รร.ฮิลตันพัทยามอบโชคแก่ผู้โชคดี
ฮิลตันพัทยาจัดโชคใหญ่ให้ลูกค้าลุ้นกันสนุกตลอดทั้งปีนี้ แคมเปญไดน์แอนด์ฟลาย ยังคงกระแสแรงไม่หยุด ล่าสุดผู้โชคดีจากพัทยา ได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับจีน และบัตรเข้าพักโรงแรมฮิลตัน ปักกิ่ง แวงฟูจิง
ที่ห้องอาหารเอจด์ รร.ฮิลตันพัทยา ได้มอบโชคให้กับผู้โชคดีท่านที่ 2 ของปี 2013 ซึ่งได้แก่คุณแองจิล่า หลำเปี่ยม ผู้โชคดีที่ร่วมลุ้นรางวัลกับทางโรงแรมฮิลตันพัทยา ในโครงการแจกโชคไดน์แอนด์ฟลาย ภายหลังจากเข้าใช้บริการที่โรงแรมฮิลตันพัทยา โดยได้รับรางวัลเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน และบัตรเข้าพัก โรงแรมฮิลตัน ปักกิ่ง แวงฟูจิง 3 วัน 2 คืน สำหรับ 2 ท่าน สำหรับผู้ที่จะร่วมลุ้นรางวัลใหญ่กับทาง รร.ฮิลตันพัทยา สามารถเข้าใช้บริการที่โรงแรม ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก สปา ห้องอาหาร เมื่อจ่ายบิลครบ 3,000 บาท ก็จะได้รับสิทธิ์ลุ้นทันที 1 สิทธิ์ เริ่มต้นแคมเปญนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดแคมเปญในวันที่ 30 พ.ย.
(ปล่อยซาวด์...คุณเตรียมพร้อม กลิ่นหอม ผจก.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รร.ฮิลตันพัทยา)
Saturday, August 31, 2013
ข่าวพัทยา กู้ภัยมังกรชลบุรีจับงูเหลือม
กู้ภัยมังกรชลบุรีจับงูเหลือม
เจ้าหน้าที่มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์รุดจับงูเหลือมความยาวกว่า 5 เมตร หลังจากชาวบ้านเจอตัวในขณะทำการปรับพื้นที่
นางบุญสม ถวิลญาติ ได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ให้มาช่วยจับงูเหลือมขนาดใหญ่ ที่นอนขดตัวอยู่ในพงหญ้าข้างบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบงูเหลือมความยาวกว่า 5 เมตร น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม นอนขดตัวอยู่ในพงหญ้าจึงช่วยกันจับตัว เพื่อนำเจ้างูเหลือมตัวนี้ไปปล่อยธรรมชาติ นางบุญสม เล่าว่า ตนได้เอารถมาปรับพื้นที่ดินบริเวณดังกล่าวเพื่อเตรียมก่อสร้างหมู่บ้าน แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำงานอยู่นั้น ก็พบงูเหลือมนอนขดตัวอยู่ในพงหญ้า สำหรับงูเหลือมตัวนี้ถือว่าเป็นงูเหลือมขนาดใหญ่ ลำตัวยาวเฉลี่ยประมาณ 1-5 เมตร จัดเป็นงูที่ยาวและใหญ่ที่สุด อยู่ประเภทงูไม่มีพิษ เลื้อยช้า และอาจดุตามสัญชาติญาณเมื่อมีศัตรู ออกหากินช่วงตอนกลางคืน หากินทั้งบนบกและในน้ำ ปัจจุบันถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
เจ้าหน้าที่มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์รุดจับงูเหลือมความยาวกว่า 5 เมตร หลังจากชาวบ้านเจอตัวในขณะทำการปรับพื้นที่
นางบุญสม ถวิลญาติ ได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ให้มาช่วยจับงูเหลือมขนาดใหญ่ ที่นอนขดตัวอยู่ในพงหญ้าข้างบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบงูเหลือมความยาวกว่า 5 เมตร น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม นอนขดตัวอยู่ในพงหญ้าจึงช่วยกันจับตัว เพื่อนำเจ้างูเหลือมตัวนี้ไปปล่อยธรรมชาติ นางบุญสม เล่าว่า ตนได้เอารถมาปรับพื้นที่ดินบริเวณดังกล่าวเพื่อเตรียมก่อสร้างหมู่บ้าน แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำงานอยู่นั้น ก็พบงูเหลือมนอนขดตัวอยู่ในพงหญ้า สำหรับงูเหลือมตัวนี้ถือว่าเป็นงูเหลือมขนาดใหญ่ ลำตัวยาวเฉลี่ยประมาณ 1-5 เมตร จัดเป็นงูที่ยาวและใหญ่ที่สุด อยู่ประเภทงูไม่มีพิษ เลื้อยช้า และอาจดุตามสัญชาติญาณเมื่อมีศัตรู ออกหากินช่วงตอนกลางคืน หากินทั้งบนบกและในน้ำ ปัจจุบันถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
ข่าวพัทยา จับกุมแก๊งสาวประเภทสองริมชายหาดพัทยาในยามราตรี
จับกุมแก๊งสาวประเภทสองริมชายหาดพัทยาในยามราตรี
จับกุมแก๊งสาวประเภทสองริมชายหาดพัทยาในยามราตรี ป้องกันการก่อเหตุกับนักท่องเที่ยว ได้ผู้ต้องหากว่า40 ราย ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ต้องหารายเดิมๆ
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 30 ก.ค. 56 ร.ต.อ.วิษณุ ไชยสุวรรณ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจอาสาออกจับกุมบรรดาสาวประเภทสองหรือกะเทย ที่มีพฤติกรรมเตร็ดเตร่อยู่บริเวณริมชายหาดพัทยาเพื่อขายบริการให้กับนักท่องเที่ยวในยามค่ำคืน ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาในการเข้มงวดกวดขับจับกุมอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บรรดาสาวประเภทสองหรือกะเทยฉวยโอกาสก่อเหตุฉกชิงวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะที่ผ่านมานั้นนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกบรรดาสาวประเภทสองหรือกะเทยที่ขายบริการอยู่ริมชายหาดก่อเหตุฉกชิงวิ่งราวทรัพย์เป็นประจำ ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องเป็นประจำก็ยังไม่เลิกกระทำความผิดในการขายบริการทาเพศและฉวยโอกาสก่อเหตุอีก
โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กวดขับจับกุมตัวบรรดาสาวประเภทสองที่มีพฤติกรรมกระทำความผิดโดยการขายบริการทางเพศอยู่ริมชาหยาดพัทยาได้จำนวนกว่า40รายซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ต้องหารายเดิมๆที่เคยถูกจับกุมตัวมา จึงนำตัวทั้งหมดมายัง สภ.เมืองพัทยา ทำการตรวจสอบประวัติลงบันทึกแจ้งข้อหาเตร็ดเตร่เพื่อการค้าประเวณีในที่สาธารณะโดยผิดกฎหมายก่อนทำการเปรียบเทียบปรับรายละ100บาทและว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไป
จับกุมแก๊งสาวประเภทสองริมชายหาดพัทยาในยามราตรี ป้องกันการก่อเหตุกับนักท่องเที่ยว ได้ผู้ต้องหากว่า40 ราย ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ต้องหารายเดิมๆ
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 30 ก.ค. 56 ร.ต.อ.วิษณุ ไชยสุวรรณ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจอาสาออกจับกุมบรรดาสาวประเภทสองหรือกะเทย ที่มีพฤติกรรมเตร็ดเตร่อยู่บริเวณริมชายหาดพัทยาเพื่อขายบริการให้กับนักท่องเที่ยวในยามค่ำคืน ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาในการเข้มงวดกวดขับจับกุมอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บรรดาสาวประเภทสองหรือกะเทยฉวยโอกาสก่อเหตุฉกชิงวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะที่ผ่านมานั้นนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกบรรดาสาวประเภทสองหรือกะเทยที่ขายบริการอยู่ริมชายหาดก่อเหตุฉกชิงวิ่งราวทรัพย์เป็นประจำ ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องเป็นประจำก็ยังไม่เลิกกระทำความผิดในการขายบริการทาเพศและฉวยโอกาสก่อเหตุอีก
โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กวดขับจับกุมตัวบรรดาสาวประเภทสองที่มีพฤติกรรมกระทำความผิดโดยการขายบริการทางเพศอยู่ริมชาหยาดพัทยาได้จำนวนกว่า40รายซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ต้องหารายเดิมๆที่เคยถูกจับกุมตัวมา จึงนำตัวทั้งหมดมายัง สภ.เมืองพัทยา ทำการตรวจสอบประวัติลงบันทึกแจ้งข้อหาเตร็ดเตร่เพื่อการค้าประเวณีในที่สาธารณะโดยผิดกฎหมายก่อนทำการเปรียบเทียบปรับรายละ100บาทและว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไป
Monsoon Season on Jomtien Beach
An intrepid reporter takes a walk along Jomtien Beach to take in the scene of what the tourist situation is like during the monsoon season here in Thailand
Today it has been raining all day ever since early morning. It is very windy and the sea is very rough with 2 metre high waves crashing onto the beach. There are a few foreign tourists who brave the elements to sit down and huddle under some of the multitude of empty umbrellas on the beach risking a soaking from the incessant rain showers or take a brief but chilly dip in the high surf
Low season in Pattaya certainly refers to the number of tourists not the height of the waves
Today it has been raining all day ever since early morning. It is very windy and the sea is very rough with 2 metre high waves crashing onto the beach. There are a few foreign tourists who brave the elements to sit down and huddle under some of the multitude of empty umbrellas on the beach risking a soaking from the incessant rain showers or take a brief but chilly dip in the high surf
Low season in Pattaya certainly refers to the number of tourists not the height of the waves
Friday, August 30, 2013
ข่าวศรีราชา เก็บตัวอย่างน้ำทะเลไปตรวจสอบ
เก็บตัวอย่างน้ำทะเลไปตรวจสอบ
ความคืบหน้าน้ำทะเลบริเวณอ่าวศรีราชาส่งกลิ่นเหม็น มีคราบคล้ายแป้ง เกาะอยู่ริมชายฝั่ง พร้อมทั้งมีปลาตายเกลื่อน หน่วยงานเร่งเก็บน้ำทะเลไปตรวจสอบ คาดว่า 1 สัปดาห์รู้ผล
จากที่พบว่าบริเวณอ่าวศรีราชาน้ำทะเลนั้นมีสีเปลี่ยนไป และมีกลิ่นเหม็นพร้อมพบคราบคล้ายแป้งที่เกาะอยู่ตามริมชายฝั่ง ชาวบ้านหวั่นเกรงมีสารอันตรายเจือปน ซึ่งทางเทศบาลเมืองศรีราชา โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้นำตัวอย่างน้ำทะเลส่งไปตรวจสอบที่สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพาแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบ นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เทศบาล และเจ้าท่า เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบน้ำทะเลอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุและที่มาของเหตุการณ์ดังกล่าว
ความคืบหน้าน้ำทะเลบริเวณอ่าวศรีราชาส่งกลิ่นเหม็น มีคราบคล้ายแป้ง เกาะอยู่ริมชายฝั่ง พร้อมทั้งมีปลาตายเกลื่อน หน่วยงานเร่งเก็บน้ำทะเลไปตรวจสอบ คาดว่า 1 สัปดาห์รู้ผล
จากที่พบว่าบริเวณอ่าวศรีราชาน้ำทะเลนั้นมีสีเปลี่ยนไป และมีกลิ่นเหม็นพร้อมพบคราบคล้ายแป้งที่เกาะอยู่ตามริมชายฝั่ง ชาวบ้านหวั่นเกรงมีสารอันตรายเจือปน ซึ่งทางเทศบาลเมืองศรีราชา โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้นำตัวอย่างน้ำทะเลส่งไปตรวจสอบที่สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพาแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบ นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เทศบาล และเจ้าท่า เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบน้ำทะเลอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุและที่มาของเหตุการณ์ดังกล่าว
ข่าวศรีราชา กระบะพุ่งชน 2 นศ.สาวเสียชีวิต
กระบะพุ่งชน 2 นศ.สาวเสียชีวิต
2 นักศึกษาสาวโชคร้ายขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.กันมา เพื่อไปเป็นกองเชียร์กีฬาสีของทางมหาวิทยาลัย ถูกกระบะเก็บของเก่าหลุดโค้งพุ่งชนดับคาที่ 1 ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตอีก 1 ที่โรงพยาบาล
ร.ต.อ.อุดม โกยเก็บ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ว่ามีรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์แล้วมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เส้นทางขอบอ่างบางพระก่อนถึงองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ จึงรีบเดินทางไปร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า สีบรอน-ทอง ที่มีนายบรรลือศักดิ์ อนันตวงศ์ อายุ 46 ปี ขับมาจอดอยู่ข้างทาง ในสภาพด้านหน้าพังยับและมีรอยเลือดบนฝากระโปรงรถ และที่ใต้หน้ารถกระบะพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว-ม่วง ที่ถูกชนแล้วลากมาไกลเกือบ 200 เมตร ในสภาพพังยับเยิน กลางถนนเจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ในสภาพแขนขาและคอหัก ทราบชื่อคือนางสาววิลาวัลย์ ผากำเนิด อายุ 20 ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ ปีที่ 2 ส่วนเพื่อนที่มาด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาได้เร่งให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือนางสาวจริยา นวลศรี อายุ 18 ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยเดียวกันปีที่ 1 สอบถามเพื่อนและอาจารย์ เล่าว่า ทางมหาลัยได้จัดกีฬาสีขึ้นและมีการแข่งขันฟุตบอลที่สนามข้างองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ ทั้งคู่น่าจะขับรถมาเชียร์เพื่อนที่แข่งกีฬา แต่อีกไม่ไกลก็ถึงสนามแล้วแต่มาถูกพุ่งชนจนเสียชีวิตดังกล่าว
2 นักศึกษาสาวโชคร้ายขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.กันมา เพื่อไปเป็นกองเชียร์กีฬาสีของทางมหาวิทยาลัย ถูกกระบะเก็บของเก่าหลุดโค้งพุ่งชนดับคาที่ 1 ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตอีก 1 ที่โรงพยาบาล
ร.ต.อ.อุดม โกยเก็บ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ว่ามีรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์แล้วมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เส้นทางขอบอ่างบางพระก่อนถึงองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ จึงรีบเดินทางไปร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า สีบรอน-ทอง ที่มีนายบรรลือศักดิ์ อนันตวงศ์ อายุ 46 ปี ขับมาจอดอยู่ข้างทาง ในสภาพด้านหน้าพังยับและมีรอยเลือดบนฝากระโปรงรถ และที่ใต้หน้ารถกระบะพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว-ม่วง ที่ถูกชนแล้วลากมาไกลเกือบ 200 เมตร ในสภาพพังยับเยิน กลางถนนเจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ในสภาพแขนขาและคอหัก ทราบชื่อคือนางสาววิลาวัลย์ ผากำเนิด อายุ 20 ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ ปีที่ 2 ส่วนเพื่อนที่มาด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาได้เร่งให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือนางสาวจริยา นวลศรี อายุ 18 ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยเดียวกันปีที่ 1 สอบถามเพื่อนและอาจารย์ เล่าว่า ทางมหาลัยได้จัดกีฬาสีขึ้นและมีการแข่งขันฟุตบอลที่สนามข้างองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ ทั้งคู่น่าจะขับรถมาเชียร์เพื่อนที่แข่งกีฬา แต่อีกไม่ไกลก็ถึงสนามแล้วแต่มาถูกพุ่งชนจนเสียชีวิตดังกล่าว
ข่าวพัทยา ตร.ท่องเที่ยวพัทยาจับกุมพ่อค้าแม่ค้ารบเร้านักท่องเที่ยว
ตร.ท่องเที่ยวพัทยาเอาจริงกวดขันจับกุมพ่อค้าแม่ค้ารบเร้านักท่องเที่ยว
01.00 น. วันที่ 29 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้ทำการกวดขันจับกุมกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าที่กระทำการรบเล้าสร้างความวุ่นวายรำคาญแก่นักท่องเที่ยวย่านถนนวอล์คกิ้งสตรีท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา สามารถจับกุมเหล่าพ่อค้า-แม่ค้า ได้กว่า 40 ราย ทั้ง เสื้อผ้า ดอกไม้ ของกิ๊ฟช็อป ถ่ายรูป หลังได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากว่ากลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่นักท่องเที่ยว โดยการรบเล้าให้ซื้อของ สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมแก่เมืองท่องเที่ยว จึงได้ทำการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เบื้องต้นได้ควบคุมตัวกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า ไปเปรียบเทียบปรับที่ สภ.เมืองพัทยาคนละ 100 บาท และปล่อยตัวไป
01.00 น. วันที่ 29 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้ทำการกวดขันจับกุมกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าที่กระทำการรบเล้าสร้างความวุ่นวายรำคาญแก่นักท่องเที่ยวย่านถนนวอล์คกิ้งสตรีท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา สามารถจับกุมเหล่าพ่อค้า-แม่ค้า ได้กว่า 40 ราย ทั้ง เสื้อผ้า ดอกไม้ ของกิ๊ฟช็อป ถ่ายรูป หลังได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากว่ากลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่นักท่องเที่ยว โดยการรบเล้าให้ซื้อของ สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมแก่เมืองท่องเที่ยว จึงได้ทำการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เบื้องต้นได้ควบคุมตัวกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า ไปเปรียบเทียบปรับที่ สภ.เมืองพัทยาคนละ 100 บาท และปล่อยตัวไป
ข่าวพัทยา เรือสปีดโบ๊ตชนเชือกสมอเรือ ชาวจีนดับ 2 ศพ
เรือสปีดโบ๊ตชนเชือกสมอเรือ ชาวจีนดับ 2 ศพ
ระทึก!เรือสปีดโบ๊ตชนเชือกสมอเรือรับ-ส่งผู้โดยสารพังยับ นักท่องเที่ยวชาวจีนโดนใบพัดเรือตัดคอดับ 2 ศพ เจ็บอีกระนาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 28 ส.ค. 56 ร.ต.ท.สมบัติ แก้วมูลมุข พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเรือเร็วสปีดโบ๊ตชนกับเรือที่จอดทอดสมออยู่ใกล้ฝั่งทะเลมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุ พบเรือที่เกิดเหตุชนกันอยู่บริเวณท่าขึ้นเรือซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งไปประมาณ 200 เมตร โดยเรือลำแรกเป็นเร็วสปีดโบ๊ตขนาด 2 เครื่องยนต์ ชื่อ "โชคสุวรรณี 17" สีขาว-น้ำเงิน ทราบชื่อคนขับเรือคือ นายเกรียงไกร บุญศรี อายุ 23 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.สมุทรปราการ เรืออยู่ในสภาพมีร่องรอยการชนจนกราบเรือด้านขวาพังแตกเสียหายไปทั้งแถบใกล้จะจมลงก้นทะเล โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นั่งมาบนเรือนับสิบรายนั้นกระเด็นตกน้ำกระจัดกระจายลอยคออยู่ใกล้ๆเรือซึ่งทุกคนนั้นไม่สมเสื้อชูชีพต่างพากันว่ายน้ำเอาตัวรอดพยายามจะกลับเข้าฝั่ง ทาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงรีบนำเรือเร็วออกไปลำเลียงช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทั้งหมดมาขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัยท่ามกลางความแตกตื่นวุ่นวาย ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 คนร่างจมอยู่ในทะเล ทางเจ้าหน้าที่จึงช่วยทำการทำการเก็บกู้นำศพขึ้นมาบนฝั่งเพื่อตรวจสอบ ซึ่งทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลังคือ Mr.Zhang Tao อายุ 29 ปี สัญชาติจีน สภาพศพมีบาดแผลถูกใบพัดเรือตัดที่บริเวณลำคอและตามร่างกายเป็นแผลฉีกขาดหลายแห่ง ส่วนอีกรายคือ Mr.DongFeiyueอายุ 30 ปี สัญชาติจีน สภาพศพถูกใบพัดเรือเฉือนเข้าที่ชายโครงซ้ายเป็นแผลเหวะหวะเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปลงบันทึกก่อนเก็บศพส่งไปชันสูตรและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 8 คน
จากการสอบปากคำ Mr.Guang Chai อายุ 42 ปี ไกด์นำเที่ยวของบริษัท หล่งไท้ ทราเวล จำกัด ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าตนได้พานักท่องเที่ยวชาย-หญิงชาวจีนรวม 29 คน ออกจากโรงแรมที่พัก โรงแรมไอยรา ย่านนาเกลือ พานั่งเรือเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะล้านแต่ระหว่างขากลับได้นั่งเรือเร็วสปีดโบ๊ตชื่อเรือโชคสุวรรณี 17 มากันเต็มเรือโดยไม่มีใครได้สวมเสื้อชูชีพเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องใดๆ จนกระทั่งใกล้จะถึงฝั่งเรือเกิดไปชนกับเชือกสมอเรือเล็กที่ใช้รับ-ส่งนักท่องเที่ยวขึ้นเรือใหญ่ซึ่งมีความยาวประมาณ 38 ฟุต ที่จอดลอยลำอยู่เฉยๆ จนทำให้ตัวเรือเร็วที่พวกตนนั่งมานั้นไปพันกับเชือกสมอทำให้เรือของพวกตนพลิกคว่ำตีลังกาแล้วกระแทกพื้นน้ำจนกราบเรือด้านขวาแตก จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือนั้นกระเด็นตกน้ำไปคนละทิศละทางจนทำให้มีคนถูกใบพัดเรือตัดร่างกายจนเสียชีวิตส่วนอีกหลายคนก็ได้รับบาดเจ็บแต่ก็ยังพากันว่ายน้ำเพื่อกลับเข้าฝั่งก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาช่วยเหลือดังกล่าว ต่อมาเวลาประมาณ 15.30 น. นายพ้อง ชีวานันท์ รมช.คมนาคม พร้อมด้วย นายคมสัน เอกชัย ผวจ.ชลบุรี ได้เดินทางมาที่ รพ.พัทยาเมโมเรียล เพื่อเยี่ยมดูอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือและฟังสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป
ระทึก!เรือสปีดโบ๊ตชนเชือกสมอเรือรับ-ส่งผู้โดยสารพังยับ นักท่องเที่ยวชาวจีนโดนใบพัดเรือตัดคอดับ 2 ศพ เจ็บอีกระนาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 28 ส.ค. 56 ร.ต.ท.สมบัติ แก้วมูลมุข พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเรือเร็วสปีดโบ๊ตชนกับเรือที่จอดทอดสมออยู่ใกล้ฝั่งทะเลมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุ พบเรือที่เกิดเหตุชนกันอยู่บริเวณท่าขึ้นเรือซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งไปประมาณ 200 เมตร โดยเรือลำแรกเป็นเร็วสปีดโบ๊ตขนาด 2 เครื่องยนต์ ชื่อ "โชคสุวรรณี 17" สีขาว-น้ำเงิน ทราบชื่อคนขับเรือคือ นายเกรียงไกร บุญศรี อายุ 23 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.สมุทรปราการ เรืออยู่ในสภาพมีร่องรอยการชนจนกราบเรือด้านขวาพังแตกเสียหายไปทั้งแถบใกล้จะจมลงก้นทะเล โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นั่งมาบนเรือนับสิบรายนั้นกระเด็นตกน้ำกระจัดกระจายลอยคออยู่ใกล้ๆเรือซึ่งทุกคนนั้นไม่สมเสื้อชูชีพต่างพากันว่ายน้ำเอาตัวรอดพยายามจะกลับเข้าฝั่ง ทาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงรีบนำเรือเร็วออกไปลำเลียงช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทั้งหมดมาขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัยท่ามกลางความแตกตื่นวุ่นวาย ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 คนร่างจมอยู่ในทะเล ทางเจ้าหน้าที่จึงช่วยทำการทำการเก็บกู้นำศพขึ้นมาบนฝั่งเพื่อตรวจสอบ ซึ่งทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลังคือ Mr.Zhang Tao อายุ 29 ปี สัญชาติจีน สภาพศพมีบาดแผลถูกใบพัดเรือตัดที่บริเวณลำคอและตามร่างกายเป็นแผลฉีกขาดหลายแห่ง ส่วนอีกรายคือ Mr.DongFeiyueอายุ 30 ปี สัญชาติจีน สภาพศพถูกใบพัดเรือเฉือนเข้าที่ชายโครงซ้ายเป็นแผลเหวะหวะเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปลงบันทึกก่อนเก็บศพส่งไปชันสูตรและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 8 คน
จากการสอบปากคำ Mr.Guang Chai อายุ 42 ปี ไกด์นำเที่ยวของบริษัท หล่งไท้ ทราเวล จำกัด ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าตนได้พานักท่องเที่ยวชาย-หญิงชาวจีนรวม 29 คน ออกจากโรงแรมที่พัก โรงแรมไอยรา ย่านนาเกลือ พานั่งเรือเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะล้านแต่ระหว่างขากลับได้นั่งเรือเร็วสปีดโบ๊ตชื่อเรือโชคสุวรรณี 17 มากันเต็มเรือโดยไม่มีใครได้สวมเสื้อชูชีพเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องใดๆ จนกระทั่งใกล้จะถึงฝั่งเรือเกิดไปชนกับเชือกสมอเรือเล็กที่ใช้รับ-ส่งนักท่องเที่ยวขึ้นเรือใหญ่ซึ่งมีความยาวประมาณ 38 ฟุต ที่จอดลอยลำอยู่เฉยๆ จนทำให้ตัวเรือเร็วที่พวกตนนั่งมานั้นไปพันกับเชือกสมอทำให้เรือของพวกตนพลิกคว่ำตีลังกาแล้วกระแทกพื้นน้ำจนกราบเรือด้านขวาแตก จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือนั้นกระเด็นตกน้ำไปคนละทิศละทางจนทำให้มีคนถูกใบพัดเรือตัดร่างกายจนเสียชีวิตส่วนอีกหลายคนก็ได้รับบาดเจ็บแต่ก็ยังพากันว่ายน้ำเพื่อกลับเข้าฝั่งก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาช่วยเหลือดังกล่าว ต่อมาเวลาประมาณ 15.30 น. นายพ้อง ชีวานันท์ รมช.คมนาคม พร้อมด้วย นายคมสัน เอกชัย ผวจ.ชลบุรี ได้เดินทางมาที่ รพ.พัทยาเมโมเรียล เพื่อเยี่ยมดูอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือและฟังสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป
ข่าวพัทยา ไฟไหม้หลังสำนักงานหนังสื่อพิมพ์พัทยาพีเพิ้ล
ไฟไหม้หลังสำนักงานหนังสื่อพิมพ์พัทยาพีเพิ้ล
ชาวบ้านแตกตื่นหลังไฟฟ้ารัดวงจรไหม้แผงควบคุมหลังสำนักงานหนังสื่อพิมพ์พัทยาพีเพิ้ล
เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 29 ส.ค. 56 ร.ต.ท. ทนงศักดิ์ อินผดุง รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณห้องเช่าไม่มีเลขที่หลังสำนักงานหนังสือพิมพ์พัทยาพีเพิ้ล ซ.เดไนท์ พัทยาใต้ ม.10.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณะภัย เมืองพัทยา นำรถดับเพลิงจำนวน 1 คัน ไปในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์สูง 4 ชั้น อยู่ด้านหลังสำนักงานดังกล่าวต้นเพลิงเกิดจากชั้นที่ 3 ระหว่างบรรไดทางขึ้นซึ่งเป็นห้องคอลโทรลควบคุมไฟฟ้า ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำถังเคมีทำการฉีดสกัดตั้นเพลิง จนควบคุมได้ในเวลาต่อมา ตรวจสอบไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง ก่อนที่จะมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากชั้นดังกล่าว จึงได้พยายามแจ้งผู้ดูแลห้องพักให้มาช่วยตรวจสอบพร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุน่ามาจากไฟฟ้ารัดวงจร โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ชาวบ้านแตกตื่นหลังไฟฟ้ารัดวงจรไหม้แผงควบคุมหลังสำนักงานหนังสื่อพิมพ์พัทยาพีเพิ้ล
เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 29 ส.ค. 56 ร.ต.ท. ทนงศักดิ์ อินผดุง รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณห้องเช่าไม่มีเลขที่หลังสำนักงานหนังสือพิมพ์พัทยาพีเพิ้ล ซ.เดไนท์ พัทยาใต้ ม.10.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณะภัย เมืองพัทยา นำรถดับเพลิงจำนวน 1 คัน ไปในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์สูง 4 ชั้น อยู่ด้านหลังสำนักงานดังกล่าวต้นเพลิงเกิดจากชั้นที่ 3 ระหว่างบรรไดทางขึ้นซึ่งเป็นห้องคอลโทรลควบคุมไฟฟ้า ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำถังเคมีทำการฉีดสกัดตั้นเพลิง จนควบคุมได้ในเวลาต่อมา ตรวจสอบไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง ก่อนที่จะมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากชั้นดังกล่าว จึงได้พยายามแจ้งผู้ดูแลห้องพักให้มาช่วยตรวจสอบพร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุน่ามาจากไฟฟ้ารัดวงจร โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ข่าวพัทยา อุ้มหนุ่มช่างภาพผ้าคลุมหัวจับใส่กุญแจมือไขว้หลังรูดทรัพย์
อุ้มหนุ่มช่างภาพผ้าคลุมหัวจับใส่กุญแจมือไขว้หลังรูดทรัพย์
หนุ่มช่างภาพอ้างถูกตำรวจอุ้มผ้าคลุมหัวจับใส่กุญแจมือไขว้หลัง พาขึ้นรถยนต์รูดทรัพย์ก่อนนำมาปล่อยทิ้งที่ถนน เจ้าตัวกระเสือกกระสนหาชาวบ้านช่วย ก่อนพาแจ้งตำรวจ
