเร็ว
No comments:
Post a Comment