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 29 ส.ค. 56 พ.ต.อ. ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งว่าพบชายต้องสงสัยมีลักษณะถูกใส่กุญแจมือไขว้หลังเดินขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน อยู่บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิทพัทยา 43 ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า อ.สัตหีบ หลังรับแจ้งจึงประสานชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ไปทำการตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชายดังกล่าวอยู่ในสภาพอิดโรย โดยที่มือนั้นถูกใส่กุญแจมือไขว้หลังอยู่ และมีท่าทางตื่นตกใจกลัว จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนเบื้องต้นที่ สภ.บางละมุง จากการสอบสวนทราบชื่อคือนายวรพล มาเยอะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.9 ต.ศรีคราม อ.แม่จัน จ.เชียงราย และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ไม่พบข้อมูลแต่อย่างใด สอบสวนให้การว่า ตนเองมีอาชีพถ่ายภาพขาย และมีญาติธุระกิจห้องถ่ายภาพอยู่ที่เมืองพัทยา ก่อนเกิดเหตุนั้นตนพร้อมด้วยเพื่อนประมาณ 4 คน นั้งดื่มเหล้ากันอยู่ที่ใน ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จู่ๆก็ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ ไม่ทราบจำนวน บุกเข้ามาและจับตนก่อนที่จะใช้เสื้อที่ตนสวมใส่ปิดคลุมหัว และ จับใส่กุญแจมือ ลากขึ้นรถ โดยอ้างว่าเป็นตำรวจและไม่ทราบว่าขับพาไปไหน หลังจากที่นั่งอยู่ภายในรถก็ถูกทำร้ายร่างกายและปลดทรัพย์สินเป็นแหวนทอง 1 วง และกระเป๋าสตังค์ และบังคับให้บอกรหัสบัตร A.T.M. ซึ่งมีเงินเกือบ 50,000 บาท จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้ขับรถยนต์พามาทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าร้านฟอนิเจอร์ ก่อนถึงปากทางสนามกล์อฟ พัทยากลาง และพากับหลบหนีไป พอตนตั้งสติได้ จึงได้พยายามเดินขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ผ่านไปมา
สอบถามนายเฉลิมชัย ท่าหาญ อายุ 44 ปี จยย.รับจ้างที่ประสบเหตุ ให้การว่า ขณะขับรถ จยย. มาตามเส้นทางดังกล่าวหลังจากที่ไปส่งผู้โดยสาร พบ นายวรพล ร้องขอความช่วยเหลือและให้ช่วยพาไปส่งที่เขาไม้แก้ว โดยบอกว่าจะให้ 2,000 บาท พอตนสังเกตุ เห็นว่าผิกปกติ โดยที่มือถูกใส่กุญแจมืออยู่ จึงเอะใจ ถามว่าไม่ทำอะไรมาหลบหนีตำรวจมาหรือป่าว นายวรพล ก็อ้างว่าตนเองนั้นถูกตำรวจอุ้มมา ซึ่งเหตุการณืดังกล่าวตนเองไม่แน่ใจจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบดังกล่าว
ภายหลังจากการสอบสวนนายวรพล ในเบื้องต้นแล้วเจ้าหน้าที่ยังไม่ค่อยแน่ใจในคำให้การจึงได้ควบคุมตัวใว้ในเบื้องต้นเพื่อทำการตรวจสอบ และ จาการตรวจสอบตาม สภ.ใกล้เคียงไม่มีการจับกุมหรือมีผู้ต้องหาหลบหนีจากการจับกุมแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบประวัติก็ไม่พบมีคดีใดติดตัว ซึ่งคาดว่านายวรพล นั้นอาจให้การตามความจริงจึงได้ให้ลงบันทึกแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน ส่วนในกรณีที่นายวรพล นั้นอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นคงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งต่อไป
หนุ่มช่างภาพอ้างถูกตำรวจอุ้มผ้าคลุมหัวจับใส่กุญแจมือไขว้หลัง พาขึ้นรถยนต์รูดทรัพย์ก่อนนำมาปล่อยทิ้งที่ถนน เจ้าตัวกระเสือกกระสนหาชาวบ้านช่วย ก่อนพาแจ้งตำรวจ
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 29 ส.ค. 56 พ.ต.อ. ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งว่าพบชายต้องสงสัยมีลักษณะถูกใส่กุญแจมือไขว้หลังเดินขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน อยู่บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิทพัทยา 43 ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า อ.สัตหีบ หลังรับแจ้งจึงประสานชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ไปทำการตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชายดังกล่าวอยู่ในสภาพอิดโรย โดยที่มือนั้นถูกใส่กุญแจมือไขว้หลังอยู่ และมีท่าทางตื่นตกใจกลัว จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนเบื้องต้นที่ สภ.บางละมุง จากการสอบสวนทราบชื่อคือนายวรพล มาเยอะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.9 ต.ศรีคราม อ.แม่จัน จ.เชียงราย และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ไม่พบข้อมูลแต่อย่างใด สอบสวนให้การว่า ตนเองมีอาชีพถ่ายภาพขาย และมีญาติธุระกิจห้องถ่ายภาพอยู่ที่เมืองพัทยา ก่อนเกิดเหตุนั้นตนพร้อมด้วยเพื่อนประมาณ 4 คน นั้งดื่มเหล้ากันอยู่ที่ใน ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จู่ๆก็ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ ไม่ทราบจำนวน บุกเข้ามาและจับตนก่อนที่จะใช้เสื้อที่ตนสวมใส่ปิดคลุมหัว และ จับใส่กุญแจมือ ลากขึ้นรถ โดยอ้างว่าเป็นตำรวจและไม่ทราบว่าขับพาไปไหน หลังจากที่นั่งอยู่ภายในรถก็ถูกทำร้ายร่างกายและปลดทรัพย์สินเป็นแหวนทอง 1 วง และกระเป๋าสตังค์ และบังคับให้บอกรหัสบัตร A.T.M. ซึ่งมีเงินเกือบ 50,000 บาท จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้ขับรถยนต์พามาทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าร้านฟอนิเจอร์ ก่อนถึงปากทางสนามกล์อฟ พัทยากลาง และพากับหลบหนีไป พอตนตั้งสติได้ จึงได้พยายามเดินขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ผ่านไปมา
สอบถามนายเฉลิมชัย ท่าหาญ อายุ 44 ปี จยย.รับจ้างที่ประสบเหตุ ให้การว่า ขณะขับรถ จยย. มาตามเส้นทางดังกล่าวหลังจากที่ไปส่งผู้โดยสาร พบ นายวรพล ร้องขอความช่วยเหลือและให้ช่วยพาไปส่งที่เขาไม้แก้ว โดยบอกว่าจะให้ 2,000 บาท พอตนสังเกตุ เห็นว่าผิกปกติ โดยที่มือถูกใส่กุญแจมืออยู่ จึงเอะใจ ถามว่าไม่ทำอะไรมาหลบหนีตำรวจมาหรือป่าว นายวรพล ก็อ้างว่าตนเองนั้นถูกตำรวจอุ้มมา ซึ่งเหตุการณืดังกล่าวตนเองไม่แน่ใจจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบดังกล่าว
ภายหลังจากการสอบสวนนายวรพล ในเบื้องต้นแล้วเจ้าหน้าที่ยังไม่ค่อยแน่ใจในคำให้การจึงได้ควบคุมตัวใว้ในเบื้องต้นเพื่อทำการตรวจสอบ และ จาการตรวจสอบตาม สภ.ใกล้เคียงไม่มีการจับกุมหรือมีผู้ต้องหาหลบหนีจากการจับกุมแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบประวัติก็ไม่พบมีคดีใดติดตัว ซึ่งคาดว่านายวรพล นั้นอาจให้การตามความจริงจึงได้ให้ลงบันทึกแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน ส่วนในกรณีที่นายวรพล นั้นอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นคงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งต่อไป
Thursday, August 29, 2013
ข่าวพัทยา หนุ่มไทยแทงคอเฒ่าอังกฤษไม่พอใจที่เดินชนแล้วไม่ขอโทษ
หนุ่มเมืองลิงเมาไม่พอใจเฒ่าเมืองผู้ดี ที่เดินชนแล้วไม่ขอโทษ โดยได้ใช้มีดพกแทงคอเฒ่าเมืองผู้ดีเจ็บสาหัส
05.30น. วันที่ 28 ส.ค. ร.ต.ท.ขวัญชัย นัมคณิสรต์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณ ซ.16 วอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ และสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ส่วนผู้บาดเจ็บพลเมืองดีได้ช่วยกันนำส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียลไปก่อนหน้าแล้ว หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปรับตัวมาทำการสอบสวน ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายมนตรี แข็งขัน อายุ 27 ปี ซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมาสุรา โดยมีแฟนสาวของผู้บาดเจ็บคือนางกาน วอลตัน อายุ 50 ปี สัญชาติอังกฤษ ชี้ตัวยืนยันพร้อมเสื้อที่เปื้อนคราบเลือดจำนวนมาก โดยให้การว่า ตนและนายมาร์ค แอนโทนี่ สตริกเกิลตัน อายุ 53 ปี สัญชาติอังกฤษ สามี ได้พากันเดินกลับที่พัก หลังจากได้พากันไปเที่ยว พอมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เดินสวนกับนายมนตรีที่กำลังเดินเซไปเซมา แล้วเกิดการเดินชนกระทบกัน ตอนแรกตนและสามีไม่ได้คิดอะไรก็เดินต่อไป ก่อนที่นายมนตรีจะรีบเดินตามมาหาเรื่องสามีจนมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายมนตรีจะคว้ามีดพกขึ้นมาแทงสามีที่ลำคอจนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงได้เรียกให้ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นช่วยเหลือและจับตัวนายมนตรี ก่อนรีบนำตัวสามีส่ง รพ. จากการสอบสวนนายมนตรี เบื้องต้นได้ให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุทำร้ายจริง เนื่องจากมีอาการเมาและผู้ได้รับบาดเจ็บก็เมา โดยได้เดินมาชนกับตนและไม่เอ่ยปากขอโทษ จึงได้เกิดโมโห
05.30น. วันที่ 28 ส.ค. ร.ต.ท.ขวัญชัย นัมคณิสรต์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณ ซ.16 วอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ และสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ส่วนผู้บาดเจ็บพลเมืองดีได้ช่วยกันนำส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียลไปก่อนหน้าแล้ว หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปรับตัวมาทำการสอบสวน ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายมนตรี แข็งขัน อายุ 27 ปี ซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมาสุรา โดยมีแฟนสาวของผู้บาดเจ็บคือนางกาน วอลตัน อายุ 50 ปี สัญชาติอังกฤษ ชี้ตัวยืนยันพร้อมเสื้อที่เปื้อนคราบเลือดจำนวนมาก โดยให้การว่า ตนและนายมาร์ค แอนโทนี่ สตริกเกิลตัน อายุ 53 ปี สัญชาติอังกฤษ สามี ได้พากันเดินกลับที่พัก หลังจากได้พากันไปเที่ยว พอมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เดินสวนกับนายมนตรีที่กำลังเดินเซไปเซมา แล้วเกิดการเดินชนกระทบกัน ตอนแรกตนและสามีไม่ได้คิดอะไรก็เดินต่อไป ก่อนที่นายมนตรีจะรีบเดินตามมาหาเรื่องสามีจนมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายมนตรีจะคว้ามีดพกขึ้นมาแทงสามีที่ลำคอจนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงได้เรียกให้ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นช่วยเหลือและจับตัวนายมนตรี ก่อนรีบนำตัวสามีส่ง รพ. จากการสอบสวนนายมนตรี เบื้องต้นได้ให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุทำร้ายจริง เนื่องจากมีอาการเมาและผู้ได้รับบาดเจ็บก็เมา โดยได้เดินมาชนกับตนและไม่เอ่ยปากขอโทษ จึงได้เกิดโมโห
ข่าวนองปรือ ไฟไหม้เสาไฟฟ้าบริเวณหน้าหมู่บ้านปาร์ครุ่งเรือง
ไฟไหม้เสาไฟฟ้าบริเวณหน้าหมู่บ้านปาร์ครุ่งเรือง ทำให้สายไฟฟ้า สายเคเบิลทีวี และสายอุปกรณ์การสื่อสารทั้งหมดได้รับความเสียหาย
19.30 น. วันที่ 27 ส.ค. ศูนย์วิทยุเทศบาลเมืองหนองปรือ รับแจ้งเหตุไฟไหม้เสาไฟฟ้า บริเวณฝั่งตรงข้ามปากทางเข้าหมู่บ้านปาร์ครุ่งเรือง ซอยเขาตาโล หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองหนองปรือ และเมืองพัทยา ขอกำลังเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เมื่อมาถึงในที่เกิดเหตุพบว่าสายไฟฟ้า สายเคเบิลทีวี สายอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ กำลังถูกไฟลุกไหม้จนขาดออกจากกัน และพาดระโยงระยางลงมากองกับพื้นถนน เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันนำน้ำยาเคมีมาฉีดสกัดเพลิง ประมาณ 5 นาที เพลิงจึงสงบ ส่วนการจราจรบริเวณดังกล่าวเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นการจราจรชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าสายไฟยังมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ จากการสอบถามชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ระหว่างเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าหมู่บ้านปาร์ครุ่งเรือง และฝั่งตรงข้าม จะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้เสาไฟบ่อยมาก บางครั้งหม้อแปลงระเบิด หรือสายไฟฟ้าเกิดไฟลุกไหม้เอง ได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้ามาตรวจสอบหลังเกิดเหตุ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการแก้ไขชั่วคราว มาวันนี้ตนซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านปาร์ครุ่งเรืองสังเกตเห็นไฟฟ้าในหมู่บ้านดับ จึงได้วิ่งออกมาตรวจสอบพบว่ามีเปลวเพลิงขนาดใหญ่กำลังโหมลุกไหม้อยู่ที่เสาไฟฟ้าหน้าหมู่บ้าน จากนั้นลุกลามไปยังเสาไฟฟ้าอีกต้นหนึ่งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยเสาไฟทั้ง 2 ต้นนั้น มีการเกาะเกี่ยวของสายไฟฟ้า สายเคเบิลทีวี สายอุปกรณ์การสื่อสารเป็นจำนวนมาก จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าตรวจสอบสาเหตุและประเมินค่าความเสียหายต่อไป
19.30 น. วันที่ 27 ส.ค. ศูนย์วิทยุเทศบาลเมืองหนองปรือ รับแจ้งเหตุไฟไหม้เสาไฟฟ้า บริเวณฝั่งตรงข้ามปากทางเข้าหมู่บ้านปาร์ครุ่งเรือง ซอยเขาตาโล หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองหนองปรือ และเมืองพัทยา ขอกำลังเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เมื่อมาถึงในที่เกิดเหตุพบว่าสายไฟฟ้า สายเคเบิลทีวี สายอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ กำลังถูกไฟลุกไหม้จนขาดออกจากกัน และพาดระโยงระยางลงมากองกับพื้นถนน เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันนำน้ำยาเคมีมาฉีดสกัดเพลิง ประมาณ 5 นาที เพลิงจึงสงบ ส่วนการจราจรบริเวณดังกล่าวเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นการจราจรชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าสายไฟยังมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ จากการสอบถามชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ระหว่างเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าหมู่บ้านปาร์ครุ่งเรือง และฝั่งตรงข้าม จะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้เสาไฟบ่อยมาก บางครั้งหม้อแปลงระเบิด หรือสายไฟฟ้าเกิดไฟลุกไหม้เอง ได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้ามาตรวจสอบหลังเกิดเหตุ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการแก้ไขชั่วคราว มาวันนี้ตนซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านปาร์ครุ่งเรืองสังเกตเห็นไฟฟ้าในหมู่บ้านดับ จึงได้วิ่งออกมาตรวจสอบพบว่ามีเปลวเพลิงขนาดใหญ่กำลังโหมลุกไหม้อยู่ที่เสาไฟฟ้าหน้าหมู่บ้าน จากนั้นลุกลามไปยังเสาไฟฟ้าอีกต้นหนึ่งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยเสาไฟทั้ง 2 ต้นนั้น มีการเกาะเกี่ยวของสายไฟฟ้า สายเคเบิลทีวี สายอุปกรณ์การสื่อสารเป็นจำนวนมาก จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าตรวจสอบสาเหตุและประเมินค่าความเสียหายต่อไป
ข่าวพัทยา ศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับทอมโหดแทงคู่ขาดับ
ศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับทอมโหดแทงคู่ขาดับคาปิกอัพ ตร.คาดยังไม่เผ่นหนีออกนอกประเทศ
กรณี น.ส.กุลนิษฐ์ เบ็ญมาศ อายุ 37 ปี ถูกคนร้ายใช้ของมีคมแทงจนเสียชีวิตอยู่คาเบาะที่นั่งคนขับในรถปิกอัพ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กย-1446 ชลบุรี ที่จอดอยู่หน้าบ้านพักของสามีชาวต่างชาติ เลขที่ 111/7 ซอยพรประภานิมิตร ข้างอบซาวน่าพัทยา หมู่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ในสภาพชนกับประตูและรั้วจนพังเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้น พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สันนิษฐานว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นสาวทอมคู่ขา พร้อมกับสั่งให้ตำรวจ สภ.หนองปรือ ออกติดตามจับกุมที่ร้านตัดผมชาย ภายในซอยห้วยใหญ่ ต.ห้วยใหญ่ แต่เจ้าตัวไหวตัวทันขนเสื้อผ้าหลบหนีไปก่อนหน้านี้ ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าของคดีนี้เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 ส.ค.56 พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า แนวทางการสืบสวนในขณะนี้ทราบชื่อมือมีดแล้วคือ น.ส.วันดี สังข์ทอง หรือนุ อายุ 34 ปี ชาว อ.คลองใหญ่ จ.ตราด สาวทอมที่มาติดพันผู้ตาย ซึ่งหลังก่อเหตุได้กลับไปเก็บข้าวของจำเป็นที่ร้านตัดผม แล้วขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีขาว-แดง ทะเบียน จนก-957 ชลบุรี หลบหนีไป เบื้องต้นคาดว่าน่าจะไปอาศัยกบดานอยู่แถวๆบ้านญาติหรือไม่ก็บ้านเพื่อนใน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งมีอาณาเขตติดกับกัมพูชา และยังไม่น่าหลบหนีออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับเลขที่ 558/2556 ลงวันที่ 27 ส.ค.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากใครพบเห็นบุคคลตามภาพขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาชดใช้กรรมต่อไป
กรณี น.ส.กุลนิษฐ์ เบ็ญมาศ อายุ 37 ปี ถูกคนร้ายใช้ของมีคมแทงจนเสียชีวิตอยู่คาเบาะที่นั่งคนขับในรถปิกอัพ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กย-1446 ชลบุรี ที่จอดอยู่หน้าบ้านพักของสามีชาวต่างชาติ เลขที่ 111/7 ซอยพรประภานิมิตร ข้างอบซาวน่าพัทยา หมู่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ในสภาพชนกับประตูและรั้วจนพังเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้น พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สันนิษฐานว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นสาวทอมคู่ขา พร้อมกับสั่งให้ตำรวจ สภ.หนองปรือ ออกติดตามจับกุมที่ร้านตัดผมชาย ภายในซอยห้วยใหญ่ ต.ห้วยใหญ่ แต่เจ้าตัวไหวตัวทันขนเสื้อผ้าหลบหนีไปก่อนหน้านี้ ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าของคดีนี้เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 ส.ค.56 พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า แนวทางการสืบสวนในขณะนี้ทราบชื่อมือมีดแล้วคือ น.ส.วันดี สังข์ทอง หรือนุ อายุ 34 ปี ชาว อ.คลองใหญ่ จ.ตราด สาวทอมที่มาติดพันผู้ตาย ซึ่งหลังก่อเหตุได้กลับไปเก็บข้าวของจำเป็นที่ร้านตัดผม แล้วขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีขาว-แดง ทะเบียน จนก-957 ชลบุรี หลบหนีไป เบื้องต้นคาดว่าน่าจะไปอาศัยกบดานอยู่แถวๆบ้านญาติหรือไม่ก็บ้านเพื่อนใน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งมีอาณาเขตติดกับกัมพูชา และยังไม่น่าหลบหนีออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับเลขที่ 558/2556 ลงวันที่ 27 ส.ค.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากใครพบเห็นบุคคลตามภาพขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาชดใช้กรรมต่อไป
ข่าวพัทยา ประชุมเตรียมความพร้อมเปิดศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยว
ประชุมเตรียมความพร้อมเปิดศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยว
การประชุมเตรียมความพร้อมการจัดพิธีเปิดศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยวประจำศาลจังหวัดพัทยา โดยมีภารกิจหลักเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม พร้อมเปิด 5 ก.ย. นี้
ที่ห้องประชุม ชั้น 3 ศาลจังหวัดพัทยา ท่านอภิชาติ เทพหนู ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดพิธีเปิดศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยว ประจำศาลจังหวัดพัทยา ด้วยได้มีมติจากคณะรัฐบาลที่จะจัดตั้งศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยวขึ้นเป็นแห่งแรกที่ศาลจังหวัดพัทยา เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติภายในเมืองพัทยา ทั้งในลักษณะของคดีแพ่งและคดีอาญา เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรมแก่นักท่องเที่ยว เนื่องจาเหตุที่เกิดกับนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาคดีอย่างรวดเร็ว เพราะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ส่วนใหญ่เป็นผู้มาพำนักชั่วคราวแล้วจะกลับประเทศ การจัดตั้งศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยวจึงเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยมีภารกิจ ให้คำแนะนำและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จัดเตรียมการจัดทำคำฟ้อง การจัดเตรียมล่ามแปลภาษา การดูแลและนัดการพิจารณาคดีภายใน 24 ชม. ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวของในการส่งเรื่องและพิจารณาคดี จัดทำสำนวนคำร้องต่างๆ นัดไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี และดำเนินการไกล่เกลี่ยจนเสร็จสิ้นคดี ทางศาลจังหวัดพัทยาได้กำหนดเปิดศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยวในวันที่ 5 กันยายน โดยเมืองพัทยารับเป็นเจ้าภาพในการจัดสถานที่และดำเนินงานในทุกขั้นตอน รวมทั้งทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา จะดำเนินการประชาสัมพันธ์รวมทั้งประสานสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติเข้าร่วมทำข่าวประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้
การประชุมเตรียมความพร้อมการจัดพิธีเปิดศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยวประจำศาลจังหวัดพัทยา โดยมีภารกิจหลักเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม พร้อมเปิด 5 ก.ย. นี้
ที่ห้องประชุม ชั้น 3 ศาลจังหวัดพัทยา ท่านอภิชาติ เทพหนู ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดพิธีเปิดศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยว ประจำศาลจังหวัดพัทยา ด้วยได้มีมติจากคณะรัฐบาลที่จะจัดตั้งศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยวขึ้นเป็นแห่งแรกที่ศาลจังหวัดพัทยา เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติภายในเมืองพัทยา ทั้งในลักษณะของคดีแพ่งและคดีอาญา เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรมแก่นักท่องเที่ยว เนื่องจาเหตุที่เกิดกับนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาคดีอย่างรวดเร็ว เพราะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ส่วนใหญ่เป็นผู้มาพำนักชั่วคราวแล้วจะกลับประเทศ การจัดตั้งศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยวจึงเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยมีภารกิจ ให้คำแนะนำและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จัดเตรียมการจัดทำคำฟ้อง การจัดเตรียมล่ามแปลภาษา การดูแลและนัดการพิจารณาคดีภายใน 24 ชม. ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวของในการส่งเรื่องและพิจารณาคดี จัดทำสำนวนคำร้องต่างๆ นัดไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี และดำเนินการไกล่เกลี่ยจนเสร็จสิ้นคดี ทางศาลจังหวัดพัทยาได้กำหนดเปิดศูนย์แผนกคดีท่องเที่ยวในวันที่ 5 กันยายน โดยเมืองพัทยารับเป็นเจ้าภาพในการจัดสถานที่และดำเนินงานในทุกขั้นตอน รวมทั้งทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา จะดำเนินการประชาสัมพันธ์รวมทั้งประสานสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติเข้าร่วมทำข่าวประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้
ข่าวพัทยา ชาวห้วยใหญ่ยื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านการสร้างโรงงานปูน
ชาวห้วยใหญ่ยื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านการสร้างโรงงานปูน
ชาวบ้าน ม.4 ห้วยใหญ่ ยื่นหนังสือต่อนายกเทศมนตรี ร้องเรียนและคัดค้านการก่อสร้างแพลนท์ปูนในพื้นที่ เพราะได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และอยากทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใดจึงมีการทำประชามติขอความเห็นจากชาวบ้าน
10.30 น. วันที่ 28 ส.ค. ที่เทศบาลตำบลห้วยใหญ่ ผู้สื่อข่าวพบว่ามีชาวบ้าน ม.4 ตำบลห้วยใหญ่ กว่า 20 คน ได้เดินทางเข้าพบนายไพรัตน์ ไตรศุภโชค นายกเทศมนตรีตำบลห้วยใหญ่ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนและคัดค้านการก่อสร้างโรงงานผสมปูนซีเมนต์สำเร็จตราดอกบัว ตั้งอยู่ติดริมถนนโยธาธิการชากนอก – พัทยา ใกล้ชุมชนตลาดเศรษฐีแก้ว ในพื้นที่ ม.4 ซึ่งปัจจุบันพื้นที่โดยรอบจะเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนจำนวนมาก รวมถึงที่ตั้งของหมู่บ้านใหญ่ๆ อีกหลายแห่ง โดยการก่อสร้างโรงงานผสมปูนซีเมนต์สำเร็จขนาดใหญ่อยู่ระหว่างการก่อสร้างส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลายประการ คือผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เช่น เสียง ฝุ่นละออง น้ำเสีย และความสะอาด โดยการก่อสร้างดังกล่าวทราบว่ายังอยู่ระหว่างการขออนุญาต แต่มีการเดินเครื่องดำเนินการผลิตแล้ว และชาวบ้านอยากทราบว่าเพราะเหตุใดจึงไม่มีการทำประชามติขอความเห็นชาวบ้าน ด้านนายไพรัตน์ นายกเทศมนตรี ได้เปิดห้องประชุมหารือรับฟังความเห็นของชาวบ้านผู้เดือดร้อน เพื่อนำไปเป็นข้อมูล ก่อนเรียกฝ่ายผู้ประกอบการโรงงานปูนมาทำความเข้าใจ ในเบื้องต้นทราบว่าผู้ประกอบการได้มายื่นเอกสารขออนุญาตปลูกสร้างอาคารเพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องการขออนุญาตประกอบการนั้น ทางผู้ประกอบการจะต้องไปยื่นหนังสือยังอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีเท่านั้น อย่างไรก็ตามทางเทศบาลจะได้เรียกผู้ประกอบการมาชี้แจง และจะนัดกลุ่มชาวบ้านผู้เดือดร้อนมาประชุมหารือกันอีกครั้งในวันอังคารที่ 3 ก.ย. เวลา 09.30 น.
ชาวบ้าน ม.4 ห้วยใหญ่ ยื่นหนังสือต่อนายกเทศมนตรี ร้องเรียนและคัดค้านการก่อสร้างแพลนท์ปูนในพื้นที่ เพราะได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และอยากทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใดจึงมีการทำประชามติขอความเห็นจากชาวบ้าน
10.30 น. วันที่ 28 ส.ค. ที่เทศบาลตำบลห้วยใหญ่ ผู้สื่อข่าวพบว่ามีชาวบ้าน ม.4 ตำบลห้วยใหญ่ กว่า 20 คน ได้เดินทางเข้าพบนายไพรัตน์ ไตรศุภโชค นายกเทศมนตรีตำบลห้วยใหญ่ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนและคัดค้านการก่อสร้างโรงงานผสมปูนซีเมนต์สำเร็จตราดอกบัว ตั้งอยู่ติดริมถนนโยธาธิการชากนอก – พัทยา ใกล้ชุมชนตลาดเศรษฐีแก้ว ในพื้นที่ ม.4 ซึ่งปัจจุบันพื้นที่โดยรอบจะเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนจำนวนมาก รวมถึงที่ตั้งของหมู่บ้านใหญ่ๆ อีกหลายแห่ง โดยการก่อสร้างโรงงานผสมปูนซีเมนต์สำเร็จขนาดใหญ่อยู่ระหว่างการก่อสร้างส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลายประการ คือผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เช่น เสียง ฝุ่นละออง น้ำเสีย และความสะอาด โดยการก่อสร้างดังกล่าวทราบว่ายังอยู่ระหว่างการขออนุญาต แต่มีการเดินเครื่องดำเนินการผลิตแล้ว และชาวบ้านอยากทราบว่าเพราะเหตุใดจึงไม่มีการทำประชามติขอความเห็นชาวบ้าน ด้านนายไพรัตน์ นายกเทศมนตรี ได้เปิดห้องประชุมหารือรับฟังความเห็นของชาวบ้านผู้เดือดร้อน เพื่อนำไปเป็นข้อมูล ก่อนเรียกฝ่ายผู้ประกอบการโรงงานปูนมาทำความเข้าใจ ในเบื้องต้นทราบว่าผู้ประกอบการได้มายื่นเอกสารขออนุญาตปลูกสร้างอาคารเพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องการขออนุญาตประกอบการนั้น ทางผู้ประกอบการจะต้องไปยื่นหนังสือยังอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีเท่านั้น อย่างไรก็ตามทางเทศบาลจะได้เรียกผู้ประกอบการมาชี้แจง และจะนัดกลุ่มชาวบ้านผู้เดือดร้อนมาประชุมหารือกันอีกครั้งในวันอังคารที่ 3 ก.ย. เวลา 09.30 น.
ข่าวจอมเทียน ชายหาดจอมเทียนทะเลมีคราบดำหวั่นสารพิษตกค้าง
ชายหาดจอมเทียนทะเลมีคราบดำหวั่นสารพิษตกค้าง
ชายหาดจอมเทียนวิกฤตน้ำทะเลเน่าเหม็น นักท่องเที่ยวผวาไม่กล้าลงเล่นน้ำ หวั่นมีสารพิษตกค้างเจือปน
ปล่อยซาวด์สัมภาษณ์...นายประยูร เข็มเพชร วิศวกรประจำโรงแรม
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าชายหาดหลังโรมแรม ฎ ชดา บ้านนาจอมเทียน น้ำทะเลมีสีดำและเขียวผิดปกติ เกิดฟอง มีกลิ่นเหม็น และมีสัตว์น้ำตายจำนวนมาก ชาวบ้านต้องช่วยกันเก็บไปฝังกลบกันกลิ่นเน่าเหม็น โดยพบปรากฎการณ์ดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเวลา 6 โมงเช้า และทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เมื่อตรวจสอบพบน้ำทะเลเน่าเหม็นเป็นสีเขียว คล้ายตะไคร่น้ำ ส่งกลิ่นเหม็นฉุน หลังคลื่นซัดเข้าฝั่งจะก่อตัวเป็นฟอง และมีคราบน้ำมันบางส่วนปนเปื้อนอยู่ รัศมีเป็นวงกว้าง มีระยะจากแนวเขื่อนกันคลื่นหลังโรงแรม ฎ ชดา ตีแผ่ไปทางเมืองพัทยา ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังพบสัตว์น้ำขนาดเล็กตายเกยหาดจำนวนมาก
ด้านนายสมพงษ์ สายนภา นายกเทศมนตรีตำบลนาจอมเทียน กล่าวถึงสาเหตุที่น้ำทะเลมีสีเขียว คาดว่าเป็นคราบน้ำมันขี้โล้ที่ถูกเรือสินค้าหรือเรือประมงลักลอบปล่อยทิ้งลงสู่ทะเล ก่อนจะถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง เบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจพิสูจน์ ว่ามีสารพิษเจือปนหรือไม่ ประกอบกับขณะนี้มีโรงงานมันสำปะหลังที่อยู่เหนือขึ้นไปทางด้าน ต.ชากแง้ว ปล่อยน้ำเสียลงมาตามลำคลองน้ำเมา อย่างไรก็ตามต้องรอดูผลพิสูจน์น้ำทะเลจากสิ่งแวดล้อมว่ามีสารชนิดใดเจือปน หากตรวจพบว่าเป็นสารพิษถูกปล่อยจากโรงงาน ก็พร้อมจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ประกอบการอย่างแน่นอน
ชายหาดจอมเทียนวิกฤตน้ำทะเลเน่าเหม็น นักท่องเที่ยวผวาไม่กล้าลงเล่นน้ำ หวั่นมีสารพิษตกค้างเจือปน
ปล่อยซาวด์สัมภาษณ์...นายประยูร เข็มเพชร วิศวกรประจำโรงแรม
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าชายหาดหลังโรมแรม ฎ ชดา บ้านนาจอมเทียน น้ำทะเลมีสีดำและเขียวผิดปกติ เกิดฟอง มีกลิ่นเหม็น และมีสัตว์น้ำตายจำนวนมาก ชาวบ้านต้องช่วยกันเก็บไปฝังกลบกันกลิ่นเน่าเหม็น โดยพบปรากฎการณ์ดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเวลา 6 โมงเช้า และทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เมื่อตรวจสอบพบน้ำทะเลเน่าเหม็นเป็นสีเขียว คล้ายตะไคร่น้ำ ส่งกลิ่นเหม็นฉุน หลังคลื่นซัดเข้าฝั่งจะก่อตัวเป็นฟอง และมีคราบน้ำมันบางส่วนปนเปื้อนอยู่ รัศมีเป็นวงกว้าง มีระยะจากแนวเขื่อนกันคลื่นหลังโรงแรม ฎ ชดา ตีแผ่ไปทางเมืองพัทยา ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังพบสัตว์น้ำขนาดเล็กตายเกยหาดจำนวนมาก
ด้านนายสมพงษ์ สายนภา นายกเทศมนตรีตำบลนาจอมเทียน กล่าวถึงสาเหตุที่น้ำทะเลมีสีเขียว คาดว่าเป็นคราบน้ำมันขี้โล้ที่ถูกเรือสินค้าหรือเรือประมงลักลอบปล่อยทิ้งลงสู่ทะเล ก่อนจะถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง เบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจพิสูจน์ ว่ามีสารพิษเจือปนหรือไม่ ประกอบกับขณะนี้มีโรงงานมันสำปะหลังที่อยู่เหนือขึ้นไปทางด้าน ต.ชากแง้ว ปล่อยน้ำเสียลงมาตามลำคลองน้ำเมา อย่างไรก็ตามต้องรอดูผลพิสูจน์น้ำทะเลจากสิ่งแวดล้อมว่ามีสารชนิดใดเจือปน หากตรวจพบว่าเป็นสารพิษถูกปล่อยจากโรงงาน ก็พร้อมจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ประกอบการอย่างแน่นอน
ข่าวสัตหีบ อาวุธประจำเครื่องบินที่ใช้ฝึกเกิดระเบิด เจ้าหน้าที่เจ็บ 4 นาย
อาวุธประจำเครื่องบินที่ใช้ฝึกเกิดระเบิด เจ้าหน้าที่เจ็บ 4 นาย
กองทัพอากาศฝึกความพร้อมนักบินและสรรพาวุธ ฝูงบินอิสระปฎิบัติการราชการสนาม 106 กองทัพอากาศที่อู่ตะเภา อาวุธประจำเครื่องขัดข้อง เจ้าหน้าที่สรรพาวุธ 4 นาย เข้าแก้ไขแต่รังเพลิงเกิดระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่สรรพาวุธได้รับบาดเจ็บ ถูกหามส่งโรงพยาบาล
ได้เกิดเหตุระเบิดที่เครื่องบินขับไล่โจมตี ชนิดไอพ่น แอล 39 ขณะที่จอดอยู่บริเวณลานบิน ฝูงบิน 2 อู่ตะเภา ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง รถกู้ชีพฉุกเฉินของ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ มารับผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย ประกอบด้วย เรืออากาศตรี ศักดิ์สิรินทร์ รุ่งโรจน์ พันจ่าอากาศเอก สุรเชษฐ์ ฑีฆาวงศ์ พันจ่าอากาศเอกฉลอง มั่นพรม กระสุนปืนเข้าที่ท้อง 1 นัด จ่าอากาศตรี กัณต์ภพ ศรีประเสริฐ ซึ่งทั้ง 4 นายเป็นเจ้าหน้าที่สรรพาวุธ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเกิดเหตุได้สอบถามแหล่งข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าขณะนี้กองทัพอากาศได้มีการฝึกความพร้อมนักบิน และเจ้าหน้าที่สรรพาวุธ ประจำปี 2556 ณ ฝูงบินอิสระปฎิบัติการราชการสนาม 106 ภายในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ โดยได้นำเครื่องบินฝึกทั้งหมดไปจอดไว้ที่ลานจอด ฝูงบิน 2 จำนวน 6 เครื่อง เพื่อเตรียมความในการฝึกนักบินขับไล่โจมตี ก่อนออกทำการฝึกประจำวัน ได้มีการเตรียมความพร้อมของเครื่อง และอาวุธประจำเครื่อง ปรากฏว่ามีกระสุนปืนค้างในรังเพลิง เจ้าหน้าที่สรรพาวุธจึงได้เข้าไปช่วยกันแก้ไขปัญหา ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้นบริเวณรังเพลิง ทำให้กระสุนระเบิดพุ่งเข้ามายังหน้าท้องของพันจ่าอากาศเอกฉลอง มั่นพรม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู สำหรับการฝึกความพร้อมของเครื่องบินฝึกบินขับไล่/โจมตี ครั้งนี้ เป็นการฝึกนักบินขั้นต้น ระหว่างสนามบินตาคลี จ.นครสวรรค์กับสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง และปืนที่ระเบิดเป็นปืนต่อสู้อากาศยาน ประจำเครื่องขนาดครึ่งนิ้ว ซึ่งอยู่ส่วนหน้าด้านข้าง 2 ข้าง ส่วนกระบอกที่ระเบิดอยู่ฝั่งด้านซ้าย
กองทัพอากาศฝึกความพร้อมนักบินและสรรพาวุธ ฝูงบินอิสระปฎิบัติการราชการสนาม 106 กองทัพอากาศที่อู่ตะเภา อาวุธประจำเครื่องขัดข้อง เจ้าหน้าที่สรรพาวุธ 4 นาย เข้าแก้ไขแต่รังเพลิงเกิดระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่สรรพาวุธได้รับบาดเจ็บ ถูกหามส่งโรงพยาบาล
ได้เกิดเหตุระเบิดที่เครื่องบินขับไล่โจมตี ชนิดไอพ่น แอล 39 ขณะที่จอดอยู่บริเวณลานบิน ฝูงบิน 2 อู่ตะเภา ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง รถกู้ชีพฉุกเฉินของ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ มารับผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย ประกอบด้วย เรืออากาศตรี ศักดิ์สิรินทร์ รุ่งโรจน์ พันจ่าอากาศเอก สุรเชษฐ์ ฑีฆาวงศ์ พันจ่าอากาศเอกฉลอง มั่นพรม กระสุนปืนเข้าที่ท้อง 1 นัด จ่าอากาศตรี กัณต์ภพ ศรีประเสริฐ ซึ่งทั้ง 4 นายเป็นเจ้าหน้าที่สรรพาวุธ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเกิดเหตุได้สอบถามแหล่งข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าขณะนี้กองทัพอากาศได้มีการฝึกความพร้อมนักบิน และเจ้าหน้าที่สรรพาวุธ ประจำปี 2556 ณ ฝูงบินอิสระปฎิบัติการราชการสนาม 106 ภายในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ โดยได้นำเครื่องบินฝึกทั้งหมดไปจอดไว้ที่ลานจอด ฝูงบิน 2 จำนวน 6 เครื่อง เพื่อเตรียมความในการฝึกนักบินขับไล่โจมตี ก่อนออกทำการฝึกประจำวัน ได้มีการเตรียมความพร้อมของเครื่อง และอาวุธประจำเครื่อง ปรากฏว่ามีกระสุนปืนค้างในรังเพลิง เจ้าหน้าที่สรรพาวุธจึงได้เข้าไปช่วยกันแก้ไขปัญหา ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้นบริเวณรังเพลิง ทำให้กระสุนระเบิดพุ่งเข้ามายังหน้าท้องของพันจ่าอากาศเอกฉลอง มั่นพรม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู สำหรับการฝึกความพร้อมของเครื่องบินฝึกบินขับไล่/โจมตี ครั้งนี้ เป็นการฝึกนักบินขั้นต้น ระหว่างสนามบินตาคลี จ.นครสวรรค์กับสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง และปืนที่ระเบิดเป็นปืนต่อสู้อากาศยาน ประจำเครื่องขนาดครึ่งนิ้ว ซึ่งอยู่ส่วนหน้าด้านข้าง 2 ข้าง ส่วนกระบอกที่ระเบิดอยู่ฝั่งด้านซ้าย
ข่าวพัทยา แถลงข่าววันประสูติองค์เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ
แถลงข่าววันประสูติองค์เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ
งานแถลงข่าวโครงการมหาศรัทธาบารมีที่ยิ่งใหญ่ วันประสูติองค์เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ องค์พระพิฆเณศวร์ เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการบูชาพระพิฆเนศ 2-12 ก.ย.นี้
นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ เดชนที ประธานชมรมคนรักพระพิฆเณศวร์แห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวโครงการมหาศรัทธาบารมีที่ยิ่งใหญ่ วันประสูติองค์เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ องค์พระพิฆเณศวร์ โดยงานคเณศจตุรถี หรือวันคล้ายวันประสูติขององค์พระพิฆเณศวร์ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2-12 ก.ย. ที่บริเวณลานพิธีติดสถานีรถรุ่งเรืองทัวร์พัทยาเหนือ ตั้งแต่เวลา 10.00-23.00 น. และในวันที่ 8 ก.ย. จะมีพิธีส่งเสร็จสู่ทะเลที่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย เทศกาลดังกล่าวนับเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการบูชาพระพิฆเนศ จัดขึ้นตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 10 หรือเดือนภัทรบท ซึ่งถือเป็นวันกำเนิดของพระพิฆเนศ เทศกาลนี้ในประเทศอินเดียจะจัดสร้างเทวรูปองค์พระพิฆเนศขนาดใหญ่มาประดิษฐานไว้บริเวณเวทีที่ตกแต่งอย่างสวยงาม และทุกเวลาช่วงเย็นประชาชนในหมู่บ้านจะมาสวดมนต์ขอพร บวงสรวงอารตีบูชาไฟ ก่อนจะนำไปปล่อยสู่แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อส่งพระองค์กลับสู่สรวงสวรรค์ โดยเมืองพัทยาจะจัดขึ้นที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายพัทยาใต้ พร้อมกับจะประกอบพิธีบวงสรวงขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีการอัญเชิญองค์พระพิฆเนศแห่ไปตามเส้นทางหลัก เพื่อให้ประชาชนผู้ศรัทธาได้กราบไหว้บูชาก่อนปล่อยสู่อ่าวพัทยา ภายในงานประชาชนยังจะได้รับชมการแสดงพลุไฟถวายพระพร พิธีสวดนพเคราะห์เสริมดวง, สวดโซฮาเสริมบารมี, พิธีครอบเศียรพระพิฆเณศวร์, พิธีสรงน้ำ สรงนม อารตีบูชาไฟ, การแสดงนิทรรศการ “คเณศจตุรถี” ตลอดจนประติมากรรมพระพิฆเนศมากมายกว่า 2,000 องค์
งานแถลงข่าวโครงการมหาศรัทธาบารมีที่ยิ่งใหญ่ วันประสูติองค์เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ องค์พระพิฆเณศวร์ เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการบูชาพระพิฆเนศ 2-12 ก.ย.นี้
นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ เดชนที ประธานชมรมคนรักพระพิฆเณศวร์แห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวโครงการมหาศรัทธาบารมีที่ยิ่งใหญ่ วันประสูติองค์เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ องค์พระพิฆเณศวร์ โดยงานคเณศจตุรถี หรือวันคล้ายวันประสูติขององค์พระพิฆเณศวร์ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2-12 ก.ย. ที่บริเวณลานพิธีติดสถานีรถรุ่งเรืองทัวร์พัทยาเหนือ ตั้งแต่เวลา 10.00-23.00 น. และในวันที่ 8 ก.ย. จะมีพิธีส่งเสร็จสู่ทะเลที่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย เทศกาลดังกล่าวนับเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการบูชาพระพิฆเนศ จัดขึ้นตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 10 หรือเดือนภัทรบท ซึ่งถือเป็นวันกำเนิดของพระพิฆเนศ เทศกาลนี้ในประเทศอินเดียจะจัดสร้างเทวรูปองค์พระพิฆเนศขนาดใหญ่มาประดิษฐานไว้บริเวณเวทีที่ตกแต่งอย่างสวยงาม และทุกเวลาช่วงเย็นประชาชนในหมู่บ้านจะมาสวดมนต์ขอพร บวงสรวงอารตีบูชาไฟ ก่อนจะนำไปปล่อยสู่แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อส่งพระองค์กลับสู่สรวงสวรรค์ โดยเมืองพัทยาจะจัดขึ้นที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายพัทยาใต้ พร้อมกับจะประกอบพิธีบวงสรวงขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีการอัญเชิญองค์พระพิฆเนศแห่ไปตามเส้นทางหลัก เพื่อให้ประชาชนผู้ศรัทธาได้กราบไหว้บูชาก่อนปล่อยสู่อ่าวพัทยา ภายในงานประชาชนยังจะได้รับชมการแสดงพลุไฟถวายพระพร พิธีสวดนพเคราะห์เสริมดวง, สวดโซฮาเสริมบารมี, พิธีครอบเศียรพระพิฆเณศวร์, พิธีสรงน้ำ สรงนม อารตีบูชาไฟ, การแสดงนิทรรศการ “คเณศจตุรถี” ตลอดจนประติมากรรมพระพิฆเนศมากมายกว่า 2,000 องค์
ข่าวพัทยา ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านอาหารปลอดภัย
ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านอาหารปลอดภัย
สาธารณสุขจังหวัดชลบุรีจัดประชุมแลกเปลี่ยนวิชาการด้านอาหารปลอดภัยจากสารพิษ และประกวดด้านคุ้มครองผู้บริโภค
ที่โรงแรม เอ-วัน เดอะรอยัลครูสพัทยา สาธารณสุขจังหวัดชลบุรีร่วมกับเครือข่ายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดชลบุรี จัดประชุมเชิงปฎิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการประกวดด้านคุ้มครองผู้บริโภคและอาหารปลอดภัย ก่อนจะมีพิธีเปิด ได้มีการมอบโล่ให้กับหน่วยงานดีเด่น โดยกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุขสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านอาหารและยาผลิตภัณฑ์สุขภาพและบริการสุขภาพ ซึ่งมีผู้ปฎิบัติงานทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบลรวมถึงเครือข่ายชมรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลให้ประชาชนได้บริโภคอาหาร ยา ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ ที่ให้บริการสุขภาพที่ปลอดภัย โดยมีคุณเสรี เจตสุคนธรรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดการประชุม โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นองค์กรหลักในการพัฒนาระบบสุขภาพโดยมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ภารกิจที่สำคัญได้แก่การส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟูและคุ้มครองผู้บริโภค ในวันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และการประกวดด้านคุ้มครองผู้บริโภคและอาหารปลอดภัย เพื่อนำความรู้ที่ได้รับนำไปปรับปรุงและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม รวมถึงเป็นการส่งเสริมการดำเนินงานอย่างเป็นเครือข่าย ร่วมกันพัฒนางานที่เกี่ยวข้องและรู้จักแก้ไขปัญหาร่วมกัน
สาธารณสุขจังหวัดชลบุรีจัดประชุมแลกเปลี่ยนวิชาการด้านอาหารปลอดภัยจากสารพิษ และประกวดด้านคุ้มครองผู้บริโภค
ที่โรงแรม เอ-วัน เดอะรอยัลครูสพัทยา สาธารณสุขจังหวัดชลบุรีร่วมกับเครือข่ายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดชลบุรี จัดประชุมเชิงปฎิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการประกวดด้านคุ้มครองผู้บริโภคและอาหารปลอดภัย ก่อนจะมีพิธีเปิด ได้มีการมอบโล่ให้กับหน่วยงานดีเด่น โดยกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุขสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านอาหารและยาผลิตภัณฑ์สุขภาพและบริการสุขภาพ ซึ่งมีผู้ปฎิบัติงานทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบลรวมถึงเครือข่ายชมรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลให้ประชาชนได้บริโภคอาหาร ยา ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ ที่ให้บริการสุขภาพที่ปลอดภัย โดยมีคุณเสรี เจตสุคนธรรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดการประชุม โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นองค์กรหลักในการพัฒนาระบบสุขภาพโดยมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ภารกิจที่สำคัญได้แก่การส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟูและคุ้มครองผู้บริโภค ในวันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และการประกวดด้านคุ้มครองผู้บริโภคและอาหารปลอดภัย เพื่อนำความรู้ที่ได้รับนำไปปรับปรุงและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม รวมถึงเป็นการส่งเสริมการดำเนินงานอย่างเป็นเครือข่าย ร่วมกันพัฒนางานที่เกี่ยวข้องและรู้จักแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ข่าวพัทยา งานค่ำคืนแห่งวัฒนธรรม วิถีไทย 4 ภาค
งานค่ำคืนแห่งวัฒนธรรม วิถีไทย 4 ภาค
เมืองพัทยาจัดงานค่ำคืนแห่งวัฒนธรรม วิถีไทย 4 ภาค ต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
เมืองพัทยาได้จัดงานค่ำคืนแห่งวัฒนธรรม วิถีไทย 4 ภาค ที่รวบรวมความเป็นไทยไว้ใน 1 เดียว งานในค่ำคืนนี้เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ครั้งที่ 21 เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม ที่ศูนย์ประชุมพีช โรงแรมรอยัลคลีฟบีชรีสอร์ท โดยการจัดงานค่ำคืนแห่งศิลปวัฒนธรรมนี้ เพื่อสื่อสารความเป็นไทย ทั้งเชิงวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม อาหาร ที่มีความสอดคล้องกับแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติได้เก็บเกี่ยวความรู้ ความเข้าใจ ที่นอกเหนือจากเนื้อหาวิชาการจากการประชุมหลักแล้ว ยังรวมไปถึงการได้สัมผัสกับศิลปวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และวิถีชีวิตแบบไทย และเพื่อสนับสนุนเด็กและเยาวชน โดยได้รับเกียรติจากนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานกล่าวต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติ นอกจากนี้นายแพทย์อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม กรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิจาก สสส. เป็นตัวแทนมอบของที่ระลึกให้แก่นายอิทธิพล คุณปลื้ม ในโอกาสนี้ด้วย ภายในงานได้จัดซุ้มวิถีไทยตามภาคต่างๆ ให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถเข้าร่วมชมการสาธิตการทำอาหารและขนมของภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังได้ร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่มาจากทุกภูมิภาคของไทย จำนวน 5 ชุด แสดงโดยคณะนักแสดงเยาวชนจากกลุ่มโรงเรียนเมืองพัทยา อาทิ การแสดงโขนรามเกียรติ์ ตอน ศึกพรหมมาศ การแสดงระบำ 4 ภาค การแสดงกระบี่กระบอง และการร่วมรำวงกับผู้เข้าร่วมประชุมในวันนี้
เมืองพัทยาจัดงานค่ำคืนแห่งวัฒนธรรม วิถีไทย 4 ภาค ต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
เมืองพัทยาได้จัดงานค่ำคืนแห่งวัฒนธรรม วิถีไทย 4 ภาค ที่รวบรวมความเป็นไทยไว้ใน 1 เดียว งานในค่ำคืนนี้เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ครั้งที่ 21 เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม ที่ศูนย์ประชุมพีช โรงแรมรอยัลคลีฟบีชรีสอร์ท โดยการจัดงานค่ำคืนแห่งศิลปวัฒนธรรมนี้ เพื่อสื่อสารความเป็นไทย ทั้งเชิงวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม อาหาร ที่มีความสอดคล้องกับแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติได้เก็บเกี่ยวความรู้ ความเข้าใจ ที่นอกเหนือจากเนื้อหาวิชาการจากการประชุมหลักแล้ว ยังรวมไปถึงการได้สัมผัสกับศิลปวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และวิถีชีวิตแบบไทย และเพื่อสนับสนุนเด็กและเยาวชน โดยได้รับเกียรติจากนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานกล่าวต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติ นอกจากนี้นายแพทย์อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม กรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิจาก สสส. เป็นตัวแทนมอบของที่ระลึกให้แก่นายอิทธิพล คุณปลื้ม ในโอกาสนี้ด้วย ภายในงานได้จัดซุ้มวิถีไทยตามภาคต่างๆ ให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถเข้าร่วมชมการสาธิตการทำอาหารและขนมของภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังได้ร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่มาจากทุกภูมิภาคของไทย จำนวน 5 ชุด แสดงโดยคณะนักแสดงเยาวชนจากกลุ่มโรงเรียนเมืองพัทยา อาทิ การแสดงโขนรามเกียรติ์ ตอน ศึกพรหมมาศ การแสดงระบำ 4 ภาค การแสดงกระบี่กระบอง และการร่วมรำวงกับผู้เข้าร่วมประชุมในวันนี้
ข่าวพัทยา รพ.พัทยาเมโมเรียลซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเพลิงไหม้
รพ.พัทยาเมโมเรียลซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเพลิงไหม้
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล จัดโครงการอบรมการป้องกัน ระงับอัคคีภัย และการซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ฝึกซ้อมการจำลองสถานการณ์ภาคปฏิบัติ ด้วยการจำลองสถานการณ์เหมือนจริง
นายแพทย์ฉมดล รัตนสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล จัดโครงการอบรมการป้องกัน ระงับอัคคีภัย และการซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ประจำปี 2556 โดยในช่วงบ่ายเป็นการฝึกซ้อมการจำลองสถานการณ์ภาคปฏิบัติ ด้วยการจำลองสถานการณ์เหมือนจริง โดยใช้บริเวณชั้น 3 และชั้น 5 ของอาคารโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียลเป็นพื้นที่จำลองสถานการณ์ ซึ่งการจัดซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับเหตุอัคคีภัย และซักซ้อมแนวปฏิบัติเมื่อเกิดอัคคีภัยให้กับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เพื่อให้บุคลากรเข้าใจบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบในการป้องกัน จนสามารถระงับในขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ อีกทั้งปฏิบัติตามแผนได้อย่างถูกต้องไม่สับสน นอกจากนี้การซ้อมแผนป้องกันอัคคีภัยโดยการจำลองสถานการณ์จะเป็นการประสานการปฏิบัติงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือและอพยพผู้ป่วย และผู้ประสบภัยจากพื้นที่อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการตรวจสอบนำข้อบกพร่องจากการฝึกปฏิบัติจริงไปปรับปรุงแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของโรงพยาบาล เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง ตลอดจนเป็นการช่วยลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินหากเกิดอัคคีภัยขึ้นจริง นายแพทย์ฉมดล ยังได้มอบกระเช้าผลไม้และของที่ระลึกแก่คณะวิทยากรจากศูนย์ป้องกันภัยพิบัติทางบกเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ที่ให้เกียรติเข้าร่วมฝึกซ้อม และให้ความรู้แก่บุคลากรของโรงพยาบาล พร้อมกล่าวปิดกิจกรรม
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล จัดโครงการอบรมการป้องกัน ระงับอัคคีภัย และการซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ฝึกซ้อมการจำลองสถานการณ์ภาคปฏิบัติ ด้วยการจำลองสถานการณ์เหมือนจริง
นายแพทย์ฉมดล รัตนสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล จัดโครงการอบรมการป้องกัน ระงับอัคคีภัย และการซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ประจำปี 2556 โดยในช่วงบ่ายเป็นการฝึกซ้อมการจำลองสถานการณ์ภาคปฏิบัติ ด้วยการจำลองสถานการณ์เหมือนจริง โดยใช้บริเวณชั้น 3 และชั้น 5 ของอาคารโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียลเป็นพื้นที่จำลองสถานการณ์ ซึ่งการจัดซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับเหตุอัคคีภัย และซักซ้อมแนวปฏิบัติเมื่อเกิดอัคคีภัยให้กับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เพื่อให้บุคลากรเข้าใจบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบในการป้องกัน จนสามารถระงับในขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ อีกทั้งปฏิบัติตามแผนได้อย่างถูกต้องไม่สับสน นอกจากนี้การซ้อมแผนป้องกันอัคคีภัยโดยการจำลองสถานการณ์จะเป็นการประสานการปฏิบัติงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือและอพยพผู้ป่วย และผู้ประสบภัยจากพื้นที่อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการตรวจสอบนำข้อบกพร่องจากการฝึกปฏิบัติจริงไปปรับปรุงแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของโรงพยาบาล เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง ตลอดจนเป็นการช่วยลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินหากเกิดอัคคีภัยขึ้นจริง นายแพทย์ฉมดล ยังได้มอบกระเช้าผลไม้และของที่ระลึกแก่คณะวิทยากรจากศูนย์ป้องกันภัยพิบัติทางบกเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ที่ให้เกียรติเข้าร่วมฝึกซ้อม และให้ความรู้แก่บุคลากรของโรงพยาบาล พร้อมกล่าวปิดกิจกรรม
Wednesday, August 28, 2013
เปิดร้านโกดังนมสด - ร้านนวดอบสมุนไพร
เปิดร้านโกดังนมสด - ร้านนวดอบสมุนไพร
2 นักธุรกิจเมืองพัทยาร่วมทุนเปิดร้านโกดังนมสดสร้างเยาวชนไทยให้มีสุขภาพดีถ้วนหน้า ทางเลือกใหม่แก่นักดื่มนมราคาประหยัด พร้อมเปิดร้านนวดแผนไทย ดึงคนตาบอดให้มีอาชีพสร้างเสริมรายได้เลี้ยงครอบครัว
ค่ำวันที่ 26 สิงหาคม ที่ร้านโกดังนม หลังวิทยาลัยเทคโนโลยีอักษรพัทยา คุณพจนารถ วัฒนศาสตร์สาธร ประธานบริหาร ฟลิปเปอร์กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วยคุณวิมลรัตน์ รวยริน ประธานไซม่อนคาบาเร่ต์ ให้เกียรติร่วมงานพิธีเปิดร้านโกดังนมสดอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยนายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ประธานกรรมาธิการวัฒนธรรมและกีฬา สภาเมืองพัทยา นายพันธุ์ศักดิ์ แสงจันทร์ สมาชิกสภาเมืองพัทยาเขต 4 คุณแม่สำราญ แสงจันทร์ ประธานบริหารมารีนกรู๊ปพร้อมแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยทางร้านโกดังนมสดและนวดแผนไทย ร่วมลงทุนจำนวนกว่า 2 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่จำนวน 1 ไร่ 1 งาน สร้างจุดขายเปิดร้านโกดังนมสด และร้านเทพประสิทธิ์นวดแผนโบราณ สร้างทางเลือกใหม่ของนิสิตนักศึกษาที่ชื่นชอบในการดื่มนมเพื่อสุขภาพ บริการนมดีราคาถูก ราคาเริ่มต้นที่ 19- 129 บาท ทางเลือกใหม่แก่วัยรุ่นที่ต้องการพบปะสังสรรค์ในเรื่องของการจัดปาร์ตี้พบปะพูดคุยเรื่องสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันเยาวชนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องการดื่มนม ทางร้านโกดังนมสดคือทางเลือกใหม่ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เยาวชนไทยให้หันมาดื่มนมและรักษาสุขภาพ ซึ่งสามารถรองรับลูกค้าได้จำนวน 60-80 คน เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา14.00-24.00 น. มีดนตรีคอยขับกล่อมตลอดทุกค่ำคืน อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาดื่มนมและออกกำลังกายห่างไกลยาเสพติด และเมื่อเวลา 19.30 น. ได้มีพิธีเปิดร้านโกดังนมสดอย่างเป็นทางการ โดยมีคุณแม่สำราญ แสงจันทร์ และคุณแม่วิมลรัตน์ รวยริน เป็นประธานร่วมกันตัดริบบิ้น และเมื่อเวลา 20.00 น.ได้ฤกษ์ดีเปิดร้านนวดแผนไทย อบสมุนไพร เพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้แก่คนตาบอดในพื้นที่ บริเวณด้านหลังของร้านโกดังนมสด สามารถรองรับผู้ที่ชื่นชอบในการนวดแผนไทย ราคาชั่วโมงละ 160 บาท บริหารงานโดยคุณแม่สำราญ แสงจันทร์ ผู้บริหาร บ.มารีนกรุ๊ป จำกัด เปิดบริการตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.ของทุกวัน
2 นักธุรกิจเมืองพัทยาร่วมทุนเปิดร้านโกดังนมสดสร้างเยาวชนไทยให้มีสุขภาพดีถ้วนหน้า ทางเลือกใหม่แก่นักดื่มนมราคาประหยัด พร้อมเปิดร้านนวดแผนไทย ดึงคนตาบอดให้มีอาชีพสร้างเสริมรายได้เลี้ยงครอบครัว
ค่ำวันที่ 26 สิงหาคม ที่ร้านโกดังนม หลังวิทยาลัยเทคโนโลยีอักษรพัทยา คุณพจนารถ วัฒนศาสตร์สาธร ประธานบริหาร ฟลิปเปอร์กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วยคุณวิมลรัตน์ รวยริน ประธานไซม่อนคาบาเร่ต์ ให้เกียรติร่วมงานพิธีเปิดร้านโกดังนมสดอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยนายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ประธานกรรมาธิการวัฒนธรรมและกีฬา สภาเมืองพัทยา นายพันธุ์ศักดิ์ แสงจันทร์ สมาชิกสภาเมืองพัทยาเขต 4 คุณแม่สำราญ แสงจันทร์ ประธานบริหารมารีนกรู๊ปพร้อมแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยทางร้านโกดังนมสดและนวดแผนไทย ร่วมลงทุนจำนวนกว่า 2 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่จำนวน 1 ไร่ 1 งาน สร้างจุดขายเปิดร้านโกดังนมสด และร้านเทพประสิทธิ์นวดแผนโบราณ สร้างทางเลือกใหม่ของนิสิตนักศึกษาที่ชื่นชอบในการดื่มนมเพื่อสุขภาพ บริการนมดีราคาถูก ราคาเริ่มต้นที่ 19- 129 บาท ทางเลือกใหม่แก่วัยรุ่นที่ต้องการพบปะสังสรรค์ในเรื่องของการจัดปาร์ตี้พบปะพูดคุยเรื่องสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันเยาวชนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องการดื่มนม ทางร้านโกดังนมสดคือทางเลือกใหม่ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เยาวชนไทยให้หันมาดื่มนมและรักษาสุขภาพ ซึ่งสามารถรองรับลูกค้าได้จำนวน 60-80 คน เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา14.00-24.00 น. มีดนตรีคอยขับกล่อมตลอดทุกค่ำคืน อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาดื่มนมและออกกำลังกายห่างไกลยาเสพติด และเมื่อเวลา 19.30 น. ได้มีพิธีเปิดร้านโกดังนมสดอย่างเป็นทางการ โดยมีคุณแม่สำราญ แสงจันทร์ และคุณแม่วิมลรัตน์ รวยริน เป็นประธานร่วมกันตัดริบบิ้น และเมื่อเวลา 20.00 น.ได้ฤกษ์ดีเปิดร้านนวดแผนไทย อบสมุนไพร เพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้แก่คนตาบอดในพื้นที่ บริเวณด้านหลังของร้านโกดังนมสด สามารถรองรับผู้ที่ชื่นชอบในการนวดแผนไทย ราคาชั่วโมงละ 160 บาท บริหารงานโดยคุณแม่สำราญ แสงจันทร์ ผู้บริหาร บ.มารีนกรุ๊ป จำกัด เปิดบริการตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.ของทุกวัน
พบศพพนักงานขับรถหัวลากถูกแทงตัดขั้วหัวใจ
พบศพพนักงานขับรถหัวลากถูกแทงตัดขั้วหัวใจ
พบศพพนักงานขับรถหัวลากถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตคาห้องพัก หัวหน้างานเผย 3 วันก่อนมีหญิงสาวโทรมาลางานให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยเบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว
พบศพภายในห้องเช่า ในที่เกิดเหตุพบศพนายใหม่ เรือนช่าง อายุ 24 ปี พนักงานบริษัท อีสเทิร์นทราน จำกัด เลือดกระจายเต็มพื้นห้องและบนที่นอน มีบาดแผลถูกของมีคมแทงที่บริเวณหน้าอกข้างซ้าย จำนวน 6 แผล และที่ลำคออีก 1 แผล ข้างที่นอนพบมีดปลายแหลมตกอยู่ สภาพภายในห้องพักถูกรื้อค้นทรัพย์สิน พร้อมพบโทรศัพท์มือถือยังเปิดเครื่องอยู่ในกระเป๋ากางเกง จากการสอบสวนเบื้องต้น นายพงษ์อมร สืบวงค์ หัวหน้างานของนายใหม่ เปิดเผยว่า นายใหม่เป็นพนักงานขับรถหัวลาก ปกติจะไม่เคยขาดงาน และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้มีผู้หญิงโทรศัพท์มาหาตน พร้อมบอกว่าเป็นแฟนของนายใหม่ ขอลางานให้นายใหม่เนื่องจากป่วยไปทำงานไม่ได้ หลังจากนั้นเพื่อนร่วมงานได้โทรศัพท์ไปหานายใหม่เพื่อสอบถามอาการป่วย แต่ไม่มีการรับสาย จนกระทั่งวันนี้รู้สึกแปลกใจจึงได้เดินทางมาดูที่บ้านพัก ก็พบว่านายใหม่ถูกแทงเสียชีวิต ด้านนางกัณยาภร ชาวบล เจ้าของห้องเช่าให้ข้อมูลว่า นายใหม่จะมีเพื่อนๆ ไปมาหาสู่เป็นประจำ ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนผู้ชาย แต่เมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้หญิงมาหา ส่วนใหญ่ก็จะมานั่งดื่มเหล้าคุยกัน เปิดทีวีดูฟุตบอลเกือบจะทุกคืน ล่าสุดตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ห้องนายใหม่ปิดเงียบดับไฟสนิท และในช่วงเช้าปกติจะล๊อกกุญแจด้านนอกเพราะต้องออกไปทำงาน โดยในช่วง 2-3 วันนี้ ห้องไม่ได้ล๊อกกุญแจด้านนอก ตนคิดว่านายใหม่คงจะป่วยและไม่ไปทำงาน จึงไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเพื่อนมาและเคาะห้องเรียกก็ไม่เปิด จึงได้งัดห้อง ก็พบนายใหม่ถูกแทงเสียชีวิต พ.ต.ท.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผกก.สภ.แหลมฉบัง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้น่าจะมาจากปัญหาชู้สาวพร้อมชิงทรัพย์ เนื่องจากเงินกระเป๋าหายหมด ภายในห้องถูกรื้อค้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวร้ายมาดำเนินคดี พร้อมขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัทที่อยู่ด้านหน้าบ้านเช่าแล้ว
พบศพพนักงานขับรถหัวลากถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตคาห้องพัก หัวหน้างานเผย 3 วันก่อนมีหญิงสาวโทรมาลางานให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยเบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว
พบศพภายในห้องเช่า ในที่เกิดเหตุพบศพนายใหม่ เรือนช่าง อายุ 24 ปี พนักงานบริษัท อีสเทิร์นทราน จำกัด เลือดกระจายเต็มพื้นห้องและบนที่นอน มีบาดแผลถูกของมีคมแทงที่บริเวณหน้าอกข้างซ้าย จำนวน 6 แผล และที่ลำคออีก 1 แผล ข้างที่นอนพบมีดปลายแหลมตกอยู่ สภาพภายในห้องพักถูกรื้อค้นทรัพย์สิน พร้อมพบโทรศัพท์มือถือยังเปิดเครื่องอยู่ในกระเป๋ากางเกง จากการสอบสวนเบื้องต้น นายพงษ์อมร สืบวงค์ หัวหน้างานของนายใหม่ เปิดเผยว่า นายใหม่เป็นพนักงานขับรถหัวลาก ปกติจะไม่เคยขาดงาน และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้มีผู้หญิงโทรศัพท์มาหาตน พร้อมบอกว่าเป็นแฟนของนายใหม่ ขอลางานให้นายใหม่เนื่องจากป่วยไปทำงานไม่ได้ หลังจากนั้นเพื่อนร่วมงานได้โทรศัพท์ไปหานายใหม่เพื่อสอบถามอาการป่วย แต่ไม่มีการรับสาย จนกระทั่งวันนี้รู้สึกแปลกใจจึงได้เดินทางมาดูที่บ้านพัก ก็พบว่านายใหม่ถูกแทงเสียชีวิต ด้านนางกัณยาภร ชาวบล เจ้าของห้องเช่าให้ข้อมูลว่า นายใหม่จะมีเพื่อนๆ ไปมาหาสู่เป็นประจำ ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนผู้ชาย แต่เมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้หญิงมาหา ส่วนใหญ่ก็จะมานั่งดื่มเหล้าคุยกัน เปิดทีวีดูฟุตบอลเกือบจะทุกคืน ล่าสุดตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ห้องนายใหม่ปิดเงียบดับไฟสนิท และในช่วงเช้าปกติจะล๊อกกุญแจด้านนอกเพราะต้องออกไปทำงาน โดยในช่วง 2-3 วันนี้ ห้องไม่ได้ล๊อกกุญแจด้านนอก ตนคิดว่านายใหม่คงจะป่วยและไม่ไปทำงาน จึงไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเพื่อนมาและเคาะห้องเรียกก็ไม่เปิด จึงได้งัดห้อง ก็พบนายใหม่ถูกแทงเสียชีวิต พ.ต.ท.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผกก.สภ.แหลมฉบัง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้น่าจะมาจากปัญหาชู้สาวพร้อมชิงทรัพย์ เนื่องจากเงินกระเป๋าหายหมด ภายในห้องถูกรื้อค้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวร้ายมาดำเนินคดี พร้อมขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัทที่อยู่ด้านหน้าบ้านเช่าแล้ว
หนุ่มใหญ่ยิงขมับตัวเองประชดกิ๊ก
หนุ่มใหญ่ยิงขมับตัวเองประชดกิ๊ก
หนุ่มวิทยุสมัครเล่นประชดกิ๊ก หลังสาวรุ่นมารู้ว่าหนุ่มใหญ่รายนี้มีภรรยาและลูกอยู่แล้ว จึงพยายามเลิก หนุ่มใหญ่ตามง้อไม่สำเร็จ ชักทูตมรณะระเบิดสมองตัวเอง
16.30 น.วันที่ 26 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลแหลมฉบังอินเตอร์ ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกยิงเข้าศีรษะมาทำการรักษาก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบไทยมุงคอยดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ตรวจสอบบริเวณท้ายรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์-เงิน พบศพนายอนันท์ ขันทะสีมา อายุ 41 ปี สวมเสื้อโปโลนักวิทยุสมัครเล่นกลุ่มสหพัฒน์สัมพันธ์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 มม. เข้าที่ขมับขวากระสุนทะลุซ้าย คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 1 ชม.ใกล้กันพบ น.ส.กัญญารัตน์ หอมขจร อายุ 24 ปี อยู่ในอาการร้องไห้ฟูมฟายก่อนให้การว่า ได้คบหากับผู้ตายได้ประมาณ 4 เดือน ผู้ตายได้ส่งเสียเลี้ยงดูจนกำลังจะส่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย จากนั้นจึงมารู้ว่าผู้ตายมีภรรยาอยู่แล้ว จึงนัดหมายมาพูดคุยกันที่บ้านพักที่ตะเคียนเตี้ย ตนจึงยืนยันให้ผู้ตายกลับไปหาภรรยา แต่ผู้ตายไม่ยอมและบอกว่าคอยไปงานศพพี่แล้วกัน เมื่อสิ้นคำพูด ผู้ตายได้เดินไปยังรถกระบะคันดังกล่าว ก่อนจะหยิบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 มม.ออกมายิงตัวเอง 1 นัดจนล้มแน่นิ่งลงไป จึงได้พยายามช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็มาเสียชีวิตดังกล่าว ต่อมานางจำปี ขันทะสีมา อายุ 41 ปี ภรรยาของผู้ตายได้เดินทางมาดูศพ ก่อนให้การว่า ได้มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน ขณะนี้อยู่ชั้น ม.3 ที่ผ่านมาไม่ทราบมาก่อนว่าผู้ตายแอบคบหากับสาวรุ่นจนมีเรื่องรุนแรงบานปลายเป็นชนวนให้ต้องจบชีวิต เพราะผู้ตายไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย ในวันนี้ขณะที่กำลังทำงานตามปกติ ก็มีโทรศัพท์มาแจ้งว่าสามีเสียชีวิตแล้ว
หนุ่มวิทยุสมัครเล่นประชดกิ๊ก หลังสาวรุ่นมารู้ว่าหนุ่มใหญ่รายนี้มีภรรยาและลูกอยู่แล้ว จึงพยายามเลิก หนุ่มใหญ่ตามง้อไม่สำเร็จ ชักทูตมรณะระเบิดสมองตัวเอง
16.30 น.วันที่ 26 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลแหลมฉบังอินเตอร์ ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกยิงเข้าศีรษะมาทำการรักษาก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบไทยมุงคอยดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ตรวจสอบบริเวณท้ายรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์-เงิน พบศพนายอนันท์ ขันทะสีมา อายุ 41 ปี สวมเสื้อโปโลนักวิทยุสมัครเล่นกลุ่มสหพัฒน์สัมพันธ์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 มม. เข้าที่ขมับขวากระสุนทะลุซ้าย คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 1 ชม.ใกล้กันพบ น.ส.กัญญารัตน์ หอมขจร อายุ 24 ปี อยู่ในอาการร้องไห้ฟูมฟายก่อนให้การว่า ได้คบหากับผู้ตายได้ประมาณ 4 เดือน ผู้ตายได้ส่งเสียเลี้ยงดูจนกำลังจะส่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย จากนั้นจึงมารู้ว่าผู้ตายมีภรรยาอยู่แล้ว จึงนัดหมายมาพูดคุยกันที่บ้านพักที่ตะเคียนเตี้ย ตนจึงยืนยันให้ผู้ตายกลับไปหาภรรยา แต่ผู้ตายไม่ยอมและบอกว่าคอยไปงานศพพี่แล้วกัน เมื่อสิ้นคำพูด ผู้ตายได้เดินไปยังรถกระบะคันดังกล่าว ก่อนจะหยิบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 มม.ออกมายิงตัวเอง 1 นัดจนล้มแน่นิ่งลงไป จึงได้พยายามช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็มาเสียชีวิตดังกล่าว ต่อมานางจำปี ขันทะสีมา อายุ 41 ปี ภรรยาของผู้ตายได้เดินทางมาดูศพ ก่อนให้การว่า ได้มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน ขณะนี้อยู่ชั้น ม.3 ที่ผ่านมาไม่ทราบมาก่อนว่าผู้ตายแอบคบหากับสาวรุ่นจนมีเรื่องรุนแรงบานปลายเป็นชนวนให้ต้องจบชีวิต เพราะผู้ตายไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย ในวันนี้ขณะที่กำลังทำงานตามปกติ ก็มีโทรศัพท์มาแจ้งว่าสามีเสียชีวิตแล้ว
กรมอุทยานสัตว์ป่าฯ บุกจับเจ้าของแคมป์ช้าง นาจอมเทียน ยึดช้างแท็กซี่คืนป่า
กรมอุทยานสัตว์ป่าฯ บุกจับเจ้าของแคมป์ช้าง นาจอมเทียน ยึดช้างแท็กซี่คืนป่า
กรมอุทยานสัตว์ป่าฯ บุกจับเจ้าของแคมป์ช้าง นาจอมเทียน ยึดช้างแท็กซี่คืนป่า
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 26 ส.ค. 56 นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ชุติเดช จันทร์ทรง ผกก.สภ.นาจอมเทียน นายชวนะ ทองเย็น ปศุสัตว์อำเภอสัตหีบ ได้บูรณการกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาที่ ค.557/2556 เข้าตรวจยึดช้าง จำนวน 1 เชือก จากบริษัทแคมป์ช้าง จำกัด เลขที่ 60/40 ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังพบนำตั๋วรูปพรรณช้างออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายมาสวมสิทธิ์
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า เปิดเผยว่า หลังสืบทราบแคมป์ช้างแห่งนี้ มีการลักลอกนำตั๋วรูปพรรณช้างชื่อ ช้างพัง พูลทรัพย์ อายุ 47 ปี จากนายสุรัตน์ เติมศักดิ์ ที่รับว่า ได้ดำเนินการออกตั๋วรูปพรรณช้างเชือกนี้ จากนายทะเบียน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และนำมาเป็นช้างแท็กซี่ นำพานักท่องเที่ยว เที่ยวชมชายหาด ซึ่งถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ประกอบมาตรา 83 ฐานร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ โดยมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นพยานหลักฐาน ที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น หรือประชาชน (ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) ซึ่งพนังงานสอบสวน บก.ปทส.ได้ออกหมายจับไว้แล้ว
จึงเชื่อว่า ช้างเชือกดังกล่าว เป็นช้างที่ได้มาโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ใช่ช้างที่เป็นสัตว์พาหนะตาม พ.ร.บ.สงวนสัตว์พาหนะ พ.ศ.2482 แต่เข้าลักษณะเป็นสัตว์ป่าตาม มาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และอยู่ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกเลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 127 การครอบครองช้างดังกล่าว จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษตามมาตรา 47 จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 55 ฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ โดยประการอื่น ซึ่งสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เบื้องต้น น.ส.ยุพา รัตนวงสวัสดิ์ อายุ 33 ปี ภรรยาเจ้าของแคมป์ช้าง ออกมาแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ ส่วนช้างเชือกนี้ ถือเป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ได้ส่งมอบให้อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับไปดูแลระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เก็บเลือดช้างไปทำการตรวจพิสูจน์ประกอบคดี อีกด้วย
กรมอุทยานสัตว์ป่าฯ บุกจับเจ้าของแคมป์ช้าง นาจอมเทียน ยึดช้างแท็กซี่คืนป่า
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 26 ส.ค. 56 นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ชุติเดช จันทร์ทรง ผกก.สภ.นาจอมเทียน นายชวนะ ทองเย็น ปศุสัตว์อำเภอสัตหีบ ได้บูรณการกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาที่ ค.557/2556 เข้าตรวจยึดช้าง จำนวน 1 เชือก จากบริษัทแคมป์ช้าง จำกัด เลขที่ 60/40 ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังพบนำตั๋วรูปพรรณช้างออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายมาสวมสิทธิ์
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า เปิดเผยว่า หลังสืบทราบแคมป์ช้างแห่งนี้ มีการลักลอกนำตั๋วรูปพรรณช้างชื่อ ช้างพัง พูลทรัพย์ อายุ 47 ปี จากนายสุรัตน์ เติมศักดิ์ ที่รับว่า ได้ดำเนินการออกตั๋วรูปพรรณช้างเชือกนี้ จากนายทะเบียน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และนำมาเป็นช้างแท็กซี่ นำพานักท่องเที่ยว เที่ยวชมชายหาด ซึ่งถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ประกอบมาตรา 83 ฐานร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ โดยมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นพยานหลักฐาน ที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น หรือประชาชน (ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) ซึ่งพนังงานสอบสวน บก.ปทส.ได้ออกหมายจับไว้แล้ว
จึงเชื่อว่า ช้างเชือกดังกล่าว เป็นช้างที่ได้มาโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ใช่ช้างที่เป็นสัตว์พาหนะตาม พ.ร.บ.สงวนสัตว์พาหนะ พ.ศ.2482 แต่เข้าลักษณะเป็นสัตว์ป่าตาม มาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และอยู่ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกเลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 127 การครอบครองช้างดังกล่าว จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษตามมาตรา 47 จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 55 ฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ โดยประการอื่น ซึ่งสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เบื้องต้น น.ส.ยุพา รัตนวงสวัสดิ์ อายุ 33 ปี ภรรยาเจ้าของแคมป์ช้าง ออกมาแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ ส่วนช้างเชือกนี้ ถือเป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ได้ส่งมอบให้อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับไปดูแลระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เก็บเลือดช้างไปทำการตรวจพิสูจน์ประกอบคดี อีกด้วย
สาวประเภทสองมอมยาแขกปากีสถาน
สาวประเภทสองมอมยาแขกปากีสถาน
ตร.บางละมุงส่งชุดสืบสวนเร่งตามลากคอ 2 สาวประเภทสองแสบ ก่อเหตุมอมยาแขกปากีสถานแล้วเชิดรถเก๋งหลบหนี
07.30 น. วันที่ 27 ส.ค. พ.ต.ท.จิวัฒน์พงศ์ เรืองดี พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งมีชาวต่างชาติถูกมอมยารูดทรัพย์ เหตุเกิดที่ห้องเบอร์ 314 โรงแรม LOVE 24 INN ตั้งอยู่บริเวณซอยเนินพลับหวานตัดซอยพรประภานิมิตร หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก.สภ.บางละมุง นำกำลังตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบนายอั้บดาน สต๊าค อายุ 29 ปี กับนายอิสฮาร์ด อันอูปา อายุ 39 ปี 2 นักท่องเที่ยวชาวปากีสถาน รอตำรวจอยู่ในสภาพมีอาการเบลอ สลึมสลือ ไม่มีเรี่ยวแรง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำตัวทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ช่วยรักษาและตรวจอาการอย่างละเอียด สอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 01.30 น. ทั้งคู่ได้ไปพบกับสาวประเภทสองชาวไทย 2 คน เดินมาตีสนิทติดต่อขายบริการทางเพศ บริเวณหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ หลังตกลงราคากันได้ นายอั้บดาน จึงขับรถเก๋ง เชฟโรเล็ต พาทั้งหมดมาเปิดห้องพักที่โรงแรม หลังเสร็จกิจ 2 หนุ่มชาวปากีน่าจะหมดแรง หรือไม่ก็ถูกมอมยาจึงพากันสลบไม่ได้สติ พอตื่นขึ้นมาปรากฏว่ารถเก๋งของตัวเองได้หายไปพร้อมกับ 2 สาวประเภทสองจากการสอบถามพนักงานของโรงแรมทราบว่า 2 สาวประเภทสองได้ขับรถเก๋งออกไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.เบื้องต้นตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม แต่ไม่สามารถจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ เนื่องจากกล้องวงจรปิดเสีย อย่างไรก็ตามจะได้ส่งชุดสืบสวนออกหาข่าว และเช็คกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงและตามรายทางที่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้หลบหนี เพื่อลากคอ 2 สาวประเภทสองแสบคู่นี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตร.บางละมุงส่งชุดสืบสวนเร่งตามลากคอ 2 สาวประเภทสองแสบ ก่อเหตุมอมยาแขกปากีสถานแล้วเชิดรถเก๋งหลบหนี
07.30 น. วันที่ 27 ส.ค. พ.ต.ท.จิวัฒน์พงศ์ เรืองดี พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งมีชาวต่างชาติถูกมอมยารูดทรัพย์ เหตุเกิดที่ห้องเบอร์ 314 โรงแรม LOVE 24 INN ตั้งอยู่บริเวณซอยเนินพลับหวานตัดซอยพรประภานิมิตร หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก.สภ.บางละมุง นำกำลังตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบนายอั้บดาน สต๊าค อายุ 29 ปี กับนายอิสฮาร์ด อันอูปา อายุ 39 ปี 2 นักท่องเที่ยวชาวปากีสถาน รอตำรวจอยู่ในสภาพมีอาการเบลอ สลึมสลือ ไม่มีเรี่ยวแรง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำตัวทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ช่วยรักษาและตรวจอาการอย่างละเอียด สอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 01.30 น. ทั้งคู่ได้ไปพบกับสาวประเภทสองชาวไทย 2 คน เดินมาตีสนิทติดต่อขายบริการทางเพศ บริเวณหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ หลังตกลงราคากันได้ นายอั้บดาน จึงขับรถเก๋ง เชฟโรเล็ต พาทั้งหมดมาเปิดห้องพักที่โรงแรม หลังเสร็จกิจ 2 หนุ่มชาวปากีน่าจะหมดแรง หรือไม่ก็ถูกมอมยาจึงพากันสลบไม่ได้สติ พอตื่นขึ้นมาปรากฏว่ารถเก๋งของตัวเองได้หายไปพร้อมกับ 2 สาวประเภทสองจากการสอบถามพนักงานของโรงแรมทราบว่า 2 สาวประเภทสองได้ขับรถเก๋งออกไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.เบื้องต้นตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม แต่ไม่สามารถจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ เนื่องจากกล้องวงจรปิดเสีย อย่างไรก็ตามจะได้ส่งชุดสืบสวนออกหาข่าว และเช็คกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงและตามรายทางที่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้หลบหนี เพื่อลากคอ 2 สาวประเภทสองแสบคู่นี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หนุ่มวัย 18 ซิ่งเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำ
หนุ่มวัย 18 ปีซิ่งเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำตกข้างทาง คาดสาเหตุน่าจะหลับใน
08.00 น. วันที่ 27 ส.ค. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปในร่องริมถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่คาซาก เหตุเกิดบนถนนสาย 7 ตอน 5 ขาเข้าพัทยา หลังรับแจ้งจึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่นำรถอุปกรณ์เครื่องมือตัดถ่าง และรถพยาบาลเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับวิทยุแจ้งให้ตำรวจ สภ.บางละมุง ให้รับทราบ ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ฮฮนด้า แจ๊ส สีเทาดำ จอดอยู่บริเวณร่องริมถนน ซึ่งมีป่าหญ้าขึ้นปกคลุมในสภาพพังเสียหายยับเยิน ตัวเครื่องยนต์หลุดกระเด็นห่างจากรถประมาณ 5 เมตร ภายในที่นั่งคนขับพบร่างผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อคือนายปกรณ์ จันทร์เรือง อายุ 18 ปี ถูกอัดก็อปปี้ติดอยู่กับเบาะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาได้ ตรวจสอบพบว่ามีอาการทางกระดูกที่ต้นคอ, แขน และขา เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำเครื่องตัดถ่างมาทำการตัดซากรถ ก่อนนำตัวคนเจ็บออกมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้นจึงนำส่ง รพ.บางละมุง
08.00 น. วันที่ 27 ส.ค. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปในร่องริมถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่คาซาก เหตุเกิดบนถนนสาย 7 ตอน 5 ขาเข้าพัทยา หลังรับแจ้งจึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่นำรถอุปกรณ์เครื่องมือตัดถ่าง และรถพยาบาลเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับวิทยุแจ้งให้ตำรวจ สภ.บางละมุง ให้รับทราบ ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ฮฮนด้า แจ๊ส สีเทาดำ จอดอยู่บริเวณร่องริมถนน ซึ่งมีป่าหญ้าขึ้นปกคลุมในสภาพพังเสียหายยับเยิน ตัวเครื่องยนต์หลุดกระเด็นห่างจากรถประมาณ 5 เมตร ภายในที่นั่งคนขับพบร่างผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อคือนายปกรณ์ จันทร์เรือง อายุ 18 ปี ถูกอัดก็อปปี้ติดอยู่กับเบาะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาได้ ตรวจสอบพบว่ามีอาการทางกระดูกที่ต้นคอ, แขน และขา เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำเครื่องตัดถ่างมาทำการตัดซากรถ ก่อนนำตัวคนเจ็บออกมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้นจึงนำส่ง รพ.บางละมุง
กู้ภัยช่วยเหลือลูกแมวติดซอกกำแพง
กู้ภัยช่วยเหลือลูกแมวติดซอกกำแพง
แม่แมวถูกงูเหลือมเขมือบไป เหลือแต่ลูกแมวตัวเล็กๆ 2 ตัว ถูกทอดทิ้งอยู่ในซอกกำแพง เจ้าหน้าที่กู้ภัยรุดช่วยเหลือออกมาได้เป็นผลสำเร็จ
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ได้รับแจ้งจากนางศิริลักษณ์ ถาทุ่มมา อายุ 49 ปี ว่ามีลูกแมว 2 ตัว ส่งเสียงร้องติดอยู่ในซอกกำแพงหลังบ้านไม่สามารถออกมาได้ จึงให้หน่วยกู้ภัยมาทำการช่วยเหลือลูกแมว หลังรับแจ้งได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมด้วยอุปกรณ์ในการช่วยเหลือเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น และลูกแมวติดอยู่ในซอกกำแพงระหว่างบ้าน โดยมีความลึกถึง 3 เมตร ต้องปีนหลังคาขึ้นไปช่วยเหลืออย่างอยากลำบาก ซึ่งพบลูกแมว 2 ตัว อายุไม่เกิน 2 อาทิตย์ เพศเมียทั้งคู่ นอนคู่กันอยู่ในซอกกำแพง จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้วางแผนและช่วยเหลือ จากการสอบถามนางศิริลักษณ์เล่าว่า ไม่กี่วันมานี้ตนได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาจับงูเหลือมที่เลื้อยมากินแมวอยู่ภายในซอกตึก ให้เจ้าหน้าที่จับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ และไม่ทราบว่าจะมีลูกแมวดังกล่าวติดอยู่ในซอกกำแพง ผ่านมาเพียงไม่กี่วันตนได้ยินเสียงร้องของลูกแมวอยู่บริเวณกำแพงหลังบ้าน จึงให้ลูกชายปีนขึ้นไปดู ก็พบลูกแมว 2 ตัว ติดอยู่ในซอกกำแพง
แม่แมวถูกงูเหลือมเขมือบไป เหลือแต่ลูกแมวตัวเล็กๆ 2 ตัว ถูกทอดทิ้งอยู่ในซอกกำแพง เจ้าหน้าที่กู้ภัยรุดช่วยเหลือออกมาได้เป็นผลสำเร็จ
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ได้รับแจ้งจากนางศิริลักษณ์ ถาทุ่มมา อายุ 49 ปี ว่ามีลูกแมว 2 ตัว ส่งเสียงร้องติดอยู่ในซอกกำแพงหลังบ้านไม่สามารถออกมาได้ จึงให้หน่วยกู้ภัยมาทำการช่วยเหลือลูกแมว หลังรับแจ้งได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมด้วยอุปกรณ์ในการช่วยเหลือเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น และลูกแมวติดอยู่ในซอกกำแพงระหว่างบ้าน โดยมีความลึกถึง 3 เมตร ต้องปีนหลังคาขึ้นไปช่วยเหลืออย่างอยากลำบาก ซึ่งพบลูกแมว 2 ตัว อายุไม่เกิน 2 อาทิตย์ เพศเมียทั้งคู่ นอนคู่กันอยู่ในซอกกำแพง จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้วางแผนและช่วยเหลือ จากการสอบถามนางศิริลักษณ์เล่าว่า ไม่กี่วันมานี้ตนได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาจับงูเหลือมที่เลื้อยมากินแมวอยู่ภายในซอกตึก ให้เจ้าหน้าที่จับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ และไม่ทราบว่าจะมีลูกแมวดังกล่าวติดอยู่ในซอกกำแพง ผ่านมาเพียงไม่กี่วันตนได้ยินเสียงร้องของลูกแมวอยู่บริเวณกำแพงหลังบ้าน จึงให้ลูกชายปีนขึ้นไปดู ก็พบลูกแมว 2 ตัว ติดอยู่ในซอกกำแพง
Cat-astrophe Averted By Sriracha Fire Brigade
The Sriracha fire brigade was called upon to assist a local resident Ms. Siriluck who had called in to say that she had two kittens trapped inside a wall of her house
The rescue workers who were enjoying a brief cat nap at the fire station were woken up and a well rehearsed rescue operation then purred smoothly into action and a rescue unit was soon en-route and at the scene of the feline emergency armed with all the equipment that could deal with any type of cat-astrophe
The location was a two storey townhouse. The kittens had climbed about 3 meters through a gap in the wall to the roof and now seemed to be taking their own cat nap
The rescuers were able to get to the sleeping kittens and return them safely to Mrs. Siriluck who thanked them for the second time.
Yes this was the second time this week that she had called them out. The first time was to capture a snake that appeared to have eaten a cat in the house. The snake was captured and released back into nature but it wasn't realized at the time that the cat had some kittens that were smart enough to get well out of the way of the snake but had not been told that now the coast was clear and it was safe to come out
Certainly a Purr-fect end to this incident
The rescue workers who were enjoying a brief cat nap at the fire station were woken up and a well rehearsed rescue operation then purred smoothly into action and a rescue unit was soon en-route and at the scene of the feline emergency armed with all the equipment that could deal with any type of cat-astrophe
The location was a two storey townhouse. The kittens had climbed about 3 meters through a gap in the wall to the roof and now seemed to be taking their own cat nap
The rescuers were able to get to the sleeping kittens and return them safely to Mrs. Siriluck who thanked them for the second time.
Yes this was the second time this week that she had called them out. The first time was to capture a snake that appeared to have eaten a cat in the house. The snake was captured and released back into nature but it wasn't realized at the time that the cat had some kittens that were smart enough to get well out of the way of the snake but had not been told that now the coast was clear and it was safe to come out
Certainly a Purr-fect end to this incident
สาวธนาคารแจ้งความหลังให้เงินเกินกว่า 5,000 บาทกับสาวพนักงาน WASAN ไป
สาวธนาคารแจ้งความหลังให้เงินเกินกว่า 5,000 บาทกับสาวพนักงาน WASAN ไป
สาวธนาคารแจ้งความหลังให้เงินเกินกว่า 5,000 บาทกับสาวพนักงาน WASAN ไปตามทวงกับถูกปฏิเสธหน้าตาเฉย
27 ส.ค. 56 น.ส.อรทัย ไกลถิ่น อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 ม.9 ต.ฝายกวาง อ.ฝายกวาง จ.พะเยา พนักงานประจำบูชแลกเงิน ธ.กสิกรไทย สาขาพัทยาใต้ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.พิทักษ์ เนินแสง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าตนเองได้ทำการใช้แลกเงินกับลูกค้าแล้วได้ให้เงินเกินไปกว่า 5,000 บาท ภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ของ ธนาคารได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่าให้เงินผิดกับใครไป พบว่าเป็นหญิงสาวและเป็นพนักงานร้าน WASAN อยู่ภายในตึดคอมพัทยาใต้ หลังตนได้ไปเจรจาขอเงินจำนวนดังกล่าวคืน แต่กับถูกปฏิเสธว่าไม่ได้รับเงินที่เกินมาแต่อย่างใด จึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.อรทัย ไกลถิ่น พนักงานประจำบูชแลกเงิน ธ.กสิกรไทย เล่าให้ฟังว่า น.ส.นิรมล เกลียงมลทิล ซึ่งเป็นพนักงานของร้าน WASAN ภายในตึกคอม ได้นำธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 11 ใบ มาขอแลกเป็นธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 100 ใบ และเหรียญ จำนวน 1,000 บาท แต่ตนนั้นได้ให้ธนบัตรใบละ 50 บาทเกินไปจำนวน 100 ใบ เป็นจำนวน 5,000 บาท ซึ่งตอนแรกตนเองนั้นก็ยังไม่ใจว่าให้เงินใครเกินไป จนมาตรวจสอบที่กล้องวงจรปิดแล้วพบว่าได้ให้ไปกับ น.ส.นิรมล เกลียงมลทิล ซึ่งเป็นพนักงานของร้าน WASAN ภายในตึกคอม
จึงได้ไปติดตามพบและทำการเจรจาขอเงินที่เกินไปคืนกับทางธนาคาร แต่ถูก น.ส.นิรมล นั้นปฏิเสธว่าเงินที่ไปแลกนั้นได้มาครบถ้วนและไม่ได้ให้เกินมาแต่อย่างใด ซึ่งตนเองนั้นก็ได้แจ้งว่าภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นสามารถจับได้ว่าเป็น น.ส.นิรมล ขณะที่ไปแลกเงินแล้วตนเองให้เงินเกินไป โดย น.ส.นิรมล ยังถ้าให้ตนมาแจ้งความอีก ตนจึงได้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำเงินคืนกับทางธนาคาร ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งจะได้ทำการเชิญตัว น.ส.นิรมล เกลียงมลทิล ซึ่งเป็นพนักงานของร้าน WASAN ภายในตึกคอม มาทำการสอบสวนเพิ่มเติม และรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งจะได้ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
สาวธนาคารแจ้งความหลังให้เงินเกินกว่า 5,000 บาทกับสาวพนักงาน WASAN ไปตามทวงกับถูกปฏิเสธหน้าตาเฉย
27 ส.ค. 56 น.ส.อรทัย ไกลถิ่น อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 ม.9 ต.ฝายกวาง อ.ฝายกวาง จ.พะเยา พนักงานประจำบูชแลกเงิน ธ.กสิกรไทย สาขาพัทยาใต้ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.พิทักษ์ เนินแสง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าตนเองได้ทำการใช้แลกเงินกับลูกค้าแล้วได้ให้เงินเกินไปกว่า 5,000 บาท ภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ของ ธนาคารได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่าให้เงินผิดกับใครไป พบว่าเป็นหญิงสาวและเป็นพนักงานร้าน WASAN อยู่ภายในตึดคอมพัทยาใต้ หลังตนได้ไปเจรจาขอเงินจำนวนดังกล่าวคืน แต่กับถูกปฏิเสธว่าไม่ได้รับเงินที่เกินมาแต่อย่างใด จึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.อรทัย ไกลถิ่น พนักงานประจำบูชแลกเงิน ธ.กสิกรไทย เล่าให้ฟังว่า น.ส.นิรมล เกลียงมลทิล ซึ่งเป็นพนักงานของร้าน WASAN ภายในตึกคอม ได้นำธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 11 ใบ มาขอแลกเป็นธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 100 ใบ และเหรียญ จำนวน 1,000 บาท แต่ตนนั้นได้ให้ธนบัตรใบละ 50 บาทเกินไปจำนวน 100 ใบ เป็นจำนวน 5,000 บาท ซึ่งตอนแรกตนเองนั้นก็ยังไม่ใจว่าให้เงินใครเกินไป จนมาตรวจสอบที่กล้องวงจรปิดแล้วพบว่าได้ให้ไปกับ น.ส.นิรมล เกลียงมลทิล ซึ่งเป็นพนักงานของร้าน WASAN ภายในตึกคอม
จึงได้ไปติดตามพบและทำการเจรจาขอเงินที่เกินไปคืนกับทางธนาคาร แต่ถูก น.ส.นิรมล นั้นปฏิเสธว่าเงินที่ไปแลกนั้นได้มาครบถ้วนและไม่ได้ให้เกินมาแต่อย่างใด ซึ่งตนเองนั้นก็ได้แจ้งว่าภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นสามารถจับได้ว่าเป็น น.ส.นิรมล ขณะที่ไปแลกเงินแล้วตนเองให้เงินเกินไป โดย น.ส.นิรมล ยังถ้าให้ตนมาแจ้งความอีก ตนจึงได้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำเงินคืนกับทางธนาคาร ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งจะได้ทำการเชิญตัว น.ส.นิรมล เกลียงมลทิล ซึ่งเป็นพนักงานของร้าน WASAN ภายในตึกคอม มาทำการสอบสวนเพิ่มเติม และรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งจะได้ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ไตเติลข่าว โครงการหมอถึงบ้าน โรงพยาบาลเมืองพัทยา
ไตเติลข่าว โครงการหมอถึงบ้าน โรงพยาบาลเมืองพัทยา
กิจกรรมโครงการหมอถึงบ้าน โรงพยาบาลเมืองพัทยา ครั้งที่ 11 อบรมให้ความรู้แก่ประชาชนในหัวข้อ แข็งแรงสมวัย ห่างไกลโรค
ที่วัดธรรมสามัคคี ได้จัดกิจกรรมโครงการหมอถึงบ้าน โรงพยาบาลเมืองพัทยา ครั้งที่ 11 นำโดย นพ.มัยธัช สามเสน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองพัทยา พร้อมด้วยคณะแพทย์ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเมืองพัทยา โดยมีประชาชนในเขตชุมชนวัดธรรมสามัคคีเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง ในช่วงเช้าเป็นการอบรมให้ความรู้แก่ประชาชนในหัวข้อ แข็งแรงสมวัย ห่างไกลโรค โดยมี พญ.วิภาวดี ลิ้มภักดี แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู มาให้ความรู้ในเรื่องการป้องกันการพลัดตกหกล้ม เพื่อเป็นการป้องกันสำหรับผู้สูงอายุในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย ด้าน คุณสุภารัตน์ วันเกลี้ยง นักกายภาพบำบัด มาสาธิตการออกกำลังกายเพื่อป้องกันการพลัดตกหกล้ม โดยได้รับความร่วมมือจากผู้สูงอายุและประชาชนในเขตชุมชนวัดธรรมสามัคคีเป็นอย่างดี ภายในกิจกรรมยังได้มีการแจกกล่องอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับผู้เข้าร่วมในกิจกรรมด้วย โดยในช่วงบ่ายจะได้มีการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วยในชุมชนวัดธรรมสามัคคี เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลได้ และยังเป็นการให้ความรู้เบื้องต้นแก่คนในครอบครัวที่มีผู้ป่วย เพื่อที่จะสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
กิจกรรมโครงการหมอถึงบ้าน โรงพยาบาลเมืองพัทยา ครั้งที่ 11 อบรมให้ความรู้แก่ประชาชนในหัวข้อ แข็งแรงสมวัย ห่างไกลโรค
ที่วัดธรรมสามัคคี ได้จัดกิจกรรมโครงการหมอถึงบ้าน โรงพยาบาลเมืองพัทยา ครั้งที่ 11 นำโดย นพ.มัยธัช สามเสน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองพัทยา พร้อมด้วยคณะแพทย์ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเมืองพัทยา โดยมีประชาชนในเขตชุมชนวัดธรรมสามัคคีเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง ในช่วงเช้าเป็นการอบรมให้ความรู้แก่ประชาชนในหัวข้อ แข็งแรงสมวัย ห่างไกลโรค โดยมี พญ.วิภาวดี ลิ้มภักดี แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู มาให้ความรู้ในเรื่องการป้องกันการพลัดตกหกล้ม เพื่อเป็นการป้องกันสำหรับผู้สูงอายุในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย ด้าน คุณสุภารัตน์ วันเกลี้ยง นักกายภาพบำบัด มาสาธิตการออกกำลังกายเพื่อป้องกันการพลัดตกหกล้ม โดยได้รับความร่วมมือจากผู้สูงอายุและประชาชนในเขตชุมชนวัดธรรมสามัคคีเป็นอย่างดี ภายในกิจกรรมยังได้มีการแจกกล่องอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับผู้เข้าร่วมในกิจกรรมด้วย โดยในช่วงบ่ายจะได้มีการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วยในชุมชนวัดธรรมสามัคคี เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลได้ และยังเป็นการให้ความรู้เบื้องต้นแก่คนในครอบครัวที่มีผู้ป่วย เพื่อที่จะสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
รพ.พัทยาเมโมเรียลจัดอบรมการป้องกันระงับอัคคีภัย
โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล จัดโครงการอบรมการป้องกันระงับอัคคีภัย และการซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ตระหนักถึงการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา อีกทั้งเป็นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรโรงพยาบาลในการระงับเหตุอัคคีภัย
ที่ห้องประชุม อาคาร 2 โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล นายแพทย์ ฉมดล (ฉะมะดล) รัตนสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการอบรมการป้องกันระงับอัคคีภัย และการซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ประจำปี 2556 โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียลเข้ารับการอบรม ทางโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียลได้ตระหนักถึงการรักษาความปลอดภัยในสถานพยาบาล ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญที่สุดโดยเฉพาะความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา แนวทางการอบรมพัฒนาทักษะเพื่อให้ทุกคนดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุและอุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในโรงพยาบาลอย่างฉับพลัน ซึ่งไม่ได้คาดคิดมาก่อน อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือการกระทำของมนุษย์ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งทางร่างกายและทรัพย์สินได้กับทุกคน ทุกเวลาและทุกสถานที่ หากไม่มีความรู้และการป้องกันที่ดีพอ โดยเฉพาะการเกิดอัคคีภัยที่ทำให้เกิดการติดต่อลุกลาม สร้างความสูญเสียให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ทางคณะผู้บริหารโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียลจึงได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการป้องกันและระงับอัคคีภัยเบื้องต้นให้กับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรภายในโรงพยาบาล โดยได้รับความร่วมมือจากนายสุรพล สวัสดิ์วิเชียร หัวหน้าฝ่ายป้องกันภัยพิบัติทางบกเมืองพัทยา พร้อมคณะวิทยากร เข้าอบรมให้ความรู้การใช้เครื่องดับเพลิงขั้นต้น และการอพยพเมื่อเกิดเพลิงไหม้ ทั้งนี้ยังเป็นสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่เขตเมืองพัทยา และเกิดความเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยในการป้องกันเหตุอัคคีภัยของโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล
ที่ห้องประชุม อาคาร 2 โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล นายแพทย์ ฉมดล (ฉะมะดล) รัตนสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการอบรมการป้องกันระงับอัคคีภัย และการซ้อมแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ประจำปี 2556 โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียลเข้ารับการอบรม ทางโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียลได้ตระหนักถึงการรักษาความปลอดภัยในสถานพยาบาล ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญที่สุดโดยเฉพาะความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา แนวทางการอบรมพัฒนาทักษะเพื่อให้ทุกคนดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุและอุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในโรงพยาบาลอย่างฉับพลัน ซึ่งไม่ได้คาดคิดมาก่อน อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือการกระทำของมนุษย์ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งทางร่างกายและทรัพย์สินได้กับทุกคน ทุกเวลาและทุกสถานที่ หากไม่มีความรู้และการป้องกันที่ดีพอ โดยเฉพาะการเกิดอัคคีภัยที่ทำให้เกิดการติดต่อลุกลาม สร้างความสูญเสียให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ทางคณะผู้บริหารโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียลจึงได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการป้องกันและระงับอัคคีภัยเบื้องต้นให้กับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรภายในโรงพยาบาล โดยได้รับความร่วมมือจากนายสุรพล สวัสดิ์วิเชียร หัวหน้าฝ่ายป้องกันภัยพิบัติทางบกเมืองพัทยา พร้อมคณะวิทยากร เข้าอบรมให้ความรู้การใช้เครื่องดับเพลิงขั้นต้น และการอพยพเมื่อเกิดเพลิงไหม้ ทั้งนี้ยังเป็นสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่เขตเมืองพัทยา และเกิดความเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยในการป้องกันเหตุอัคคีภัยของโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล
Tuesday, August 27, 2013
ข่าวพัทยา กิจกรรม EFM on Tour
กิจกรรม EFM on Tour
EFM on Tour นำทัพโดยดีเจชื่อดังจากคลื่น 94 อีเอฟเอ็ม มาพร้อมกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินสุดฮอต และกิจกรรมสุดมันส์ตามสไตล์ 94 อีเอเฟเอ็ม
ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช 94 อีเอฟเอ็ม คลื่นบันเทิงอันดับ 1 ยกขบวนสร้างความสนุกกับกิจกรรม EFM on Tour นำทัพโดยดีเจจากคลื่น 94 อีเอฟเอ็ม พร้อมพบกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน และกิจกรรมตามสไตล์ 94 อีเอเฟเอ็ม สำหรับกิจกรรม EFM on Tour ประจำเดือนสิงหาคมนี้ นำทัพโดยดีเจ เชาเชา ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม, ดีเจ.โป้ง ณัฐพงษ์ สมรรคเสวี, ดีเจ.โบ ธนากร ชินกูล, พร้อมด้วยเหล่าศิลปินที่มาระเบิดความสนุก อาทิ อ๊อฟ ปองศักดิ์, สิงโต นำโชค, เบล สุพล, วัชราวลี พลัส, บู แมนชั่น และ ตั้ม, อ้น, ดิว, ดี, เชอรีน เดอะสตาร์ 9 ซึ่งมีบรรดาแฟนคลับของศิลปินต่างๆ เข้าร่วมเชียร์และรับชมกันอย่างเต็มลานคอนเสิร์ต
EFM on Tour นำทัพโดยดีเจชื่อดังจากคลื่น 94 อีเอฟเอ็ม มาพร้อมกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินสุดฮอต และกิจกรรมสุดมันส์ตามสไตล์ 94 อีเอเฟเอ็ม
ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช 94 อีเอฟเอ็ม คลื่นบันเทิงอันดับ 1 ยกขบวนสร้างความสนุกกับกิจกรรม EFM on Tour นำทัพโดยดีเจจากคลื่น 94 อีเอฟเอ็ม พร้อมพบกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน และกิจกรรมตามสไตล์ 94 อีเอเฟเอ็ม สำหรับกิจกรรม EFM on Tour ประจำเดือนสิงหาคมนี้ นำทัพโดยดีเจ เชาเชา ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม, ดีเจ.โป้ง ณัฐพงษ์ สมรรคเสวี, ดีเจ.โบ ธนากร ชินกูล, พร้อมด้วยเหล่าศิลปินที่มาระเบิดความสนุก อาทิ อ๊อฟ ปองศักดิ์, สิงโต นำโชค, เบล สุพล, วัชราวลี พลัส, บู แมนชั่น และ ตั้ม, อ้น, ดิว, ดี, เชอรีน เดอะสตาร์ 9 ซึ่งมีบรรดาแฟนคลับของศิลปินต่างๆ เข้าร่วมเชียร์และรับชมกันอย่างเต็มลานคอนเสิร์ต
ข่าวชลบุรี เขาเขียวเปิดตัวสมาชิกใหม่ รัฟฟ์ด ลีเมอร์
เขาเขียวเปิดตัวสมาชิกใหม่ รัฟฟ์ด ลีเมอร์
เปิดตัวสมาชิกใหม่ รัฟฟ์ด ลีเมอร์ ลีเมอร์ ขาว – ดำ มหัศจรรย์จากมาดากัสการ์ มาให้ได้ชมความน่ารักกันแล้วที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
นายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ได้เปิดตัวสมาชิกใหม่ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดเดิมมาจากป่าฝนทางทิศตะวันออกของมาดากัสการ์ มีชื่อเรียกว่า รัฟฟ์ด ลีเมอร์ ซึ่งมีลักษณะที่โดดเด่นที่สีสันบนลำตัวเป็นสีขาวสลับดำทั้งตัว ด้วยน้ำหนักต่อตัว ประมาณ 3.3 – 3.8 กิโลกรัม จึงเป็นลีเมอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มสัตว์ตระกูลลีเมอร์ สวนสัตว์เปิดเขาเขียวนำมาให้ชม 4 ตัว นักท่องเที่ยวสามารถชมความน่ารักของ รัฟฟ์ ลีเมอร์ ณ ส่วนแสดงมหัศจรรย์สัตว์โลก สวนสัตว์เปิดเขาเขียว รัฟฟ์ด ลีเมอร์ เป็นสัตว์สังคม อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม 2-5 ตัว บางครั้งพบถึง 8-16 ตัว ในแต่ละครอบครัวจะมีลูกที่อายุน้อย 3-6 ตัว ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่เพศเมียจะมีขนาดใหญ่และมีอำนาจเหนือกว่าเพศผู้ ในช่วงที่ยังมีขนาดตัวเล็กๆ อยู่จะมีจมูกเหมือนแมว ส่วนที่เป็นจมูกและปากยื่นออกไปคล้ายสุนัขจิ้งจอก เมื่อลีเมอร์เปล่งเสียงออกไปจะสามารถได้ยินผ่านแนวป่าไปได้ไกลกว่า 1 กิโลเมตร กรณีที่พบว่ามีภัยอันตรายมาใกล้หรือมีศัตรูผู้ล่าปรากฏตัวขึ้น สามารถส่งเสียงร้องเตือนภัยได้มากกว่า 12 รูปแบบเสียง บางครั้งสมาชิกในกลุ่มจะเปล่งเสียงร้องเตือนภัยตามๆ กัน อาหารของ รัฟฟ์ ลีเมอร์ เป็นผลไม้ ใบไม้ น้ำหวานจากเกสรของพืช ดอกไม้และเมล็ด เพราะว่า รัฟฟ์ ลีเมอร์ เป็นสัตว์กินพืช
เปิดตัวสมาชิกใหม่ รัฟฟ์ด ลีเมอร์ ลีเมอร์ ขาว – ดำ มหัศจรรย์จากมาดากัสการ์ มาให้ได้ชมความน่ารักกันแล้วที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
นายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ได้เปิดตัวสมาชิกใหม่ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดเดิมมาจากป่าฝนทางทิศตะวันออกของมาดากัสการ์ มีชื่อเรียกว่า รัฟฟ์ด ลีเมอร์ ซึ่งมีลักษณะที่โดดเด่นที่สีสันบนลำตัวเป็นสีขาวสลับดำทั้งตัว ด้วยน้ำหนักต่อตัว ประมาณ 3.3 – 3.8 กิโลกรัม จึงเป็นลีเมอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มสัตว์ตระกูลลีเมอร์ สวนสัตว์เปิดเขาเขียวนำมาให้ชม 4 ตัว นักท่องเที่ยวสามารถชมความน่ารักของ รัฟฟ์ ลีเมอร์ ณ ส่วนแสดงมหัศจรรย์สัตว์โลก สวนสัตว์เปิดเขาเขียว รัฟฟ์ด ลีเมอร์ เป็นสัตว์สังคม อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม 2-5 ตัว บางครั้งพบถึง 8-16 ตัว ในแต่ละครอบครัวจะมีลูกที่อายุน้อย 3-6 ตัว ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่เพศเมียจะมีขนาดใหญ่และมีอำนาจเหนือกว่าเพศผู้ ในช่วงที่ยังมีขนาดตัวเล็กๆ อยู่จะมีจมูกเหมือนแมว ส่วนที่เป็นจมูกและปากยื่นออกไปคล้ายสุนัขจิ้งจอก เมื่อลีเมอร์เปล่งเสียงออกไปจะสามารถได้ยินผ่านแนวป่าไปได้ไกลกว่า 1 กิโลเมตร กรณีที่พบว่ามีภัยอันตรายมาใกล้หรือมีศัตรูผู้ล่าปรากฏตัวขึ้น สามารถส่งเสียงร้องเตือนภัยได้มากกว่า 12 รูปแบบเสียง บางครั้งสมาชิกในกลุ่มจะเปล่งเสียงร้องเตือนภัยตามๆ กัน อาหารของ รัฟฟ์ ลีเมอร์ เป็นผลไม้ ใบไม้ น้ำหวานจากเกสรของพืช ดอกไม้และเมล็ด เพราะว่า รัฟฟ์ ลีเมอร์ เป็นสัตว์กินพืช
ข่าวพัทยา การประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
การประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศหนึ่งที่ประสบความสำเร็จด้านงานสาธารณสุขตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ
เย็นวันที่ 25 ส.ค. ที่ศูนย์ประชุมพีช รร.รอยัลคลิฟบีชรีสอร์ทพัทยา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ครั้งที่ 21 ซึ่งประเทศไทย โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้รับคัดเลือกจากสมาพันธ์นานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพและการศึกษาให้เป็นเจ้าภาพการประชุม ภายใต้หัวข้อเรื่อง การลงทุนที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 29 ส.ค. มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คน จาก 80 กว่าประเทศทั่วโลก รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านสาธารณสุข และการสร้างเสริมสุขภาพ เพราะถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะสร้างความมั่นคงของการพัฒนาประเทศ ซึ่งการลงทุนในระบบสาธารณสุขได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการปฏิรูประบบสาธารณสุขในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งที่ประสบความสำเร็จด้านงานสาธารณสุขตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ที่ได้ริเริ่มปฏิรูปและพัฒนาระบบสาธารณสุขมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาระบบสาธารณสุขไทย การก่อตั้ง สสส. ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งในกลไกสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพที่มีความสำคัญของไทย มีการประเมินการทำงานจากผู้เชี่ยวชาญระดับสากลว่า สามารถขับเคลื่อนงานได้บรรลุเป้าหมาย เป็นองค์กรนวัตกรรมด้านส่งเสริมสุขภาพที่ทำงานกับทุกภาคส่วนในสังคมรากหญ้าถึงระดับชาติ ให้มีส่วนร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพ นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างครอบคลุม 99% ของประชากรไทย
ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศหนึ่งที่ประสบความสำเร็จด้านงานสาธารณสุขตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ
เย็นวันที่ 25 ส.ค. ที่ศูนย์ประชุมพีช รร.รอยัลคลิฟบีชรีสอร์ทพัทยา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ครั้งที่ 21 ซึ่งประเทศไทย โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้รับคัดเลือกจากสมาพันธ์นานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพและการศึกษาให้เป็นเจ้าภาพการประชุม ภายใต้หัวข้อเรื่อง การลงทุนที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 29 ส.ค. มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คน จาก 80 กว่าประเทศทั่วโลก รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านสาธารณสุข และการสร้างเสริมสุขภาพ เพราะถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะสร้างความมั่นคงของการพัฒนาประเทศ ซึ่งการลงทุนในระบบสาธารณสุขได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการปฏิรูประบบสาธารณสุขในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งที่ประสบความสำเร็จด้านงานสาธารณสุขตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ที่ได้ริเริ่มปฏิรูปและพัฒนาระบบสาธารณสุขมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาระบบสาธารณสุขไทย การก่อตั้ง สสส. ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งในกลไกสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพที่มีความสำคัญของไทย มีการประเมินการทำงานจากผู้เชี่ยวชาญระดับสากลว่า สามารถขับเคลื่อนงานได้บรรลุเป้าหมาย เป็นองค์กรนวัตกรรมด้านส่งเสริมสุขภาพที่ทำงานกับทุกภาคส่วนในสังคมรากหญ้าถึงระดับชาติ ให้มีส่วนร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพ นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างครอบคลุม 99% ของประชากรไทย
ข่าวชลบุรี หนุ่มป่วยทางจิตเดินหายออกจากบ้าน พบอีกทีกลายเป็นศพจมน้ำ
หนุ่มป่วยทางจิตเดินหายออกจากบ้าน พบอีกทีกลายเป็นศพจมน้ำญาติยังไม่เชื่อว่าจะเป็นการจมน้ำธรรมดา ขอส่งศพเพื่อพิสูตรหาสาเหตุการตาย
เมื่อเวลา 17. 30 น.วันที่ 25 สิงหาคม ร.ต.ท.ราชวัตร นามฉิมพลี ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเสม็ด ได้รับแจ้งเหตุจากหน่วยกู้ภัยไตรคุณธรรมชลบุรี ว่ามีคนพบศพจมน้ำอยู่ภายในบ่อน้ำโบราณกลางป่า จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุติดกับถนนสามแยกกระโดน – ประปา หน้าหอพักเซนทาราเพลส หมู่ 2 ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นบ่อน้ำโบราณกลางป่า ที่มีความกว้างประมาณ 15 เมตร ลึกกว่า 3 เมตร ได้พบศพนายโสภณ ฉัตรแก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 2 ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี คว่ำหน้าลอยน้ำเสียชีวิตอยู่กลางบ่อ และบริเวณข้างบ่อน้ำยังพบกางเกงขาสั้น และสร้อยพระ ของผู้ตายวางอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมานายสุรสิทธิ์ แสงดารา อายุ 40 ปี ทราบข่าวจึงได้เดินทางมาดูศพพร้อมกับบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองเป็นพี่เขยของนายโสภณ และได้กว่าว่านายโสภณ นั้นเป็นบุคคลป่วยทางจิตและได้เดินหายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่ 08.00 น.ของวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางบ้านได้ออกติดตามหาแต่ไม่พบ จนมาทราบข่าวจากเพื่อนบ้านจึงได้เดินทางมาดูก็พบว่าเป็นน้องเขยของตนเอง โดยทางด้านนายสุรสิทธิ์ พี่เขยไม่ปักใจเชื่อว่าน้องเขยของตนเองจะมาจมน้ำตายแบบนี้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจนำศพส่งพิสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายให้แน่ชัดอีกครั้ง
เมื่อเวลา 17. 30 น.วันที่ 25 สิงหาคม ร.ต.ท.ราชวัตร นามฉิมพลี ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเสม็ด ได้รับแจ้งเหตุจากหน่วยกู้ภัยไตรคุณธรรมชลบุรี ว่ามีคนพบศพจมน้ำอยู่ภายในบ่อน้ำโบราณกลางป่า จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุติดกับถนนสามแยกกระโดน – ประปา หน้าหอพักเซนทาราเพลส หมู่ 2 ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นบ่อน้ำโบราณกลางป่า ที่มีความกว้างประมาณ 15 เมตร ลึกกว่า 3 เมตร ได้พบศพนายโสภณ ฉัตรแก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 2 ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี คว่ำหน้าลอยน้ำเสียชีวิตอยู่กลางบ่อ และบริเวณข้างบ่อน้ำยังพบกางเกงขาสั้น และสร้อยพระ ของผู้ตายวางอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมานายสุรสิทธิ์ แสงดารา อายุ 40 ปี ทราบข่าวจึงได้เดินทางมาดูศพพร้อมกับบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองเป็นพี่เขยของนายโสภณ และได้กว่าว่านายโสภณ นั้นเป็นบุคคลป่วยทางจิตและได้เดินหายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่ 08.00 น.ของวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางบ้านได้ออกติดตามหาแต่ไม่พบ จนมาทราบข่าวจากเพื่อนบ้านจึงได้เดินทางมาดูก็พบว่าเป็นน้องเขยของตนเอง โดยทางด้านนายสุรสิทธิ์ พี่เขยไม่ปักใจเชื่อว่าน้องเขยของตนเองจะมาจมน้ำตายแบบนี้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจนำศพส่งพิสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายให้แน่ชัดอีกครั้ง
ข่าวพัทยา ทม.หนองปรือประชาสัมพันธ์การรักษาความสะอาด
ทม.หนองปรือประชาสัมพันธ์การรักษาความสะอาด
เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสงบเทศบาลเมืองหนองปรือลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์กฎหมายพระราชบัญญัติรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 พร้อมจัดระเบียบการวางป้ายประชาสัมพันธ์ และการดูแลรักษาต้นไม้ของตน เพื่อชุมชนที่น่าอยู่
เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสงบเทศบาลเมืองหนองปรือ นำโดยจ่าเอกเจริญ เวียงสิมา หัวหน้างานฝ่ายรักษาความสงบเทศบาลเมืองหนองปรือ พร้อมด้วยนายยรรยงค์ กวีวัชรวรรณ หัวหน้าฝ่ายปกครองสำนักปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือ ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์การรักษาความสะอาด และการจัดระเบียบการวางป้ายประชาสัมพันธ์ รวมถึงการจัดระเบียบการปลูกต้นไม้บริเวณหน้าบ้านของประชาชน ที่รุกล้ำออกมาบริเวณฟุตบาททางเท้า ซึ่งตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่ดินวางกระถางต้นไม้บนทางเท้าหรือปลูกต้นไม้ที่บริเวณนอกอาคารที่ตนเป็นเจ้าของ ปล่อยปละละเลยให้ต้นไม้เหี่ยวแห้งมีสภาพทรุดโทรม และมีสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในกระถางต้นไม้ ได้กำหนดโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสงบเทศบาลเมืองหนองปรือได้กวดขันจับกุมผู้รับเหมาขนถ่ายสิ่งปฏิกูลที่ทำสิ่งปฏิกูลตกหล่นบนท้องถนน สร้างความสกปรกให้กับบ้านเมือง ซึ่งกระทำผิดตามมาตรา 13 พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 โดยเจ้าของรถซึ่งใช้บรรทุกกรวด หิน ดิน เลน ทราย สิ่งปฏิกูล มูลฝอยหรือสิ่งอื่นใดตกหล่น รั่วไหล ปลิว ฟุ้ง กระจายลงบนถนนในระหว่างที่ใช้รถนั้น ระวางโทษปรับไม่เกิน 3,000 บาท
เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสงบเทศบาลเมืองหนองปรือลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์กฎหมายพระราชบัญญัติรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 พร้อมจัดระเบียบการวางป้ายประชาสัมพันธ์ และการดูแลรักษาต้นไม้ของตน เพื่อชุมชนที่น่าอยู่
เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสงบเทศบาลเมืองหนองปรือ นำโดยจ่าเอกเจริญ เวียงสิมา หัวหน้างานฝ่ายรักษาความสงบเทศบาลเมืองหนองปรือ พร้อมด้วยนายยรรยงค์ กวีวัชรวรรณ หัวหน้าฝ่ายปกครองสำนักปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือ ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์การรักษาความสะอาด และการจัดระเบียบการวางป้ายประชาสัมพันธ์ รวมถึงการจัดระเบียบการปลูกต้นไม้บริเวณหน้าบ้านของประชาชน ที่รุกล้ำออกมาบริเวณฟุตบาททางเท้า ซึ่งตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่ดินวางกระถางต้นไม้บนทางเท้าหรือปลูกต้นไม้ที่บริเวณนอกอาคารที่ตนเป็นเจ้าของ ปล่อยปละละเลยให้ต้นไม้เหี่ยวแห้งมีสภาพทรุดโทรม และมีสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในกระถางต้นไม้ ได้กำหนดโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสงบเทศบาลเมืองหนองปรือได้กวดขันจับกุมผู้รับเหมาขนถ่ายสิ่งปฏิกูลที่ทำสิ่งปฏิกูลตกหล่นบนท้องถนน สร้างความสกปรกให้กับบ้านเมือง ซึ่งกระทำผิดตามมาตรา 13 พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 โดยเจ้าของรถซึ่งใช้บรรทุกกรวด หิน ดิน เลน ทราย สิ่งปฏิกูล มูลฝอยหรือสิ่งอื่นใดตกหล่น รั่วไหล ปลิว ฟุ้ง กระจายลงบนถนนในระหว่างที่ใช้รถนั้น ระวางโทษปรับไม่เกิน 3,000 บาท
ข่าวพัทยา สาวโคราชถูกแทงดับตายคารถยนต์
สาวโคราชถูกแทงดับคารถยนต์ คาดฝีมือทอมบอยสาวใช้คู่ขา ตร.เร่งติดตามตัวมาสอบสวน น่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้
08.30 น. วันที่ 26 ส.ค. ร.ต.อ.ธีนัต ตรุณจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ รับแจ้งเหตุคนขับรถชนกับรั้วบ้าน ร่างติดคาอยู่ในรถเสียชีวิต ใกล้เคียงสุสานใหม่ ภายในซอยสนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยัง พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา แพทย์เวร รพ.บางละมุง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานรุดตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 111/7 ม.6 พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กย 1446 ชลบุรี ด้านหน้าจอดชนเสาหน้าบ้านเลขที่ 111/3 ตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อคือนางสาวกุลนิษฐ์ เบ็ญจมาศ อายุ 37 ปี บ้านเดิมอยู่จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตในลักษณะนั่งเอียงคอพับอยู่บนเบาะฝั่งคนขับ พบรอยเลือดติดอยู่ภายในรถเป็นจุดๆ กระจกหน้าฝั่งคนนั่งข้างมีรอยแตกร้าว บริเวณที่วางแก้วฝั่งข้างคนขับยังพบขวดเบียร์ที่ดื่มไปแล้วจนหมดวางอยู่ 1 ขวด บนพื้นวางเท้าด้านหลังข้างคนขับ พบขวดเบียร์ดื่มแล้วอีก 2 ขวด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงเก็บดีเอ็นเอคราบเลือดและขวดเบียร์ไปตรวจสอบ จากการชันสูตรพลิกศพเจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณหน้าอกมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด จำนวน 5 แผล กลางหลังอีก 1 แผล คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 – 7 ชั่วโมง จากการสอบถามนางสาวสุริยา สดชื่น อายุ 42 ปี เพื่อนรุ่นพี่ของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับสามีชาวต่างชาติ ชื่อนายเดวิดสัน คริสโตเฟอร์ เจมส์ อายุ 73 ปี สัญชาติอังกฤษ เมื่อไปนานมานี้ผู้ตายได้รู้จักกับนางสาววันดี สังข์ทอง อายุประมาณ 20 – 25 ปี ซึ่งเป็นทอม และพาเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะคนใช้ได้ 2 เดือน ซึ่งลึกๆ แล้วตนคิดว่าผู้ตายกับนางสาววันดีจะต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอยู่ และเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผู้ตายมีปากเสียงและทะเลาะกับนางสาววันดีอย่างรุนแรง ถึงกับถูกนางสาววันดีเอาสากฟาดที่ศีรษะต้องเย็บถึง 5 เข็ม และถูกขู่ฆ่ามาแล้วหลายครั้ง ส่วนสามีชาวต่างชาติของผู้ตายก็ไม่สามารถให้การใดๆ ได้ เนื่องจากนอนหลับอยู่ด้านบน จนมาช่วงเช้ากำลังจะออกไปตีกอล์ฟ สังเกตุเห็นรถยนต์ของแฟนจอดอยู่จึงคิดว่าหลับ เมื่อมาตรวจสอบจึงพบว่านอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถแล้ว จากการตรวจสอบรอบบ้านและที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบว่าที่ขอบอิฐฟุตบาตและประตูรั้วถูกชนได้รับความเสียหาย ตรวจสอบภายในบ้านไม่มีรอยเลือด เบื้องต้นสันนิฐานว่าผู้ตายอาจเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนร้ายก่อนถูกอาวุธมีดจ้วงแทงหลายแผล ส่วนผู้ตายพยายามขับรถยนต์ออกไปหาหมอด้วยตัวเอง ด้วยความรีบร้อน ประตูบ้านซึ่งเป็นประตูอัตโนมัติยังเปิดไม่สุด ผู้ตายจึงขับชนประตู และไปติดกับเสาหน้าบ้านข้างเคียงจนหมดสติและเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวนางสาววันดี สังข์ทอง มาทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
08.30 น. วันที่ 26 ส.ค. ร.ต.อ.ธีนัต ตรุณจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ รับแจ้งเหตุคนขับรถชนกับรั้วบ้าน ร่างติดคาอยู่ในรถเสียชีวิต ใกล้เคียงสุสานใหม่ ภายในซอยสนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยัง พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา แพทย์เวร รพ.บางละมุง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานรุดตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 111/7 ม.6 พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กย 1446 ชลบุรี ด้านหน้าจอดชนเสาหน้าบ้านเลขที่ 111/3 ตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อคือนางสาวกุลนิษฐ์ เบ็ญจมาศ อายุ 37 ปี บ้านเดิมอยู่จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตในลักษณะนั่งเอียงคอพับอยู่บนเบาะฝั่งคนขับ พบรอยเลือดติดอยู่ภายในรถเป็นจุดๆ กระจกหน้าฝั่งคนนั่งข้างมีรอยแตกร้าว บริเวณที่วางแก้วฝั่งข้างคนขับยังพบขวดเบียร์ที่ดื่มไปแล้วจนหมดวางอยู่ 1 ขวด บนพื้นวางเท้าด้านหลังข้างคนขับ พบขวดเบียร์ดื่มแล้วอีก 2 ขวด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงเก็บดีเอ็นเอคราบเลือดและขวดเบียร์ไปตรวจสอบ จากการชันสูตรพลิกศพเจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณหน้าอกมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด จำนวน 5 แผล กลางหลังอีก 1 แผล คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 – 7 ชั่วโมง จากการสอบถามนางสาวสุริยา สดชื่น อายุ 42 ปี เพื่อนรุ่นพี่ของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับสามีชาวต่างชาติ ชื่อนายเดวิดสัน คริสโตเฟอร์ เจมส์ อายุ 73 ปี สัญชาติอังกฤษ เมื่อไปนานมานี้ผู้ตายได้รู้จักกับนางสาววันดี สังข์ทอง อายุประมาณ 20 – 25 ปี ซึ่งเป็นทอม และพาเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะคนใช้ได้ 2 เดือน ซึ่งลึกๆ แล้วตนคิดว่าผู้ตายกับนางสาววันดีจะต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอยู่ และเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผู้ตายมีปากเสียงและทะเลาะกับนางสาววันดีอย่างรุนแรง ถึงกับถูกนางสาววันดีเอาสากฟาดที่ศีรษะต้องเย็บถึง 5 เข็ม และถูกขู่ฆ่ามาแล้วหลายครั้ง ส่วนสามีชาวต่างชาติของผู้ตายก็ไม่สามารถให้การใดๆ ได้ เนื่องจากนอนหลับอยู่ด้านบน จนมาช่วงเช้ากำลังจะออกไปตีกอล์ฟ สังเกตุเห็นรถยนต์ของแฟนจอดอยู่จึงคิดว่าหลับ เมื่อมาตรวจสอบจึงพบว่านอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถแล้ว จากการตรวจสอบรอบบ้านและที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบว่าที่ขอบอิฐฟุตบาตและประตูรั้วถูกชนได้รับความเสียหาย ตรวจสอบภายในบ้านไม่มีรอยเลือด เบื้องต้นสันนิฐานว่าผู้ตายอาจเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนร้ายก่อนถูกอาวุธมีดจ้วงแทงหลายแผล ส่วนผู้ตายพยายามขับรถยนต์ออกไปหาหมอด้วยตัวเอง ด้วยความรีบร้อน ประตูบ้านซึ่งเป็นประตูอัตโนมัติยังเปิดไม่สุด ผู้ตายจึงขับชนประตู และไปติดกับเสาหน้าบ้านข้างเคียงจนหมดสติและเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวนางสาววันดี สังข์ทอง มาทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
ข่าวศรีราชา พบระเบิดลูกเกลี้ยง K 75 พร้อมใช้งาน หน้าบ้านพักตากอากาศของ อดีตหัวหน้าพรรค ชาติไทยพัฒนา
พบระเบิดลูกเกลี้ยง K 75 พร้อมใช้งาน หน้าบ้านพักตากอากาศของ อดีตหัวหน้าพรรค ชาติไทยพัฒนา
ร้อยตำรวจตรี เสนาะ พรมบุตร ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรศรีราชา อ.ศรีราชา ได้รับแจ้งเหตุพบวัตถุระเบิด ที่บริเวณหน้าบ้านพักตากอากาศของนายชุมพล ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในเขตพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา แต่ท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อต้นปีที่ผ่านมาแล้ว โดยมีแต่เพียงผู้เฝ้าบ้านอยู่เท่านั้น
จากการตรวจสอบพื้นที่ พบคนงานกำลังปรับพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้างคอนโดเท่านั้น ซึ่งบริเวณที่พบอยู่หน้าบ้านพักตากอากาศ ของนายชุมพล เท่านั้น โดยเป็นระเบิดชนิดลูกเกลี้ยง ผลิตในประเทศเกาหลี รุ่น K 75 จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องนำยางรถยนต์ มาวางครอบลูกระเบิดไว้ พร้อมกันชาวบ้านออกจากพื้นที่ และประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดชลบุรี นำโดย ร้อยตำรวจโท อเนก เครือเกลื่อนเพชร หัวหน้าชุดเก็บกู้ ฯ พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี อัสวิน กำเนิดสุข และ ว่าที่ร้อยตรี ภูชิต ศุภรัชตพงษ์ มาร่วมกันเก็บกู้ในครั้งนี้ โดยใช้เวลาไม่นานก็สามารถเก็บกู้ได้อย่างปลอดภัย จากการสอบถามนายกมล อ่อนศรี หัวหน้าคนงานก่อนสร้าง ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ลูกน้องของตนได้มาปรับเกลี่ยพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเตรียมจะก่อสร้างคอนโด และในจังหวะที่ปรับพื้นที่อยู่นั้น ได้พบวัตถุระเบิด จึงนำมามอบให้ตน ตนจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ และดำเนินการเก็บกู้ดังกล่าว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เก็บกู้วัตถุระเบิด กล่าวว่า วัตถุระเบิดดังกล่าว เป็นรุ่น K 75 ผลิตในประเทศเกาหลี มีสภาพพร้อมใช้งานและสามารถระเบิดได้ตลอดเวลา โดยมีอนุภาพการทำลายร้างในระยะทำการหวังผล อยู่ในรัศมี 15-20 เมตร แต่อาจจะทำอันตรายได้ถึง 70-80 เมตร ส่วนสาเหตุที่มีคนนำวัตถุระเบิดนำมาทิ้งนั้น คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น ที่เตรียมนำมาก่อเหตุ แต่ในจังหวะนั้น มีด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งสกัดอยู่พอดี จึงต้องทิ้งระเบิดดังกล่าวเข้าไปในป่า เพื่อไม่ให้ถูกตำรวจตรวจค้นจับกุมได้ เพราะระเบิดดังกล่าวมีสภาพค่อนข้างเก่า และทิ้งไว้เป็นเวลานาน แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบหาสาเหตุให้แน่ชัดอีกครั้ง
ร้อยตำรวจตรี เสนาะ พรมบุตร ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรศรีราชา อ.ศรีราชา ได้รับแจ้งเหตุพบวัตถุระเบิด ที่บริเวณหน้าบ้านพักตากอากาศของนายชุมพล ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในเขตพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา แต่ท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อต้นปีที่ผ่านมาแล้ว โดยมีแต่เพียงผู้เฝ้าบ้านอยู่เท่านั้น
จากการตรวจสอบพื้นที่ พบคนงานกำลังปรับพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้างคอนโดเท่านั้น ซึ่งบริเวณที่พบอยู่หน้าบ้านพักตากอากาศ ของนายชุมพล เท่านั้น โดยเป็นระเบิดชนิดลูกเกลี้ยง ผลิตในประเทศเกาหลี รุ่น K 75 จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องนำยางรถยนต์ มาวางครอบลูกระเบิดไว้ พร้อมกันชาวบ้านออกจากพื้นที่ และประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดชลบุรี นำโดย ร้อยตำรวจโท อเนก เครือเกลื่อนเพชร หัวหน้าชุดเก็บกู้ ฯ พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี อัสวิน กำเนิดสุข และ ว่าที่ร้อยตรี ภูชิต ศุภรัชตพงษ์ มาร่วมกันเก็บกู้ในครั้งนี้ โดยใช้เวลาไม่นานก็สามารถเก็บกู้ได้อย่างปลอดภัย จากการสอบถามนายกมล อ่อนศรี หัวหน้าคนงานก่อนสร้าง ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ลูกน้องของตนได้มาปรับเกลี่ยพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเตรียมจะก่อสร้างคอนโด และในจังหวะที่ปรับพื้นที่อยู่นั้น ได้พบวัตถุระเบิด จึงนำมามอบให้ตน ตนจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ และดำเนินการเก็บกู้ดังกล่าว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เก็บกู้วัตถุระเบิด กล่าวว่า วัตถุระเบิดดังกล่าว เป็นรุ่น K 75 ผลิตในประเทศเกาหลี มีสภาพพร้อมใช้งานและสามารถระเบิดได้ตลอดเวลา โดยมีอนุภาพการทำลายร้างในระยะทำการหวังผล อยู่ในรัศมี 15-20 เมตร แต่อาจจะทำอันตรายได้ถึง 70-80 เมตร ส่วนสาเหตุที่มีคนนำวัตถุระเบิดนำมาทิ้งนั้น คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น ที่เตรียมนำมาก่อเหตุ แต่ในจังหวะนั้น มีด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งสกัดอยู่พอดี จึงต้องทิ้งระเบิดดังกล่าวเข้าไปในป่า เพื่อไม่ให้ถูกตำรวจตรวจค้นจับกุมได้ เพราะระเบิดดังกล่าวมีสภาพค่อนข้างเก่า และทิ้งไว้เป็นเวลานาน แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบหาสาเหตุให้แน่ชัดอีกครั้ง
ข่าวพัทยา พ่อค้าขายกาแฟง้อเมียไม่สำเร็จเลยเครียดจัด ตัดสินใจผูกคอตายลาโลก
พ่อค้าขายกาแฟง้อเมียไม่สำเร็จเลยเครียดจัด ตัดสินใจผูกคอตายลาโลก
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 25 ส.ค.56 พ.ต.ท.เสน่ห์ ยศรุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งมีคนผูกคอตายภายในห้องพักให้เช่าชื่อ “99 โชค 4 ทิศ” เลขที่ 256/29-47 ซอยมาบยายเลีย 1 หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ในห้องเบอร์ 45 พบศพนายธนพงศ์ ชยขจร อายุ 35 ปี อาชีพพ่อค้าเร่ขายกาแฟโบราณและเครื่องดื่ม สภาพศพตัวแข็งทื่อ ลิ้นจุกปาก ใบหน้าเขียวคล้ำ สวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีฟ้า มีเชือกไนล่อนสีฟ้าผูกคอติดกับขื่อหลังคา นอกจากนี้ยังมีสายหูฟัง หรือ สมอลล์ทอล์ก สีขาว อุดอยู่ที่หูทั้ง 2 ข้าง ปลายสายอีกด้านเสียบต่อเข้ากับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงซึ่งเป็นของผู้ตาย ส่วนที่พื้นใกล้ศพพบลังบรรจุขวดน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่งจำนวน 2 ลังวางซ้อนกันอยู่ เมื่อนำโทรศัพท์มือถือมาเช็คข้อมูลภายในเครื่องปรากฏว่าพบภาพที่ผู้ตายถ่ายไว้ขณะกำลังจะผูกคอตาย โดยมีเชือกไนล่อนสีฟ้าผูกคอติดอยู่กับขื่อ พร้อมกับพิมพ์ข้อความฝากถึง น.ส.อ้อย (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ภรรยาสุดที่รักว่า “แต่นี้คือภาพจริง..ลาก่อนเมียรัก” จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเพื่อนของนายธนพงศ์ ได้มาหาที่ห้องเพื่อชวนไปกินข้าว แต่พอเคาะประตูเรียกกลับไม่มีเสียงตอบกลับ และห้องถูกล็อคจากด้านในไม่สามารถเปิดได้ เลยพากันแง้มกระจกบานเกล็ดดูเลยพบว่านายธนพงศ์ กลายเป็นศพผูกคอตาย จึงแจ้งให้ตำรวจทราบ ด้าน พ.ต.ท.เสน่ห์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเผยว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำพยานแวดล้อมทำให้ทราบว่าการที่นายธนพงศ์ คิดสั้นผูกคอตายสาเหตุน่าจะมาจากก่อนหน้านี้ได้ทะเลาะกับ น.ส.อ้อย ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ช่วยกันขับรถ จยย.พ่วงข้างตระเวนขายกาแฟอยู่ด้วยกันทุกวัน เกี่ยวกับเรื่องที่นายธนพงศ์ แอบไปมีกิ๊กและภรรยาจับได้เลยขอแยกทาง ก่อนขนเสื้อผ้าหนีกลับบ้านเกิดที่ จ.หนองคาย ทำให้นายธนพงศ์ เกิดความเครียดเลยใช้เชือกผูกคอตายลาโลกดังกล่าว
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 25 ส.ค.56 พ.ต.ท.เสน่ห์ ยศรุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งมีคนผูกคอตายภายในห้องพักให้เช่าชื่อ “99 โชค 4 ทิศ” เลขที่ 256/29-47 ซอยมาบยายเลีย 1 หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ในห้องเบอร์ 45 พบศพนายธนพงศ์ ชยขจร อายุ 35 ปี อาชีพพ่อค้าเร่ขายกาแฟโบราณและเครื่องดื่ม สภาพศพตัวแข็งทื่อ ลิ้นจุกปาก ใบหน้าเขียวคล้ำ สวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีฟ้า มีเชือกไนล่อนสีฟ้าผูกคอติดกับขื่อหลังคา นอกจากนี้ยังมีสายหูฟัง หรือ สมอลล์ทอล์ก สีขาว อุดอยู่ที่หูทั้ง 2 ข้าง ปลายสายอีกด้านเสียบต่อเข้ากับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงซึ่งเป็นของผู้ตาย ส่วนที่พื้นใกล้ศพพบลังบรรจุขวดน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่งจำนวน 2 ลังวางซ้อนกันอยู่ เมื่อนำโทรศัพท์มือถือมาเช็คข้อมูลภายในเครื่องปรากฏว่าพบภาพที่ผู้ตายถ่ายไว้ขณะกำลังจะผูกคอตาย โดยมีเชือกไนล่อนสีฟ้าผูกคอติดอยู่กับขื่อ พร้อมกับพิมพ์ข้อความฝากถึง น.ส.อ้อย (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ภรรยาสุดที่รักว่า “แต่นี้คือภาพจริง..ลาก่อนเมียรัก” จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเพื่อนของนายธนพงศ์ ได้มาหาที่ห้องเพื่อชวนไปกินข้าว แต่พอเคาะประตูเรียกกลับไม่มีเสียงตอบกลับ และห้องถูกล็อคจากด้านในไม่สามารถเปิดได้ เลยพากันแง้มกระจกบานเกล็ดดูเลยพบว่านายธนพงศ์ กลายเป็นศพผูกคอตาย จึงแจ้งให้ตำรวจทราบ ด้าน พ.ต.ท.เสน่ห์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเผยว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำพยานแวดล้อมทำให้ทราบว่าการที่นายธนพงศ์ คิดสั้นผูกคอตายสาเหตุน่าจะมาจากก่อนหน้านี้ได้ทะเลาะกับ น.ส.อ้อย ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ช่วยกันขับรถ จยย.พ่วงข้างตระเวนขายกาแฟอยู่ด้วยกันทุกวัน เกี่ยวกับเรื่องที่นายธนพงศ์ แอบไปมีกิ๊กและภรรยาจับได้เลยขอแยกทาง ก่อนขนเสื้อผ้าหนีกลับบ้านเกิดที่ จ.หนองคาย ทำให้นายธนพงศ์ เกิดความเครียดเลยใช้เชือกผูกคอตายลาโลกดังกล่าว
ข่าวบางละมุง สองแม่-ลูกขับปิกอัพข้ามถนนถูกรถไฟชนกระเด็น พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้ารอดตายราวปาฏิหาริย์
สองแม่-ลูกขับปิกอัพข้ามถนนถูกรถไฟชนกระเด็น พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้ารอดตายราวปาฏิหาริย์
สองแม่-ลูกขับปิกอัพข้ามถนนถูกรถไฟชนกระเด็น พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้ารอดตายราวปาฏิหาริย์
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ส.ค.56 ร.ต.ท.ยุทธพล บุญเกิด พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถไฟชนรถปิกอัพมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณถนนข้ามทางรถไฟ บ้านหนองสะเดา หมู่ 4 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บฉ-2094 ชุมพร ถูกรถไฟขบวนพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว ที่วิ่งเส้นทางระหว่างกรุงเทพ-วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชนจนกระเด็นไปตกอยู่ในพงหญ้าริมทางรถไฟในสภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า ห่างจากจุดชนประมาณ 50 เมตร
ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน 2 ราย หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา นำตัวส่ง รพ.บางละมุง ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อภายหลังคือนางมลฤดี ขาวสุวรรณ อายุ 49 ปี ชาว อ.หลังสวน จ.ชุมพร (คนขับ) กับ น.ส.ปรางทิพย์ ประทุมมา อายุ 23 ปี ลูกสาว ซึ่งทั้งคู่มีอาการฟกช้ำตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย สอบปากคำนางมลฤดี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถพาลูกสาวกลับบ้านพัก จนมาถึงที่เกิดเหตุขณะกำลังขับข้ามทางรถไฟซึ่งมีเพียงไฟกระพริบเตือนแต่ไม่มีแผงกั้น ทำให้ไม่ทันระวัง จึงถูกรถไฟที่วิ่งมาจากกรุงเทพฯชนอย่างจังจนรถกระเด็นไปตกในร่องริมถนน แต่โชคดีตนกับลูกสาวได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยรอดตายราวปาฏิหาริย์ ด้านนายศักดิ์นรินทร์ ขันทอง อายุ 41 ปี คนขับรถไฟ ให้การว่า สำหรับรถไฟขบวนดังกล่าวเป็นขบวนพิเศษที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดขึ้นเพื่อการท่องเที่ยว ก่อนเกิดเหตุขณะขับรถไฟมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางที่สถานีวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร จู่ๆ นางมลฤดี รถปิกอัพข้ามถนนตัดหน้าอย่างกระชั้นชิดจึงทำให้พุ่งชนจนมีคนบาดเจ็บดังกล่าว
สองแม่-ลูกขับปิกอัพข้ามถนนถูกรถไฟชนกระเด็น พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้ารอดตายราวปาฏิหาริย์
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ส.ค.56 ร.ต.ท.ยุทธพล บุญเกิด พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถไฟชนรถปิกอัพมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณถนนข้ามทางรถไฟ บ้านหนองสะเดา หมู่ 4 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บฉ-2094 ชุมพร ถูกรถไฟขบวนพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว ที่วิ่งเส้นทางระหว่างกรุงเทพ-วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชนจนกระเด็นไปตกอยู่ในพงหญ้าริมทางรถไฟในสภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า ห่างจากจุดชนประมาณ 50 เมตร
ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน 2 ราย หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา นำตัวส่ง รพ.บางละมุง ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อภายหลังคือนางมลฤดี ขาวสุวรรณ อายุ 49 ปี ชาว อ.หลังสวน จ.ชุมพร (คนขับ) กับ น.ส.ปรางทิพย์ ประทุมมา อายุ 23 ปี ลูกสาว ซึ่งทั้งคู่มีอาการฟกช้ำตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย สอบปากคำนางมลฤดี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถพาลูกสาวกลับบ้านพัก จนมาถึงที่เกิดเหตุขณะกำลังขับข้ามทางรถไฟซึ่งมีเพียงไฟกระพริบเตือนแต่ไม่มีแผงกั้น ทำให้ไม่ทันระวัง จึงถูกรถไฟที่วิ่งมาจากกรุงเทพฯชนอย่างจังจนรถกระเด็นไปตกในร่องริมถนน แต่โชคดีตนกับลูกสาวได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยรอดตายราวปาฏิหาริย์ ด้านนายศักดิ์นรินทร์ ขันทอง อายุ 41 ปี คนขับรถไฟ ให้การว่า สำหรับรถไฟขบวนดังกล่าวเป็นขบวนพิเศษที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดขึ้นเพื่อการท่องเที่ยว ก่อนเกิดเหตุขณะขับรถไฟมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางที่สถานีวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร จู่ๆ นางมลฤดี รถปิกอัพข้ามถนนตัดหน้าอย่างกระชั้นชิดจึงทำให้พุ่งชนจนมีคนบาดเจ็บดังกล่าว
Monday, August 26, 2013
ข่าวพัทยา เปิดสำนักงานหนังสือเดินทางเมืองพัทยา
เปิดสำนักงานหนังสือเดินทางเมืองพัทยา
กรมกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดสำนักงานหนังสือเดินทางให้บริการเพื่อประชาชนที่เมืองพัทยา
09.30 น. วันที่ 25 กรกฎาคม ที่สำนักงานบริการหนังสือเดินทางเมืองพัทยาภายในศูนย์การค้าดิอเวนิวพัทยา กองหนังสือเดินทางกระทรวงการต่างประเทศ และบริษัทสยามฟิวเจอร์ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ร่วมจัดงานเปิดตัวสำนักงานหนังสือเดินทางที่ศูนย์การค้าดิอเวนิวพัทยา สำนักงานหนังสือเดินทางแห่งแรกในเมืองพัทยา โดยมีนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดสำนักงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเมืองพัทยาและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมีนายรัชฎา จิวาลัย ผู้อำนวยการกองหนังสือเดินทางกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า การเปิดสาขาที่พัทยา เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางกรมกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดสำนักงานหนังสือเดินทางที่บางนา เพื่อรองรับกลุ่มคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล และที่จังหวัดจันทบุรีเพื่อรองรับกลุ่มคนในแถบภาคตะวันออก ซึ่งปริมาณคนเข้าใช้บริการหนาแน่น ทำให้สถานที่ไม่เพียงพอต่อการรองรับพี่น้องประชาชน ทางกระทรวงจึงมีแผนในการหาทำเลแห่งใหม่ และมองที่เมืองพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว สามารถครอบคลุมกลุ่มคนพื้นที่อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี และกลุ่มคนจากจังหวัดระยอง สำหรับสำนักงานหนังสือเดินทางพัทยา เปิดให้บริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. ที่ชั้นG ศูนย์การค้าดิอเวนิวพัทยา ถนนพัทยาสาย2
กรมกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดสำนักงานหนังสือเดินทางให้บริการเพื่อประชาชนที่เมืองพัทยา
09.30 น. วันที่ 25 กรกฎาคม ที่สำนักงานบริการหนังสือเดินทางเมืองพัทยาภายในศูนย์การค้าดิอเวนิวพัทยา กองหนังสือเดินทางกระทรวงการต่างประเทศ และบริษัทสยามฟิวเจอร์ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ร่วมจัดงานเปิดตัวสำนักงานหนังสือเดินทางที่ศูนย์การค้าดิอเวนิวพัทยา สำนักงานหนังสือเดินทางแห่งแรกในเมืองพัทยา โดยมีนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดสำนักงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเมืองพัทยาและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมีนายรัชฎา จิวาลัย ผู้อำนวยการกองหนังสือเดินทางกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า การเปิดสาขาที่พัทยา เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางกรมกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดสำนักงานหนังสือเดินทางที่บางนา เพื่อรองรับกลุ่มคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล และที่จังหวัดจันทบุรีเพื่อรองรับกลุ่มคนในแถบภาคตะวันออก ซึ่งปริมาณคนเข้าใช้บริการหนาแน่น ทำให้สถานที่ไม่เพียงพอต่อการรองรับพี่น้องประชาชน ทางกระทรวงจึงมีแผนในการหาทำเลแห่งใหม่ และมองที่เมืองพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว สามารถครอบคลุมกลุ่มคนพื้นที่อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี และกลุ่มคนจากจังหวัดระยอง สำหรับสำนักงานหนังสือเดินทางพัทยา เปิดให้บริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. ที่ชั้นG ศูนย์การค้าดิอเวนิวพัทยา ถนนพัทยาสาย2
ข่าวพัทยา ประชุมคณะทำงานเด็กในชุมชนเมืองพัทยา ไตรมาส 8
ประชุมคณะทำงานเด็กในชุมชนเมืองพัทยา ไตรมาส 8
คณะดำเนินงานเครือข่ายสายชล จัดการประชุมคณะทำงานเด็กในชุมชนเมืองพัทยา ไตรมาส 8
คณะดำเนินงานเครือข่ายสายชลได้จัดการประชุมคณะทำงานเด็กในชุมชนเมืองพัทยา ไตรมาส 8 โดยมีนายวัชรีย์ วิสิทธิ์กาศ ประธานเครือข่ายสายชล เป็นประธานในการประชุม ด้วยเครือข่ายสายชลจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ได้รับงบประมาณจากกองทุนโลกรอบ 10 เพื่อจัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กโดยชุมชน โดยในวันนี้ได้จัดการประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าของผลการดำเนินงานในไตรมาส 7 และติดตามสถานการณ์การดูแลเด็กในพื้นที่เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือเพื่อนำไปสู่ระบบดูแลปกป้องคุ้มครองทางสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้เด็กในโครงการมีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ทั้งร่างกายและจิตใจแบบองค์รวม โดยในวันนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการคุ้มครองเด็กแบบองค์รวม โดยได้แต่งตั้งนายชรินทร์ พ่วงสกลุสุข เป็นประธานคณะอนุกรรมการ
คณะดำเนินงานเครือข่ายสายชล จัดการประชุมคณะทำงานเด็กในชุมชนเมืองพัทยา ไตรมาส 8
คณะดำเนินงานเครือข่ายสายชลได้จัดการประชุมคณะทำงานเด็กในชุมชนเมืองพัทยา ไตรมาส 8 โดยมีนายวัชรีย์ วิสิทธิ์กาศ ประธานเครือข่ายสายชล เป็นประธานในการประชุม ด้วยเครือข่ายสายชลจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ได้รับงบประมาณจากกองทุนโลกรอบ 10 เพื่อจัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กโดยชุมชน โดยในวันนี้ได้จัดการประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าของผลการดำเนินงานในไตรมาส 7 และติดตามสถานการณ์การดูแลเด็กในพื้นที่เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือเพื่อนำไปสู่ระบบดูแลปกป้องคุ้มครองทางสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้เด็กในโครงการมีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ทั้งร่างกายและจิตใจแบบองค์รวม โดยในวันนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการคุ้มครองเด็กแบบองค์รวม โดยได้แต่งตั้งนายชรินทร์ พ่วงสกลุสุข เป็นประธานคณะอนุกรรมการ
ข่าวบางละมุง เสวนาการจัดการแก้ไขปัญหาโซนนิ่ง
เสวนาการจัดการแก้ไขปัญหาโซนนิ่ง
รัฐสภาชลบุรีร่วมอำเภอบางละมุงจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านประชาธิปไตย พร้อมจัดเวทีเสวนาร่วมแก้ไขปัญหาการจัดโซนนิ่ง
นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยนายจีรพงศ์ วัฒนะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร นายศตพล วรปัญญาตระกูล หัวหน้าสำนักงานรัฐสภาชลบุรี นายบัณฑิต ศิริตันหยง ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา ร่วมเปิดการเสวนาการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการจัดโซนนิ่ง สถานบริการ โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการสถานบันเทิงต่างๆ ในพื้นที่โซนนิ่งและใกล้เคียง ร่วมสังเกตการณ์และร่วมเสวนาในครั้งนี้ ซึ่งการจัดเสวนาดังกล่าวเป็นการบรรยายพิเศษเรื่องการให้ความรู้เรื่องการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ในจังหวัดชลบุรี โดยรูปแบบการจัดกิจกรรม ประกอบด้วยการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่รัฐสภาและสำนักงานรัฐสภาจังหวัด เพื่อมุ่งเน้นการเปิดเวทีเสวนา การจัดโซนนิ่งสถานบริการ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอันเกิดจากการจัดพื้นที่และเวลาปิด-เปิดสถานบริการ ซึ่งในเบื้องต้นได้มีกรจัดระเบียบโซนนิ่งไปเรียบร้อยแล้ว โดยสถานประกอบการที่เปิดให้บริการหลังปี 2547 จะต้องเข้าระบบการจัดโซนนิ่งทั้งหมด ปัญหาที่ตามมาคือสถานบันเทิงที่อยู่นอกโซนนิ่ง และสถานบันเทิงที่อยู่ในโซนนิ่งได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งวันนี้มีคณะกรรมการจากสำนักงานรัฐสภาชลบุรีมารับฟังปัญหาเพื่อนำเรื่องราวร้องทุกข์ต่างๆ ของผู้ประกอบการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่รัฐสภาเพื่อพิจารณาส่งต่อไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป
รัฐสภาชลบุรีร่วมอำเภอบางละมุงจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านประชาธิปไตย พร้อมจัดเวทีเสวนาร่วมแก้ไขปัญหาการจัดโซนนิ่ง
นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยนายจีรพงศ์ วัฒนะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร นายศตพล วรปัญญาตระกูล หัวหน้าสำนักงานรัฐสภาชลบุรี นายบัณฑิต ศิริตันหยง ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา ร่วมเปิดการเสวนาการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการจัดโซนนิ่ง สถานบริการ โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการสถานบันเทิงต่างๆ ในพื้นที่โซนนิ่งและใกล้เคียง ร่วมสังเกตการณ์และร่วมเสวนาในครั้งนี้ ซึ่งการจัดเสวนาดังกล่าวเป็นการบรรยายพิเศษเรื่องการให้ความรู้เรื่องการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ในจังหวัดชลบุรี โดยรูปแบบการจัดกิจกรรม ประกอบด้วยการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่รัฐสภาและสำนักงานรัฐสภาจังหวัด เพื่อมุ่งเน้นการเปิดเวทีเสวนา การจัดโซนนิ่งสถานบริการ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอันเกิดจากการจัดพื้นที่และเวลาปิด-เปิดสถานบริการ ซึ่งในเบื้องต้นได้มีกรจัดระเบียบโซนนิ่งไปเรียบร้อยแล้ว โดยสถานประกอบการที่เปิดให้บริการหลังปี 2547 จะต้องเข้าระบบการจัดโซนนิ่งทั้งหมด ปัญหาที่ตามมาคือสถานบันเทิงที่อยู่นอกโซนนิ่ง และสถานบันเทิงที่อยู่ในโซนนิ่งได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งวันนี้มีคณะกรรมการจากสำนักงานรัฐสภาชลบุรีมารับฟังปัญหาเพื่อนำเรื่องราวร้องทุกข์ต่างๆ ของผู้ประกอบการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่รัฐสภาเพื่อพิจารณาส่งต่อไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ข่าวพัทยา TMN เคเบิลทีวี รุกหนักบุกทำตลาดตำบลบางละมุง
TMN เคเบิลทีวี รุกหนักบุกทำตลาดตำบลบางละมุง ขยายตลาด ให้ทั่วพื้นที่ตำบลบางละมุง วันนี้ทีมงานได้ทำการตลาดเพิ่มที่บ้านบางละมุงฝั่งธน และบริเวณหมู่บ้านในซอยคลังก๊าซโรงโป๊ะ
ที่ชุมชนบ้านบางละมุงฝั่งธน หรือวัดท่ากระดาน TMN เคเบิลทีวี โดยนายสมสิน ทิพย์มณี กรรมการผู้จัดการ TMN เคเบิลทีวี ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง พร้อมนายอนุรัตน์ พิพัฒนานุกูล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด นำทีมงานคุณภาพ TMN เคเบิลทีวี ออกประชาสัมพันธ์ถึงหน้าบ้าน แนะนำประชาชนในบางละมุงฝั่งธน หรือวัดท่ากระดาน และหมู่บ้านบริเวณคลังก๊าซโรงโป๊ะ เพื่อเป็นการขยายตลาดสมาชิกให้เพิ่มมากขึ้น และได้เสนอโปรโมชั่นพิเศษสุดคุ้ม สำหรับชาวโรงโป๊ะ ตะเคียนเตี้ย ทุ่งกราด บ้านนก บางละมุง โดยสมัครรับชม TMN เคเบิลทีวี ในวันนี้ จ่ายเพียง 700 บาท สามารถดูฟรีได้ถึงสิ้นปี โดยไม่มีการเก็บค่าบริการระหว่างเดือน จนถึงสิ้นปี 2556 ซึ่งในวันนี้ได้มีการแจกแผ่นพับใบปลิวไปตามบ้านเรือน พร้อมกับรถประชาสัมพันธ์ อีกทั้งยังเป็นการเยี่ยมสมาชิกที่ใช้บริการ TMN เคเบิลทีวีอีกด้วย โดยในวันนี้มีผู้ที่สนใจและตัดสินใจติดตั้ง TMN เคเบิลทีวี เป็นจำนวนมาก
ที่ชุมชนบ้านบางละมุงฝั่งธน หรือวัดท่ากระดาน TMN เคเบิลทีวี โดยนายสมสิน ทิพย์มณี กรรมการผู้จัดการ TMN เคเบิลทีวี ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง พร้อมนายอนุรัตน์ พิพัฒนานุกูล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด นำทีมงานคุณภาพ TMN เคเบิลทีวี ออกประชาสัมพันธ์ถึงหน้าบ้าน แนะนำประชาชนในบางละมุงฝั่งธน หรือวัดท่ากระดาน และหมู่บ้านบริเวณคลังก๊าซโรงโป๊ะ เพื่อเป็นการขยายตลาดสมาชิกให้เพิ่มมากขึ้น และได้เสนอโปรโมชั่นพิเศษสุดคุ้ม สำหรับชาวโรงโป๊ะ ตะเคียนเตี้ย ทุ่งกราด บ้านนก บางละมุง โดยสมัครรับชม TMN เคเบิลทีวี ในวันนี้ จ่ายเพียง 700 บาท สามารถดูฟรีได้ถึงสิ้นปี โดยไม่มีการเก็บค่าบริการระหว่างเดือน จนถึงสิ้นปี 2556 ซึ่งในวันนี้ได้มีการแจกแผ่นพับใบปลิวไปตามบ้านเรือน พร้อมกับรถประชาสัมพันธ์ อีกทั้งยังเป็นการเยี่ยมสมาชิกที่ใช้บริการ TMN เคเบิลทีวีอีกด้วย โดยในวันนี้มีผู้ที่สนใจและตัดสินใจติดตั้ง TMN เคเบิลทีวี เป็นจำนวนมาก
ข่าวพัทยา สภ.นาจอมเทียนตั้งจุดตรวจ
สภ.นาจอมเทียนตั้งจุดตรวจ
ที่พักสายตรวจจราจร สภ.นาจอมเทียน ได้มีการตั้งด่านจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.นาจอมเทียน ตามนโยบายจังหวัดชลบุรี
ได้มีการตั้งด่านจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.นาจอมเทียน ที่พักสายตรวจจราจร สภ.นาจอมเทียนโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ โดยการนำของ ร.ต.ท.อำนวย บุญเลิศ รองสารวัตรจราจร โดยได้รับมอบหมายตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ในการตรวจจับปรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร และตรวจจับสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด โดยทำการตรวจทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ใช้เวลาในการตรวจครั้งนี้ 2 ชั่วโมง ได้ผู้กระทำผิดกฎวินัยจราจรกว่า 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน๊อก และวัยรุ่นดัดแปลงสภาพรถท่อรถเสียงดัง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด
ที่พักสายตรวจจราจร สภ.นาจอมเทียน ได้มีการตั้งด่านจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.นาจอมเทียน ตามนโยบายจังหวัดชลบุรี
ได้มีการตั้งด่านจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.นาจอมเทียน ที่พักสายตรวจจราจร สภ.นาจอมเทียนโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ โดยการนำของ ร.ต.ท.อำนวย บุญเลิศ รองสารวัตรจราจร โดยได้รับมอบหมายตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ในการตรวจจับปรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร และตรวจจับสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด โดยทำการตรวจทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ใช้เวลาในการตรวจครั้งนี้ 2 ชั่วโมง ได้ผู้กระทำผิดกฎวินัยจราจรกว่า 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน๊อก และวัยรุ่นดัดแปลงสภาพรถท่อรถเสียงดัง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด
ข่าวชลบุรี รวบเอเย่นต์ยาบ้าซุกยาในขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ
รวบเอเย่นต์ยาบ้าซุกยาในขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ
ตำรวจเมืองชลบุรีรวบจับผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายยาเสพติด พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 80 เม็ด ที่ซุกซ่อนไว้ในขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ
ร.ต.อ.โชคชัย โทคำมา รอง สวป.สภ.เมืองชลบุรี พร้อมกำลัง เข้าจับกุมตัวนายวิชัย ชินบุตร อายุ 32 ปี ในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า ) อยู่ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมด้วยของกลางเป็นยาบ้าที่บรรจุไว้ในถุงๆ ละ 10 เม็ด จำนวน 8 ถุง รวมทั้งสิ้น 80 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหาได้มีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในเขตตำบลเสม็ดและเขตอำเภอเมืองชลบุรี จึงได้เข้าจับกุมที่บ้านเลขที่ 1/45 หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จากการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในขวดน้ำยาล้างห้องน้ำวางไว้ในห้องน้ำ จึงทำการควบคุมตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ นำไปจำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่น เงินที่ได้มาจะนำไปเที่ยวเตร่ในตอนกลางคืน
ตำรวจเมืองชลบุรีรวบจับผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายยาเสพติด พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 80 เม็ด ที่ซุกซ่อนไว้ในขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ
ร.ต.อ.โชคชัย โทคำมา รอง สวป.สภ.เมืองชลบุรี พร้อมกำลัง เข้าจับกุมตัวนายวิชัย ชินบุตร อายุ 32 ปี ในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า ) อยู่ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมด้วยของกลางเป็นยาบ้าที่บรรจุไว้ในถุงๆ ละ 10 เม็ด จำนวน 8 ถุง รวมทั้งสิ้น 80 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหาได้มีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในเขตตำบลเสม็ดและเขตอำเภอเมืองชลบุรี จึงได้เข้าจับกุมที่บ้านเลขที่ 1/45 หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จากการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในขวดน้ำยาล้างห้องน้ำวางไว้ในห้องน้ำ จึงทำการควบคุมตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ นำไปจำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่น เงินที่ได้มาจะนำไปเที่ยวเตร่ในตอนกลางคืน
ข่าวชลบุรี รวบสาวแม่ลูกอ่อน ค้ายานรกหาเงินซื้อนมเลี้ยงลูก
รวบสาวแม่ลูกอ่อน ค้ายานรกหาเงินซื้อนมเลี้ยงลูก
วันที่ 23 ส.ค.56 นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายชวัฒน์ เทพทัพ ปลัดฝ่ายความมั่นคง น.อ.คมพันธ์ อุปลานนท์ ผอ.กองยุทธการและข่าว ฐานทัพเรือสัตหีบ และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางปราณี หรือเจ๊แม็ก นิ่มเรือง อายุ 33 ปี พักบ้านเลขที่ 63/22 ม.1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ข้อหา มียาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย ของกลางยาบ้า 40 เม็ด และธนบัตรล่อซื้อ 400 บาท นายวุฒิชัย หรือเบียร์ ศรีชนะ อายุ 25 ปี เสพยาบ้า นายสมาน หรือหยอง ภาสดา อายุ 28 ปี เสพยาบ้า และนายคำรณ หรือตุ่น ด่านซ้าย อายุ 31 ปี เสพยาบ้า
นายชวัฒน์ เทพทัพ ปลัดฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเบาะแสจากอดีตผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดว่า เจ๊แม็ก มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้า ให้กับกลุ่มคนงานก่อสร้าง และวัยรุ่น ในเขตพื้นที่พลูตาหลวง จึงส่งสายลับเข้าทำการล่อซื้อยาบ้า 2 เม็ด ในราคา 400 บาท หลังจับกุม ได้ทำการตรวจค้นในบ้านพัก พบยาบ้าอีกจำนวน 38 เม็ด ก่อนจะขยายผลจนนำไปสู่การจับกุมผู้เสพในเครือข่ายได้ทั้งหมด เบื้องต้น เจ๊แม็ก ให้การรับสารภาพรับยาบ้ามาจาก นายเบนซ์ มีบ้านพักอยู่หัวสนามบินอู่ตะเภา กม.12 อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ในราคาเม็ดละ 170 บาท ก่อนนำมาจำหน่ายในราคา 200 บาท เพื่อนำเงินไปซื้อนมเลี้ยงลูกอ่อน ที่พึ่งลืมตาดูโลกได้เพียงเดือนเศษ
วันที่ 23 ส.ค.56 นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายชวัฒน์ เทพทัพ ปลัดฝ่ายความมั่นคง น.อ.คมพันธ์ อุปลานนท์ ผอ.กองยุทธการและข่าว ฐานทัพเรือสัตหีบ และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางปราณี หรือเจ๊แม็ก นิ่มเรือง อายุ 33 ปี พักบ้านเลขที่ 63/22 ม.1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ข้อหา มียาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย ของกลางยาบ้า 40 เม็ด และธนบัตรล่อซื้อ 400 บาท นายวุฒิชัย หรือเบียร์ ศรีชนะ อายุ 25 ปี เสพยาบ้า นายสมาน หรือหยอง ภาสดา อายุ 28 ปี เสพยาบ้า และนายคำรณ หรือตุ่น ด่านซ้าย อายุ 31 ปี เสพยาบ้า
นายชวัฒน์ เทพทัพ ปลัดฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเบาะแสจากอดีตผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดว่า เจ๊แม็ก มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้า ให้กับกลุ่มคนงานก่อสร้าง และวัยรุ่น ในเขตพื้นที่พลูตาหลวง จึงส่งสายลับเข้าทำการล่อซื้อยาบ้า 2 เม็ด ในราคา 400 บาท หลังจับกุม ได้ทำการตรวจค้นในบ้านพัก พบยาบ้าอีกจำนวน 38 เม็ด ก่อนจะขยายผลจนนำไปสู่การจับกุมผู้เสพในเครือข่ายได้ทั้งหมด เบื้องต้น เจ๊แม็ก ให้การรับสารภาพรับยาบ้ามาจาก นายเบนซ์ มีบ้านพักอยู่หัวสนามบินอู่ตะเภา กม.12 อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ในราคาเม็ดละ 170 บาท ก่อนนำมาจำหน่ายในราคา 200 บาท เพื่อนำเงินไปซื้อนมเลี้ยงลูกอ่อน ที่พึ่งลืมตาดูโลกได้เพียงเดือนเศษ
ข่าวพัทยา การประชุมวิสามัญประจำปี 2556 ชมรมเรือท่องเมืองพัทยา
การประชุมวิสามัญประจำปี 2556 ชมรมเรือท่องเมืองพัทยา พร้อมลงทะเบียนสมาชิกและตรวจเอกสารความถูกต้องแบบปีต่อปี
นายสนิท บุญมาฉาย ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา เป็นประธานในการประชุมวิสามัญประจำปี 2556 ชมรมเรือท่องเมืองพัทยา โดยมีสมาชิกและผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวในเขตเมืองพัทยาเข้าร่วมประชุมกันกว่า 100 ราย ด้วยชมรมเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยาได้ครบวาระการลงทะเบียนสมาชิกชมรม ซึ่งเป็นสมาชิกแบบปีต่อปี พร้อมกันนั้นได้มีการตรวจเอกสารผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว สำหรับเจ้าของเรือและนายท้ายเรือ รวมถึงอุปกรณ์ของเรือที่จะให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน และสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ปัจจุบันทางชมรมเรือท่องเที่ยวมีสมาชิกทั้งสิ้นกว่า 120 ราย มีเรือท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนถูกต้องตามหลักของชมรมจำนวนกว่า 500 ลำ รวมทั้งเรือสปีดโบ๊ทและเจ็ตสกี ซึ่งผู้ขับเรือจะต้องมีใบนายท้ายเรือและใบช่างเครื่อง จึงจะลงทะเบียนสมาชิกในชมรมได้ นอกจากนี้ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวได้กำชับกับสมาชิก เรื่องการบำรุงรักษาเรือท่องเที่ยวและการตรวจสภาพ จำเป็นต้องตรวจสอบทุกวัน โดยเฉพาะอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น อาทิ เสื้อชูชีพ ถังดับเพลิง จะต้องมีเตรียมพร้อมอยู่ภายในเรือทุกครั้ง พร้อมกันนั้นได้กล่าวขอบคุณสมาชิก ที่ร่วมให้การช่วยเหลือในเหตุการณ์ไฟไหม้บนเรือที่ผ่านมาอย่างเต็มที่
นายสนิท บุญมาฉาย ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา เป็นประธานในการประชุมวิสามัญประจำปี 2556 ชมรมเรือท่องเมืองพัทยา โดยมีสมาชิกและผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวในเขตเมืองพัทยาเข้าร่วมประชุมกันกว่า 100 ราย ด้วยชมรมเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยาได้ครบวาระการลงทะเบียนสมาชิกชมรม ซึ่งเป็นสมาชิกแบบปีต่อปี พร้อมกันนั้นได้มีการตรวจเอกสารผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว สำหรับเจ้าของเรือและนายท้ายเรือ รวมถึงอุปกรณ์ของเรือที่จะให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน และสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ปัจจุบันทางชมรมเรือท่องเที่ยวมีสมาชิกทั้งสิ้นกว่า 120 ราย มีเรือท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนถูกต้องตามหลักของชมรมจำนวนกว่า 500 ลำ รวมทั้งเรือสปีดโบ๊ทและเจ็ตสกี ซึ่งผู้ขับเรือจะต้องมีใบนายท้ายเรือและใบช่างเครื่อง จึงจะลงทะเบียนสมาชิกในชมรมได้ นอกจากนี้ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวได้กำชับกับสมาชิก เรื่องการบำรุงรักษาเรือท่องเที่ยวและการตรวจสภาพ จำเป็นต้องตรวจสอบทุกวัน โดยเฉพาะอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น อาทิ เสื้อชูชีพ ถังดับเพลิง จะต้องมีเตรียมพร้อมอยู่ภายในเรือทุกครั้ง พร้อมกันนั้นได้กล่าวขอบคุณสมาชิก ที่ร่วมให้การช่วยเหลือในเหตุการณ์ไฟไหม้บนเรือที่ผ่านมาอย่างเต็มที่
Sunday, August 25, 2013
ข่าวพัทยา แข่งขันพูลพนักงานโรงแรมเมืองพัทยา
แข่งขันพูลพนักงานโรงแรมเมืองพัทยา
การแข่งขัน HOTELIER POOL TOURNAMENT รอบรองชนะเลิศ
16.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่ไดซ์ซี่ ไรลี่ย์ ไอริชผับ โรงแรมแมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ได้มีการแข่งขันพูล
พนักงานโรงแรมในเขตเมืองพัทยารอบรองชนะเลิศ การแข่งขันในรอบนี้แพ้ชนะกันที่5ต่อ9เฟรม คู่ที่ท่านชมอยู่นี้เป็นการโคจรมาพบกันระหว่างคุณกิจจาจากโรงแรมแมรีออท เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว พบกับคุณทีทิพย์จากโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ การแข่งขันใน8เฟรมที่ผ่านมา ทั้งสองทีมผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ และมาเสมอกันที่4ต่อ4 จึงมาดวลกันในเฟรมที่9 ทางด้านคุณทีทิพย์ได้แทงลูกเล่นก่อนลูกแตกแยกกระจายกันไปทั่วโต๊ะ และลูกสีลงหลุม ได้แทงลูกเล่นต่อไม้เดียวหมดโต๊ะ ท่านผู้ชมปรบมือให้ ด้านคู่ต่อสู้มาจับมือแสดงความยินดีที่คุณทีทิพย์จากฮอลิเดย์อินน์ ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศต่อไป ในวันที่25กรกฎาคม เวลา16.00 น.เป็นต้นไป
การแข่งขัน HOTELIER POOL TOURNAMENT รอบรองชนะเลิศ
16.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่ไดซ์ซี่ ไรลี่ย์ ไอริชผับ โรงแรมแมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ได้มีการแข่งขันพูล
พนักงานโรงแรมในเขตเมืองพัทยารอบรองชนะเลิศ การแข่งขันในรอบนี้แพ้ชนะกันที่5ต่อ9เฟรม คู่ที่ท่านชมอยู่นี้เป็นการโคจรมาพบกันระหว่างคุณกิจจาจากโรงแรมแมรีออท เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว พบกับคุณทีทิพย์จากโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ การแข่งขันใน8เฟรมที่ผ่านมา ทั้งสองทีมผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ และมาเสมอกันที่4ต่อ4 จึงมาดวลกันในเฟรมที่9 ทางด้านคุณทีทิพย์ได้แทงลูกเล่นก่อนลูกแตกแยกกระจายกันไปทั่วโต๊ะ และลูกสีลงหลุม ได้แทงลูกเล่นต่อไม้เดียวหมดโต๊ะ ท่านผู้ชมปรบมือให้ ด้านคู่ต่อสู้มาจับมือแสดงความยินดีที่คุณทีทิพย์จากฮอลิเดย์อินน์ ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศต่อไป ในวันที่25กรกฎาคม เวลา16.00 น.เป็นต้นไป
ข่าวชลบุรี พบหนุ่มใหญ่วัย 60 เสียชีวิตในรถ
พบหนุ่มใหญ่วัย 60 เสียชีวิตในรถ
หนุ่มใหญ่วัย 60 ไปปฎิบัติธรรมต่างจังหวัด ขากลับ เกิดเสียชีวิตคารถ โดยขับรถมาจอดริมถนนสาย 7 พร้อมสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์หลับตายริมถนน
19.30 น. วันที่ 23 ก.ค. ร.ต.ท.พิเชษฐ์ มีภู่เพ็ญ พนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ว่ามีชายนอนเสียชีวิตในรถเก๋ง ซึ่งติดเครื่องรถยนต์และเปิดแอร์ บริเวณข้างถนนริมทางบายพาสสาย 7 ตอน 3 หน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรี สาขาศรีราชา ฝั่งขาเข้าแหลมฉบัง ที่เกิดเหตุพบรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต สีขาว โดยรถได้ติดเครื่องทิ้งไว้และเปิดแอร์จนแบตเตอรี่รถหมด ภายในรถพบศพนายประชน สร้อยทอง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทขนส่งปานทอง ทรานสปอร์ต จำกัด นอนเสียชีวิตที่เบาะหน้าฝั่งคนขับ ลักษณะปรับเบาะเอนนอน มีเศษคราบอาเจียนที่เสื้อ จากนั้นจึงนำศพออกมาชันสูตรนอกรถ เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 ชั่วโมง จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ช่วงเวลา 10.00 น. ผู้ตายได้ขับรถมาจอดยังที่เกิดเหตุ โดยเปิดประตูออกมาอาเจียนอยู่สักพัก และก็เปิดแอร์ติดเครื่องเอนเบาะนอน ผ่านไปหลายชั่วโมงรถคันดังกล่าวยังจอดอยู่ จึงมองผ่านกระจกและเคาะกระจกเรียกหลายครั้ง แต่เจ้าของรถไม่ได้ยิน และไม่มีการตอบรับ เกรงว่าจะเสียชีวิต ก่อนโทรแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ จากการสอบถามนางสาวอรพิน สร้อยทอง ลูกสาวได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ พ่อได้โทรเข้ามาหาและบอกว่าจะกลับบ้าน หลังจากที่ไปปฏิบัติธรรมที่ จ.ฉะเชิงเทรา และเดินทางกลับ จนมาช่วยบ่ายตนได้ติดต่อพ่อแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ จึงคิดว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์หมด จนมาได้รับแจ้งอีกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ตายคงไม่สบายและอ่อนเพลีย จึงสตาร์ทรถเปิดแอร์รถไว้ พอเผลอหลับเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน หรืออาจจะเกิดจากโรคประจำตัว และอาจจะแบตเตอรี่หมดเครื่องยนต์ดับทำให้ไม่มีอากาศหายใจ โดยได้มอบศพให้หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.แหลมฉบัง เพื่อให้ทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
หนุ่มใหญ่วัย 60 ไปปฎิบัติธรรมต่างจังหวัด ขากลับ เกิดเสียชีวิตคารถ โดยขับรถมาจอดริมถนนสาย 7 พร้อมสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์หลับตายริมถนน
19.30 น. วันที่ 23 ก.ค. ร.ต.ท.พิเชษฐ์ มีภู่เพ็ญ พนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ว่ามีชายนอนเสียชีวิตในรถเก๋ง ซึ่งติดเครื่องรถยนต์และเปิดแอร์ บริเวณข้างถนนริมทางบายพาสสาย 7 ตอน 3 หน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรี สาขาศรีราชา ฝั่งขาเข้าแหลมฉบัง ที่เกิดเหตุพบรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต สีขาว โดยรถได้ติดเครื่องทิ้งไว้และเปิดแอร์จนแบตเตอรี่รถหมด ภายในรถพบศพนายประชน สร้อยทอง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทขนส่งปานทอง ทรานสปอร์ต จำกัด นอนเสียชีวิตที่เบาะหน้าฝั่งคนขับ ลักษณะปรับเบาะเอนนอน มีเศษคราบอาเจียนที่เสื้อ จากนั้นจึงนำศพออกมาชันสูตรนอกรถ เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 ชั่วโมง จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ช่วงเวลา 10.00 น. ผู้ตายได้ขับรถมาจอดยังที่เกิดเหตุ โดยเปิดประตูออกมาอาเจียนอยู่สักพัก และก็เปิดแอร์ติดเครื่องเอนเบาะนอน ผ่านไปหลายชั่วโมงรถคันดังกล่าวยังจอดอยู่ จึงมองผ่านกระจกและเคาะกระจกเรียกหลายครั้ง แต่เจ้าของรถไม่ได้ยิน และไม่มีการตอบรับ เกรงว่าจะเสียชีวิต ก่อนโทรแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ จากการสอบถามนางสาวอรพิน สร้อยทอง ลูกสาวได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ พ่อได้โทรเข้ามาหาและบอกว่าจะกลับบ้าน หลังจากที่ไปปฏิบัติธรรมที่ จ.ฉะเชิงเทรา และเดินทางกลับ จนมาช่วยบ่ายตนได้ติดต่อพ่อแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ จึงคิดว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์หมด จนมาได้รับแจ้งอีกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ตายคงไม่สบายและอ่อนเพลีย จึงสตาร์ทรถเปิดแอร์รถไว้ พอเผลอหลับเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน หรืออาจจะเกิดจากโรคประจำตัว และอาจจะแบตเตอรี่หมดเครื่องยนต์ดับทำให้ไม่มีอากาศหายใจ โดยได้มอบศพให้หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.แหลมฉบัง เพื่อให้ทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
ข่าวสัตหีบ พ่อค้าล็อตเตอรี่วัดสัตหีบน้ำใจงาม ส่งกระเป๋าสตางค์คืนเจ้าของ
พ่อค้าล็อตเตอรี่วัดสัตหีบน้ำใจงาม ส่งกระเป๋าสตางค์คืนเจ้าของ
เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 23 ก.ค.56 นายสุทิน สีหานาถ อายุ 36 ปี พ่อค้าขายล็อตเตอรี่ ภายในวัดสัตหีบ (หลวงปู่อี๋) ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้เข้าพบสื่อมวลชนในการประชาสัมพันธ์ ประกาศตามหาเจ้าของกระเป๋าสตางค์ ที่เก็บได้ภายในห้องน้ำวัด ภายในพบเงินสด 630 บาท บัตรเอทีเอ็ม ใบขับขี่รถยนต์ สลากกินแบ่งรัฐบาล 1 คู่ เลข 803530 และบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ นายขวัญคม สายบุตร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.7 ต.โคกสาร อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ
นายสุทิน สีหานาถ พ่อค้าขายล็อตเตอรี่ เปิดเผยว่า ได้นั่งขายล็อตเตอรี่ให้กับนักท่องเที่ยว และลูกศิษย์ ที่เดินทางมากราบไหว้หลวงปู่อี๋ในวัดสัตหีบ เนื่องในวันเข้าพรรษากันเป็นจำนวนมาก ขณะเดินมาเข้าห้องน้ำในวัด ได้พบกระเป๋าสตางค์ตกอยู่ จึงหยิบมาดูพบมีเงินสด และบัตรประจำตัวเจ้าของกระเป๋า เอกสาร และบัตรสำคัญต่าง ๆ จึงอยากให้เจ้าของได้รับคืน ได้พยายามเดินตามหาแล้วแต่ไม่พบ จึงเดินทางเข้าพบสื่อมวลชน ในการประชาสัมพันธ์ออกติดตามหาเจ้าของ ไม่นาน นายขวัญคม สายบุตร เจ้าของกระเป๋าได้ทราบข่าว จึงได้มาติดต่อขอรับคืน พร้อมแสดงการขอบคุณ และอุดหนุนล็อตเตอรี่ จำนวน 2 คู่ เป็นการตอบแทนที่พ่อค้ามีน้ำใจดีงาม อีกด้วย
เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 23 ก.ค.56 นายสุทิน สีหานาถ อายุ 36 ปี พ่อค้าขายล็อตเตอรี่ ภายในวัดสัตหีบ (หลวงปู่อี๋) ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้เข้าพบสื่อมวลชนในการประชาสัมพันธ์ ประกาศตามหาเจ้าของกระเป๋าสตางค์ ที่เก็บได้ภายในห้องน้ำวัด ภายในพบเงินสด 630 บาท บัตรเอทีเอ็ม ใบขับขี่รถยนต์ สลากกินแบ่งรัฐบาล 1 คู่ เลข 803530 และบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ นายขวัญคม สายบุตร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.7 ต.โคกสาร อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ
นายสุทิน สีหานาถ พ่อค้าขายล็อตเตอรี่ เปิดเผยว่า ได้นั่งขายล็อตเตอรี่ให้กับนักท่องเที่ยว และลูกศิษย์ ที่เดินทางมากราบไหว้หลวงปู่อี๋ในวัดสัตหีบ เนื่องในวันเข้าพรรษากันเป็นจำนวนมาก ขณะเดินมาเข้าห้องน้ำในวัด ได้พบกระเป๋าสตางค์ตกอยู่ จึงหยิบมาดูพบมีเงินสด และบัตรประจำตัวเจ้าของกระเป๋า เอกสาร และบัตรสำคัญต่าง ๆ จึงอยากให้เจ้าของได้รับคืน ได้พยายามเดินตามหาแล้วแต่ไม่พบ จึงเดินทางเข้าพบสื่อมวลชน ในการประชาสัมพันธ์ออกติดตามหาเจ้าของ ไม่นาน นายขวัญคม สายบุตร เจ้าของกระเป๋าได้ทราบข่าว จึงได้มาติดต่อขอรับคืน พร้อมแสดงการขอบคุณ และอุดหนุนล็อตเตอรี่ จำนวน 2 คู่ เป็นการตอบแทนที่พ่อค้ามีน้ำใจดีงาม อีกด้วย
ข่าวพัทยา สัมมนาและเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว
สัมมนาและเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว
ซิป้าจัดสัมมนาและเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เตรียมดึงระบบซอฟแวร์เข้าใช้งานด้านธุรกิจการท่องเที่ยวรับมือประเทศอาเซียน
ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟแวร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน) ได้จัดกิจกรรมสัมมนาและเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โดยมีผู้ประกอบการด้านซอฟแวร์ ด้านการโรงแรม การท่องเที่ยว ร้านอาหารในเขตเมืองพัทยา และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงบริษัทผู้ประกอบการซอฟแวร์ด้านการท่องเที่ยว ร่วมการสัมมนา โดย SIPA (ซิป้า) ได้รวบรวบทรัพยากรด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟแวร์และดิจิทัลคอนเทนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้ประกอบการไทยได้มีที่ปรึกษาพึ่งพาในการทำงาน และนำไปสู่การพัฒนาผลงานซอฟแวร์คุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับสากล ในด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจุบันระบบซอฟแวร์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน เเท็ปเล็ต อุปกรณ์โมบายต่างๆ ล้วนเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตเป็นอย่างมาก เพื่อการเดินทางเข้าสู่ประเทศอาเซียน ที่จะต้องมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร กรุ๊ปทัวร์ท่องเที่ยวต่างๆ จึงควรเรียนรู้ถึงระบบการใช้งานของซอฟแวร์ให้มากขึ้น ในปีนี้ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 689 ล้านเครื่อง คาดว่าในปี 2014 ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลก น่าจะถึง 1.05 พันล้านเครื่องทั่วโลก ระบบซอฟแวร์จึงเป็นระบบบริหารจัดการที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของผู้ประกอบการได้มาก โดยสามารถตรวจสอบยอดขายและต้นทุนการดำเนินงานจากที่ใดและเวลาใดก็ได้ อีกทั้งยังมีรายงานที่อ่านเข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์ในการวางแผนและตัดสินใจ ลดขั้นตอนการทำงานของพนักงาน เพิ่มความแม่นยำในทุกขั้นตอนการทำงาน เพื่อสร้างธุรกิจให้ทันสมัย
ซิป้าจัดสัมมนาและเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เตรียมดึงระบบซอฟแวร์เข้าใช้งานด้านธุรกิจการท่องเที่ยวรับมือประเทศอาเซียน
ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟแวร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน) ได้จัดกิจกรรมสัมมนาและเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โดยมีผู้ประกอบการด้านซอฟแวร์ ด้านการโรงแรม การท่องเที่ยว ร้านอาหารในเขตเมืองพัทยา และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงบริษัทผู้ประกอบการซอฟแวร์ด้านการท่องเที่ยว ร่วมการสัมมนา โดย SIPA (ซิป้า) ได้รวบรวบทรัพยากรด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟแวร์และดิจิทัลคอนเทนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้ประกอบการไทยได้มีที่ปรึกษาพึ่งพาในการทำงาน และนำไปสู่การพัฒนาผลงานซอฟแวร์คุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับสากล ในด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจุบันระบบซอฟแวร์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน เเท็ปเล็ต อุปกรณ์โมบายต่างๆ ล้วนเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตเป็นอย่างมาก เพื่อการเดินทางเข้าสู่ประเทศอาเซียน ที่จะต้องมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร กรุ๊ปทัวร์ท่องเที่ยวต่างๆ จึงควรเรียนรู้ถึงระบบการใช้งานของซอฟแวร์ให้มากขึ้น ในปีนี้ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 689 ล้านเครื่อง คาดว่าในปี 2014 ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลก น่าจะถึง 1.05 พันล้านเครื่องทั่วโลก ระบบซอฟแวร์จึงเป็นระบบบริหารจัดการที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของผู้ประกอบการได้มาก โดยสามารถตรวจสอบยอดขายและต้นทุนการดำเนินงานจากที่ใดและเวลาใดก็ได้ อีกทั้งยังมีรายงานที่อ่านเข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์ในการวางแผนและตัดสินใจ ลดขั้นตอนการทำงานของพนักงาน เพิ่มความแม่นยำในทุกขั้นตอนการทำงาน เพื่อสร้างธุรกิจให้ทันสมัย
ข่าวพัทยา โครงการเผยแพร่ความรู้กฎหมายและการระงับข้อพิพาท
โครงการเผยแพร่ความรู้กฎหมายและการระงับข้อพิพาท
ศาลจังหวัดพัทยาจัดโครงการเผยแพร่ความรู้กฎหมายและการระงับข้อพิพาทแก่นักเรียนและผู้นำชุมชน หรือองค์กรท้องถิ่นที่ ทต.บางละมุง
ที่ห้องประชุมกาลัญญุตา ทต.บางละมุง ศาลจังหวัดพัทยาได้จัดโครงการเผยแพร่ความรู้กฎหมายและการระงับข้อพิพาทแก่นักเรียนและผู้นำชุมชนหรือองค์กรท้องถิ่น โดยท่านอภิชาติ เทพหนู ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ กฎหมายกับการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งมีนาย
กฤตภพ เพ็ญจันทร์ รองนายกเทศมนตรี ทต.บางละมุง กล่าวต้อนรับ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมพัฒนางานด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาล จากความเจริญอย่างรวดเร็วในเมืองพัทยา นำมาซึ่งปัญหาความซับซ้อนทางสังคมและการขยายตัวของประชากรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ชุมชนจำเป็นต้องมีการปรับตัว รับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ในปัญหาต่างๆ ทั้งการก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ส่งผลให้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีเข้ามาสู่ศาลจำนวนมาก ทำให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ดังนั้นจึงได้ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจกฎหมายเบื้องต้น และการระงับข้อพิพาท ให้แก่ชุมชนและประชาชนให้มีความเข้มแข็ง เพื่อจะสามารถหยุดยั้งหรือชลอปัญหาต่างๆ มิให้ลุกลามหนักขึ้นตามมาภายหลังได้
ศาลจังหวัดพัทยาจัดโครงการเผยแพร่ความรู้กฎหมายและการระงับข้อพิพาทแก่นักเรียนและผู้นำชุมชน หรือองค์กรท้องถิ่นที่ ทต.บางละมุง
ที่ห้องประชุมกาลัญญุตา ทต.บางละมุง ศาลจังหวัดพัทยาได้จัดโครงการเผยแพร่ความรู้กฎหมายและการระงับข้อพิพาทแก่นักเรียนและผู้นำชุมชนหรือองค์กรท้องถิ่น โดยท่านอภิชาติ เทพหนู ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ กฎหมายกับการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งมีนาย
กฤตภพ เพ็ญจันทร์ รองนายกเทศมนตรี ทต.บางละมุง กล่าวต้อนรับ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมพัฒนางานด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาล จากความเจริญอย่างรวดเร็วในเมืองพัทยา นำมาซึ่งปัญหาความซับซ้อนทางสังคมและการขยายตัวของประชากรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ชุมชนจำเป็นต้องมีการปรับตัว รับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ในปัญหาต่างๆ ทั้งการก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ส่งผลให้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีเข้ามาสู่ศาลจำนวนมาก ทำให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ดังนั้นจึงได้ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจกฎหมายเบื้องต้น และการระงับข้อพิพาท ให้แก่ชุมชนและประชาชนให้มีความเข้มแข็ง เพื่อจะสามารถหยุดยั้งหรือชลอปัญหาต่างๆ มิให้ลุกลามหนักขึ้นตามมาภายหลังได้
ข่าวพัทยา หนุ่มขับปิกอัพเสยท้าย จยย.ที่ปาดหน้า ดับ 1 ราย
หนุ่มขับปิกอัพเสยท้าย จยย.ที่ปาดหน้า ดับ 1 ราย
หนุ่มขับปิกอัพจากสัตหีบรีบไปส่งสินค้าที่นาเกลือ ถูกรถ จยย.ปาดหน้ากะทันหันเลยเบรคไม่อยู่เสยท้ายดับอนาถ
05.30 น. วันที่ 23 ส.ค. ร.ต.ท.สุพรรรณ โสภี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถ จยย. มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท ฝั่งข้าเข้าชลบุรี ใกล้เคียงแยกไฟสัญญาณจราจร ปากซอยพรประภานิมิตร พัทยากลาง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นแอร์เบรด ล้มคว่ำอยู่ในสภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบศพนายสุรัตน์ สุขมี อายุ 29 ปี สภาพศพคอหัก ตามร่างกายมีบาดแผลถลอกหลายแห่ง ถัดไปประมาณ 5 เมตร มีรถยนต์ปิกอัพ อีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีบอร์นเงิน ซึ่งบรรทุกสินค้าเบ็ดเตล็ดมาเต็มคันรถ จอดอยู่สภาพหน้ารถพังเสียหาย มีนายสุวิชัย กรสิริกุล อายุ 32 ปี คนขับ ยืนรอตำรวจอยู่พร้อมกับให้การว่า ขณะขับรถจาก อ.สัตหีบ จะไปส่งของที่ตลาดนาเกลือ จนมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ตายได้ขับรถ จยย.ปาดหน้าจากเลนซ้ายมาเลนขวาอย่างกระชั้นชิด ทำให้เบรกไม่ทัน พุ่งชนท้ายอย่างจัง ทำให้รถ จยย.ล้มคว่ำตัวคนลื่นไถลไปตามพื้นถนนเสียชีวิตคาที่ ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นตำรวจจึงควบคุมตัวนายสุวิชัย คนขับรถปิกอัพ ไปดำเนินคดีในข้อหาขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนนำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.บางละมุง เพื่อรอญาติมาติดต่อรับไปดำเนินการต่อไป
หนุ่มขับปิกอัพจากสัตหีบรีบไปส่งสินค้าที่นาเกลือ ถูกรถ จยย.ปาดหน้ากะทันหันเลยเบรคไม่อยู่เสยท้ายดับอนาถ
05.30 น. วันที่ 23 ส.ค. ร.ต.ท.สุพรรรณ โสภี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถ จยย. มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท ฝั่งข้าเข้าชลบุรี ใกล้เคียงแยกไฟสัญญาณจราจร ปากซอยพรประภานิมิตร พัทยากลาง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นแอร์เบรด ล้มคว่ำอยู่ในสภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบศพนายสุรัตน์ สุขมี อายุ 29 ปี สภาพศพคอหัก ตามร่างกายมีบาดแผลถลอกหลายแห่ง ถัดไปประมาณ 5 เมตร มีรถยนต์ปิกอัพ อีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีบอร์นเงิน ซึ่งบรรทุกสินค้าเบ็ดเตล็ดมาเต็มคันรถ จอดอยู่สภาพหน้ารถพังเสียหาย มีนายสุวิชัย กรสิริกุล อายุ 32 ปี คนขับ ยืนรอตำรวจอยู่พร้อมกับให้การว่า ขณะขับรถจาก อ.สัตหีบ จะไปส่งของที่ตลาดนาเกลือ จนมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ตายได้ขับรถ จยย.ปาดหน้าจากเลนซ้ายมาเลนขวาอย่างกระชั้นชิด ทำให้เบรกไม่ทัน พุ่งชนท้ายอย่างจัง ทำให้รถ จยย.ล้มคว่ำตัวคนลื่นไถลไปตามพื้นถนนเสียชีวิตคาที่ ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นตำรวจจึงควบคุมตัวนายสุวิชัย คนขับรถปิกอัพ ไปดำเนินคดีในข้อหาขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนนำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.บางละมุง เพื่อรอญาติมาติดต่อรับไปดำเนินการต่อไป
ข่าวชลบุรี เด็กแฝดถูกแม่ใจร้ายนำมาทิ้ง
เด็กแฝดถูกแม่ใจร้ายนำมาทิ้ง
เด็กแฝดอายุกว่า 6 เดือน ถูกแม่ใจร้ายนำมาทิ้งบนสะพานลอย เขตอำเภอบ้านบึง เจ้าหน้าที่ รพ.บ้านบึง ตรวจสอบพบเด็กมีการพัฒนาช้า ด้าน ตร.เตรียมตรวจสอบตาม รพ.ว่าใครมาคลอดเด็กแฝดบ้างหรือไม่
จากกรณีที่มีแม่ใจร้ายนำลูกน้อยฝาแฝดเพศหญิงที่ทิ้งไว้ที่สะพานลอยคนข้าม หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี บ้านบึง
โดยนายสาธิต พิพัฒน์วงศ์สถิต เจ้าหน้าที่ มูลนิธิสว่างเหตุศีลธรรม บ้านบึง เป็นคนแรกที่ไปพบเปิดเผยว่า เด็ก 2 คนถูกใส่มาในกล่องกระดาษ
โดยมีตะกร้านมและตะกร้าเสื้อผ้าอยู่ข้างๆ
นอกจากนี้ยังมีจดหมายจากแม่ของเด็กที่ตัดพ้อว่าไ ม่มีเงินรักษาเด็ก ในขณะที่ตัวเองมีหนี้สินมาก แถมพ่อของเด็กก็ทิ้งไป จึงตัดสินใจนำเด็กทั้ง 2 มาทิ้งไว้เพื่อให้คนใจบุญนำเด็กไปเลี้ยงต่อ ล่าสุดทางนางกัลยาณี สุเมธีวัฒนกุล พยาบาลชำนาญการโรงพยาบาลบ้านบึง กล่าวว่า เด็กทั้ง 2 คนไม่มีร่องร่อยถูกทำร้าย แต่มีการพัฒนาช้า โดยคนที่ตัวโต หนัก 5.67 กิโลกรัม สูง 64 เซ็นติเมตร ส่วนอีกคน หนัก 5.25 กิโลกรัม สูง 55 เซ็นติเมตร จากการดูการงอกของฟัน คาดว่าเด็กน่าจะอายุ 6 เดือนขึ้นไป ตอนนี้ทางโรงพยาบาลต้องการรับการสนับสนุนเรื่องนมผง แพมเพิร์ส และรถเข็นสำหรับเด็กอ่อน เพราะขณะนี้ยืมเปลของคนไข้มาใช้เลี้ยงเด็กทั้ง 2 ไปก่อน ด้าน พ.ต.อ.เสมอ อ่อนมั่ง ผกก.สภ.บ้านบึง เปิดเผยว่า จะประสานให้โรงพยาบาลตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลและสถานีอนามัยต่างๆ ว่ามีเด็กแฝดมาคลอดในช่วงปีนี้หรือไม่ เพื่อติดตามหาพ่อแม่ของเด็ก และฝากให้ประชาชนที่ทราบว่าเด็ก 2 คนนี้เป็นลูกใคร สามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามตัวพ่อแม่มารับเด็กไปเลี้ยง
เด็กแฝดอายุกว่า 6 เดือน ถูกแม่ใจร้ายนำมาทิ้งบนสะพานลอย เขตอำเภอบ้านบึง เจ้าหน้าที่ รพ.บ้านบึง ตรวจสอบพบเด็กมีการพัฒนาช้า ด้าน ตร.เตรียมตรวจสอบตาม รพ.ว่าใครมาคลอดเด็กแฝดบ้างหรือไม่
จากกรณีที่มีแม่ใจร้ายนำลูกน้อยฝาแฝดเพศหญิงที่ทิ้งไว้ที่สะพานลอยคนข้าม หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี บ้านบึง
โดยนายสาธิต พิพัฒน์วงศ์สถิต เจ้าหน้าที่ มูลนิธิสว่างเหตุศีลธรรม บ้านบึง เป็นคนแรกที่ไปพบเปิดเผยว่า เด็ก 2 คนถูกใส่มาในกล่องกระดาษ
โดยมีตะกร้านมและตะกร้าเสื้อผ้าอยู่ข้างๆ
นอกจากนี้ยังมีจดหมายจากแม่ของเด็กที่ตัดพ้อว่าไ ม่มีเงินรักษาเด็ก ในขณะที่ตัวเองมีหนี้สินมาก แถมพ่อของเด็กก็ทิ้งไป จึงตัดสินใจนำเด็กทั้ง 2 มาทิ้งไว้เพื่อให้คนใจบุญนำเด็กไปเลี้ยงต่อ ล่าสุดทางนางกัลยาณี สุเมธีวัฒนกุล พยาบาลชำนาญการโรงพยาบาลบ้านบึง กล่าวว่า เด็กทั้ง 2 คนไม่มีร่องร่อยถูกทำร้าย แต่มีการพัฒนาช้า โดยคนที่ตัวโต หนัก 5.67 กิโลกรัม สูง 64 เซ็นติเมตร ส่วนอีกคน หนัก 5.25 กิโลกรัม สูง 55 เซ็นติเมตร จากการดูการงอกของฟัน คาดว่าเด็กน่าจะอายุ 6 เดือนขึ้นไป ตอนนี้ทางโรงพยาบาลต้องการรับการสนับสนุนเรื่องนมผง แพมเพิร์ส และรถเข็นสำหรับเด็กอ่อน เพราะขณะนี้ยืมเปลของคนไข้มาใช้เลี้ยงเด็กทั้ง 2 ไปก่อน ด้าน พ.ต.อ.เสมอ อ่อนมั่ง ผกก.สภ.บ้านบึง เปิดเผยว่า จะประสานให้โรงพยาบาลตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลและสถานีอนามัยต่างๆ ว่ามีเด็กแฝดมาคลอดในช่วงปีนี้หรือไม่ เพื่อติดตามหาพ่อแม่ของเด็ก และฝากให้ประชาชนที่ทราบว่าเด็ก 2 คนนี้เป็นลูกใคร สามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามตัวพ่อแม่มารับเด็กไปเลี้ยง
Twins Abandoned Opposite Big C supermarket in Bang Bung
Police are trying to trace the mother who abandoned her children on a pedestrian footbridge in Bang Bung. The twin baby girls aged about 6 months old were found in a cardboard box that had been left on a pedestrian footbridge opposite Big C supermarket in Bang Bung. The mother had also left some baby formula and baby clothes along with a note
The letter from the mother explained that the children's father had abandoned them and she had no money to support or feed the children and she hoped that a person with a good heart would find the children and take care of them.
The children were taken to Bang Bung hospital for health checks to be carried out. A specialist paediatric nurse at the hospital gave a statement after the examination that the children appeared to be about 6 months old as that could be determined from the stage of teething. They bore no signs of physical injury or abuse but were undernourished and underweight for their age one weighing 5.67Kg with a height of 64 centimeters and the other 5.25Kg and a height of 55 centimeters.
The police meanwhile are trying to trace the parents and are checking with hospitals in the area to find out what women have given birth to twins around 6 months ago. They may not have been born in a hospital so the police are appealing to the general public to come forward with information if they know of any mother with twins of this age live in their community.
The letter from the mother explained that the children's father had abandoned them and she had no money to support or feed the children and she hoped that a person with a good heart would find the children and take care of them.
The children were taken to Bang Bung hospital for health checks to be carried out. A specialist paediatric nurse at the hospital gave a statement after the examination that the children appeared to be about 6 months old as that could be determined from the stage of teething. They bore no signs of physical injury or abuse but were undernourished and underweight for their age one weighing 5.67Kg with a height of 64 centimeters and the other 5.25Kg and a height of 55 centimeters.
The police meanwhile are trying to trace the parents and are checking with hospitals in the area to find out what women have given birth to twins around 6 months ago. They may not have been born in a hospital so the police are appealing to the general public to come forward with information if they know of any mother with twins of this age live in their community.
ข่าวชลบุรี เกิดเหตุรถ 18 ล้อพ่วง หลับในเข้าชนท้ายรถบรรทุกก๊าซ LPG
เกิดเหตุรถ 18 ล้อพ่วง หลับในเข้าชนท้ายรถบรรทุกก๊าซ LPG บนถนนมอเตอร์เวย์ ขาเข้ากรุงเทพ ฯ และโชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต
เมื่อช่วงกลางของคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ สมชาย เสมรอด ร้อยเวร สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 เขาดิน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัยไตรคุณธรรมว่ามีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนท้ายรถบรรทุกก๊าซ LPG และมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ บนถนนสายมอเตอร์เวย์ หลักกิโลเมตรที่ 57 ฝั่งขาเขากรุงเทพ หมู่ที่ 3 ตำบลบางนาง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้พบรถบรรทุก สิบล้อ บรรทุกก๊าซ LPG ยี่ห้ออีชูชุ หัวสีขาว หมายเลขทะเบียน78-7388 กทม.ซึ่งบรรทุกก๊าซ LPG มา 6000 ลิตร ของ บริษัท พีเอพี โซลูชั้น จำกัด จอดอยู่ไหล่ทาง นายวิเชียร สุฤทธิ์ อายุ 28 ปี คนขับรถบรรทุกก๊าชคันดังกล่าวและช่วงท้ายรถบรรทุกก๊าซ LPG รถ พ่วง18 ล้ออีชูชุ หัวสีขาว หมายเลขทะเบียน ส่วนหัว 82-1216 ชลบุรี ส่วนหาง84-6565 ชลบุรี ชนติดอยู่กับท้ายรถบรรทุกก๊าซ LPG และนายพยนต์ ภูสุข อายุ 40 ปี เป็นขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อบรรทุกขี้ปาล์มมาเต็มคันรถ และร่างของนายนายพยนต์ ยังโดนคอนโซลของรถกดทับติดแน่นอยู่อาการสาหัส กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยชีวิตออกมานานกว่า 1ชั่วโมงเพราะต้องใช้ความระมัดระวัง
จากการสอบถามนายวิเชียร คนขับรถบรรทุกก๊าซ ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าตนได้รับก๊าซที่ท่าเรือแหลมฉบัง และกำลังจะไปส่งก๊าซที่ กรุงเทพ พอมาถึงที่เกิดเหตุตนได้จอดรถพักเครื่องรถอยู่สักพักก็มีรถบรรทุกพ่างคันดังกล่าวได้วิ่งมาชนอย่างเต็มแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่านายพยนต์คนขับรถบรรทุก พ่วง 18 ล้อ คงจะหลับใน จึงทำให้เป็นเหตุดังกล่าว
เมื่อช่วงกลางของคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ สมชาย เสมรอด ร้อยเวร สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 เขาดิน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัยไตรคุณธรรมว่ามีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนท้ายรถบรรทุกก๊าซ LPG และมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ บนถนนสายมอเตอร์เวย์ หลักกิโลเมตรที่ 57 ฝั่งขาเขากรุงเทพ หมู่ที่ 3 ตำบลบางนาง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้พบรถบรรทุก สิบล้อ บรรทุกก๊าซ LPG ยี่ห้ออีชูชุ หัวสีขาว หมายเลขทะเบียน78-7388 กทม.ซึ่งบรรทุกก๊าซ LPG มา 6000 ลิตร ของ บริษัท พีเอพี โซลูชั้น จำกัด จอดอยู่ไหล่ทาง นายวิเชียร สุฤทธิ์ อายุ 28 ปี คนขับรถบรรทุกก๊าชคันดังกล่าวและช่วงท้ายรถบรรทุกก๊าซ LPG รถ พ่วง18 ล้ออีชูชุ หัวสีขาว หมายเลขทะเบียน ส่วนหัว 82-1216 ชลบุรี ส่วนหาง84-6565 ชลบุรี ชนติดอยู่กับท้ายรถบรรทุกก๊าซ LPG และนายพยนต์ ภูสุข อายุ 40 ปี เป็นขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อบรรทุกขี้ปาล์มมาเต็มคันรถ และร่างของนายนายพยนต์ ยังโดนคอนโซลของรถกดทับติดแน่นอยู่อาการสาหัส กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยชีวิตออกมานานกว่า 1ชั่วโมงเพราะต้องใช้ความระมัดระวัง
จากการสอบถามนายวิเชียร คนขับรถบรรทุกก๊าซ ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าตนได้รับก๊าซที่ท่าเรือแหลมฉบัง และกำลังจะไปส่งก๊าซที่ กรุงเทพ พอมาถึงที่เกิดเหตุตนได้จอดรถพักเครื่องรถอยู่สักพักก็มีรถบรรทุกพ่างคันดังกล่าวได้วิ่งมาชนอย่างเต็มแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่านายพยนต์คนขับรถบรรทุก พ่วง 18 ล้อ คงจะหลับใน จึงทำให้เป็นเหตุดังกล่าว
ข่าวสัตหีบ โจ๋ 18 น้อยใจเพื่อน ดมน้ำมันเบนซินย้อมใจ ก่อนชิงผูกคอลาโลก
โจ๋ 18 น้อยใจเพื่อน ดมน้ำมันเบนซินย้อมใจ ก่อนชิงผูกคอลาโลก
สุดสลด...โจ๋วัย 18 น้อยใจเพื่อนต่อว่าไม่มีเวลาให้กัน นั่งดมน้ำมันเบนซินย้อมใจ ก่อนปีนขึ้นต้นมะขาม ใช้เชือกผูกคอลาโลก เซ่นความรักที่มีต่อเพื่อน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.45 น.วันที่ 23 ส.ค.56 ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายใต้ต้นมะขาม ภายในสวนบ้านเลขที่ 54/1 ม.1 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิ สว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุใต้ต้นมะขามขนาดใหญ่พบศพ นายอภิวัฒน์ หรือกอล์ฟ ร่มเย็น อายุ 18 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้น ในชุดเสื้อยืดแขนสั้น สีเลือดหมู กางเกงขาสั้น สีดำ สภาพลิ้นจุกปาก ที่ลำคอมีเชือกไนล่อนสีขาวพันติดอยู่ สภาพขาดครึ่ง อีกส่วนพันติดอยู่กับกิ่งไม้ บนความสูงประมาณ 3 เมตร จากการชันสูตรพลิกศพ ไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกฆาตกรรม เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมี นางพจนีย์ ทองโต อายุ 35 ปี มารดา กำลังกอดศพลูกร้องไห้ปิ่มแทบขาดใจ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ได้นำร่างผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรยังโรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 ก่อนให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศล
สอบถาม นางพจนีย์ ทองโต อายุ 35 ปี มารดาผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายเป็นคนติดเพื่อน แต่จะไม่ค่อยปล่อยให้ลูกออกจากบ้านไปไหน จะมีก็แต่เพื่อนเวียนไปมาหาสู่ ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เห็นลูกชายมีอาการซึมเศร้า ทราบเพียงว่า มีปัญหากับกลุ่มเพื่อน ถูกเพื่อนต่อว่าไม่มีเวลาให้กัน โดยไม่คิดว่าลูกชายจะมาน้อยใจ ประชดชีวิตด้วยการ สูดดมน้ำมันเบนซิน ก่อนชิงฆ่าตัวตายด้วยการผูกกับต้นมะขาม ก่อนมีเพื่อนบ้านมาพบ ใช้มีดตัดช่วยชีวิตลงจากต้นไม้ แต่สายเกินกาล
สุดสลด...โจ๋วัย 18 น้อยใจเพื่อนต่อว่าไม่มีเวลาให้กัน นั่งดมน้ำมันเบนซินย้อมใจ ก่อนปีนขึ้นต้นมะขาม ใช้เชือกผูกคอลาโลก เซ่นความรักที่มีต่อเพื่อน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.45 น.วันที่ 23 ส.ค.56 ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายใต้ต้นมะขาม ภายในสวนบ้านเลขที่ 54/1 ม.1 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิ สว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุใต้ต้นมะขามขนาดใหญ่พบศพ นายอภิวัฒน์ หรือกอล์ฟ ร่มเย็น อายุ 18 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้น ในชุดเสื้อยืดแขนสั้น สีเลือดหมู กางเกงขาสั้น สีดำ สภาพลิ้นจุกปาก ที่ลำคอมีเชือกไนล่อนสีขาวพันติดอยู่ สภาพขาดครึ่ง อีกส่วนพันติดอยู่กับกิ่งไม้ บนความสูงประมาณ 3 เมตร จากการชันสูตรพลิกศพ ไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกฆาตกรรม เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมี นางพจนีย์ ทองโต อายุ 35 ปี มารดา กำลังกอดศพลูกร้องไห้ปิ่มแทบขาดใจ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ได้นำร่างผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรยังโรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 ก่อนให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศล
สอบถาม นางพจนีย์ ทองโต อายุ 35 ปี มารดาผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายเป็นคนติดเพื่อน แต่จะไม่ค่อยปล่อยให้ลูกออกจากบ้านไปไหน จะมีก็แต่เพื่อนเวียนไปมาหาสู่ ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เห็นลูกชายมีอาการซึมเศร้า ทราบเพียงว่า มีปัญหากับกลุ่มเพื่อน ถูกเพื่อนต่อว่าไม่มีเวลาให้กัน โดยไม่คิดว่าลูกชายจะมาน้อยใจ ประชดชีวิตด้วยการ สูดดมน้ำมันเบนซิน ก่อนชิงฆ่าตัวตายด้วยการผูกกับต้นมะขาม ก่อนมีเพื่อนบ้านมาพบ ใช้มีดตัดช่วยชีวิตลงจากต้นไม้ แต่สายเกินกาล
Friday, August 23, 2013
ข่าวพัทยา ประชุมเตรียมการแข่งขันกอล์ฟของสมาคมกอล์ฟสัตยา
ประชุมเตรียมการแข่งขันกอล์ฟของสมาคมกอล์ฟสัตยา
การประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันกอล์ฟของสมาคมกอล์ฟสัตยา โดยได้มี 2 สปอนเซอร์ร่วมมอบเงินสนับสนุนการแข่งขัน อีกรายละ 100,000 บาท
19.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม ได้มีการจัดการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันกอล์ฟของสมาคมกอล์ฟสัตยา เพื่อคัดเลือกไรเดอร์เป็นตัวแทนไปแข่งขันกับทีมของจังหวัดภูเก็ต โดยเป็นการประชุมกันที่ร้านอาหารการิเวอร์ ตั้งอยู่ที่ถนนเลียบชายหาดฝั่งพัทยาเหนือ การประชุมในครั้งนี้นายบุญญฤทธิ์ แสงภู่ เป็นประธานดำเนินการประชุม ได้เปิดการประชุมในเรื่องการเตรียมความพร้อมของรางวัลต่างๆ ในการแข่งขัน การประชาสัมพันธ์ และการเตรียมการที่จะแถลงข่าวในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ที่ห้างเซ็นทรัลพัทยา ในวันที่ 4 กันยายนนี้ และจะมีการแข่งขันทั้งหมด 6 ครั้ง ครั้งแรกแข่งขันในวันที่ 20 กันยายน ที่สนามกอล์ฟแหลมฉบัง และการแข่งขันครั้งสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันชิงรถมิตชูบิชิ มิราจ และในคืนนี้ได้มี 2 สปอนเซอร์มอบเงินสนันสนุน คือนายอำนวย หอบูรพาเจ้าของห้างทองจอมเทียน และคุณพรชัย สุขใส ห้างหุ้นส่วนจำกัดสินทรัพย์คีรี มอบเงินให้รายละ 100,000 บาท
การประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันกอล์ฟของสมาคมกอล์ฟสัตยา โดยได้มี 2 สปอนเซอร์ร่วมมอบเงินสนับสนุนการแข่งขัน อีกรายละ 100,000 บาท
19.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม ได้มีการจัดการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันกอล์ฟของสมาคมกอล์ฟสัตยา เพื่อคัดเลือกไรเดอร์เป็นตัวแทนไปแข่งขันกับทีมของจังหวัดภูเก็ต โดยเป็นการประชุมกันที่ร้านอาหารการิเวอร์ ตั้งอยู่ที่ถนนเลียบชายหาดฝั่งพัทยาเหนือ การประชุมในครั้งนี้นายบุญญฤทธิ์ แสงภู่ เป็นประธานดำเนินการประชุม ได้เปิดการประชุมในเรื่องการเตรียมความพร้อมของรางวัลต่างๆ ในการแข่งขัน การประชาสัมพันธ์ และการเตรียมการที่จะแถลงข่าวในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ที่ห้างเซ็นทรัลพัทยา ในวันที่ 4 กันยายนนี้ และจะมีการแข่งขันทั้งหมด 6 ครั้ง ครั้งแรกแข่งขันในวันที่ 20 กันยายน ที่สนามกอล์ฟแหลมฉบัง และการแข่งขันครั้งสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันชิงรถมิตชูบิชิ มิราจ และในคืนนี้ได้มี 2 สปอนเซอร์มอบเงินสนันสนุน คือนายอำนวย หอบูรพาเจ้าของห้างทองจอมเทียน และคุณพรชัย สุขใส ห้างหุ้นส่วนจำกัดสินทรัพย์คีรี มอบเงินให้รายละ 100,000 บาท
ข่าวพัทยา สม.พัทยาเยี่ยมผู้ป่วยพร้อมมอบเงินช่วยเหลือ
สม.พัทยาเยี่ยมผู้ป่วยพร้อมมอบเงินช่วยเหลือ
นายนคร ผลลูกอินทร์ สมาชิกสภาเมืองพัทยาเข้าเยี่ยมนายประเสริฐ เกิดทอง รองประธานชุมชนบ้านเนินรถไฟ ที่ป่วยเป็นมะเร็งที่โพรงจมูก
ที่บ้านเลขที่ 109/205 หมู่13 ชุมชนบ้านเนินรถไฟ ถนนเลียบทางรถไฟ ฝั่งขาเข้าสัตหีบ นายนคร ผลลูกอินทร์สมาชิกสภาเมืองพัทยา ได้เข้าเยี่ยมนายประเสริฐ เกิดทอง อายุ 62 ปี รองประธานชุมชนบ้านเนินรถไฟ ซึ่งเป็นมะเร็งที่โพรงจมูกด้านซ้ายและลามมาที่คอในขั้นที่1 ตอนนี้รักษาตัวที่ศูนย์มะเร็งจังหวัดชลบุรี โดยการฉายแสง และจะต้องฉายแสงทั้งหมด 35 ครั้ง แต่ทำไปได้ 4 ครั้ง คนป่วยทนไม่ได้ เพราะตั้งแต่บนหูข้างซ้ายลงไปถึงต้นคอเป็นรอยไหม้ปวดแสบปวดร้อนทรมานมาก และเจ็บไปถึงในลำคอ รับประทานอาหารไม่ได้ ต้องให้อาหารเหลวทางสายยางอย่างเดียว จึงเลิกรักษาในการฉายแสงชั่วคราว เพราะสภาพร่างกายรับไม่ไหว ต้องกลับมารักษาตัวที่บ้าน ด้านนายนคร ผลลูกอินทร์ จึงได้มอบเงินส่วนตัวให้นายประเสริฐ เกิดทอง เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อที่ผู้ป่วยจะนำไปซื้ออาหารเหลว
นายนคร ผลลูกอินทร์ สมาชิกสภาเมืองพัทยาเข้าเยี่ยมนายประเสริฐ เกิดทอง รองประธานชุมชนบ้านเนินรถไฟ ที่ป่วยเป็นมะเร็งที่โพรงจมูก
ที่บ้านเลขที่ 109/205 หมู่13 ชุมชนบ้านเนินรถไฟ ถนนเลียบทางรถไฟ ฝั่งขาเข้าสัตหีบ นายนคร ผลลูกอินทร์สมาชิกสภาเมืองพัทยา ได้เข้าเยี่ยมนายประเสริฐ เกิดทอง อายุ 62 ปี รองประธานชุมชนบ้านเนินรถไฟ ซึ่งเป็นมะเร็งที่โพรงจมูกด้านซ้ายและลามมาที่คอในขั้นที่1 ตอนนี้รักษาตัวที่ศูนย์มะเร็งจังหวัดชลบุรี โดยการฉายแสง และจะต้องฉายแสงทั้งหมด 35 ครั้ง แต่ทำไปได้ 4 ครั้ง คนป่วยทนไม่ได้ เพราะตั้งแต่บนหูข้างซ้ายลงไปถึงต้นคอเป็นรอยไหม้ปวดแสบปวดร้อนทรมานมาก และเจ็บไปถึงในลำคอ รับประทานอาหารไม่ได้ ต้องให้อาหารเหลวทางสายยางอย่างเดียว จึงเลิกรักษาในการฉายแสงชั่วคราว เพราะสภาพร่างกายรับไม่ไหว ต้องกลับมารักษาตัวที่บ้าน ด้านนายนคร ผลลูกอินทร์ จึงได้มอบเงินส่วนตัวให้นายประเสริฐ เกิดทอง เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อที่ผู้ป่วยจะนำไปซื้ออาหารเหลว
ข่าวพัทยา เปิดการแข่งขัน World Airlines Badminton Championship 2013
เปิดการแข่งขัน World Airlines Badminton Championship 2013
พิธีเปิดการแข่งขันในรายการ World Airlines Badminton Championship 2013 ครั้งที่ 14
บ.การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยชมรมแบตมินตันของสมาคมสโมสรพนักงานการบินไทย ร่วมกับเมืองพัทยา จัดพิธีเปิดการแข่งขันในรายการ World Airlines Badminton Championship 2013 ครั้งที่ 14 โดยมีนาวาอากาศตรีสิทธิกร บัวงาม ผู้ช่วยนักบินและประธานชมรมแบตมินตันการบินไทย โดยได้รับเกียรติจากนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดงานที่โรงแรมอมารีออคิด พัทยา โดย บ.การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน World Airlines Badminton Championship 2013 ครั้งที่ 14 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-24 ส.ค. ที่สนามแบตมินตัน C.A.T Sports Club (แคท สปอร์ตคลับ) เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้านสายการบินจากทั่วโลก โดยปีนี้มีสายการบินที่ส่งพนักงานเข้าร่วมการแข่งขันเฉพาะประเภทเดี่ยวรวม 10 สายการบิน และหน่วยงานด้านการบิน จำนวน 2 หน่วยงาน ได้แก่ สายการบินนกแอร์ แอร์เอเชีย โอเรียนท์ไทย คาเธ่ย์ แปซิฟิก สิงคโปร์ แอร์ไลน์ เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ มาเลเซีย แอร์ไลน์ การูด้าอินโดนีเซีย แอร์ไลน์ รอยัลบรูไน แอร์ไลน์ บิมานบังคลาเทศ แอร์ไลน์ บ.ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด การแข่งขันในครั้งนี้เป็นการนำนักกีฬาและผู้ติดตามเข้าสู่ประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว และยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ซึ่งเป็นชายหาดที่สวยงามที่มีชื่อเสียงของประเทศให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ เพื่อจะนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย และเพื่อเป็นการให้ความสำคัญของการออกกำลังกาย อันจะนำมาซึ่งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจที่เข้มแข็ง จะส่งผลให้พนักงานผู้เป็นกำลังสำคัญขององค์กรสามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มศักยภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อพัฒนาธุรกิจการบินของประเทศไทยให้ก้าวหน้าเป็นการสายการบินชั้นนำของภูมิภาคและของโลก การแข่งขันในรายการดังกล่าวจะจัดขึ้นทุก 2 ปี โดยจะมีการแข่งขันทั้งประเภทเดี่ยวกับประเภทคู่ ภายในงานได้มีการนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในเมืองพัทยา และการแสดงความเป็นไทยจากโรงละครอัลคาซ่าร์ให้นักกีฬาชาวต่างชาติได้รับชม สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมในงานเป็นอย่างมาก
พิธีเปิดการแข่งขันในรายการ World Airlines Badminton Championship 2013 ครั้งที่ 14
บ.การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยชมรมแบตมินตันของสมาคมสโมสรพนักงานการบินไทย ร่วมกับเมืองพัทยา จัดพิธีเปิดการแข่งขันในรายการ World Airlines Badminton Championship 2013 ครั้งที่ 14 โดยมีนาวาอากาศตรีสิทธิกร บัวงาม ผู้ช่วยนักบินและประธานชมรมแบตมินตันการบินไทย โดยได้รับเกียรติจากนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดงานที่โรงแรมอมารีออคิด พัทยา โดย บ.การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน World Airlines Badminton Championship 2013 ครั้งที่ 14 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-24 ส.ค. ที่สนามแบตมินตัน C.A.T Sports Club (แคท สปอร์ตคลับ) เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้านสายการบินจากทั่วโลก โดยปีนี้มีสายการบินที่ส่งพนักงานเข้าร่วมการแข่งขันเฉพาะประเภทเดี่ยวรวม 10 สายการบิน และหน่วยงานด้านการบิน จำนวน 2 หน่วยงาน ได้แก่ สายการบินนกแอร์ แอร์เอเชีย โอเรียนท์ไทย คาเธ่ย์ แปซิฟิก สิงคโปร์ แอร์ไลน์ เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ มาเลเซีย แอร์ไลน์ การูด้าอินโดนีเซีย แอร์ไลน์ รอยัลบรูไน แอร์ไลน์ บิมานบังคลาเทศ แอร์ไลน์ บ.ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด การแข่งขันในครั้งนี้เป็นการนำนักกีฬาและผู้ติดตามเข้าสู่ประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว และยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ซึ่งเป็นชายหาดที่สวยงามที่มีชื่อเสียงของประเทศให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ เพื่อจะนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย และเพื่อเป็นการให้ความสำคัญของการออกกำลังกาย อันจะนำมาซึ่งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจที่เข้มแข็ง จะส่งผลให้พนักงานผู้เป็นกำลังสำคัญขององค์กรสามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มศักยภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อพัฒนาธุรกิจการบินของประเทศไทยให้ก้าวหน้าเป็นการสายการบินชั้นนำของภูมิภาคและของโลก การแข่งขันในรายการดังกล่าวจะจัดขึ้นทุก 2 ปี โดยจะมีการแข่งขันทั้งประเภทเดี่ยวกับประเภทคู่ ภายในงานได้มีการนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในเมืองพัทยา และการแสดงความเป็นไทยจากโรงละครอัลคาซ่าร์ให้นักกีฬาชาวต่างชาติได้รับชม สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมในงานเป็นอย่างมาก
ข่าวพัทยา ประชุมตำรวจอาสา สภ.เมืองพัทยา
ประชุมตำรวจอาสา สภ.เมืองพัทยา
ผกก.พัทยาเรียกประชุมตำรวจอาสา สภ.เมืองพัทยา ซึ่งจะมีการคัดกรองรายชื่อตำรวจอาสาที่ไม่เคยออกปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจออก พร้อมเตรียมสรรหางบประมาณมาเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงให้อาสา ซึ่งเบื้องต้นมีแนวคิดในการร่วมกับผู้ประกอบการต่างๆ มาประชาสัมพันธ์ธุรกิจได้ภายในโรงพัก
16.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่โรงแรมทาวน์อินน์ทาวน์ พัทยากลาง พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอนก สระทองอยู่ สวป.สภ.เมืองพัทยา เปิดการประชุมประจำเดือนตำรวจอาสา สภ.เมืองพัทยา โดยมีตำรวจอาสา จำนวน กว่า 60 นาย เข้าร่วมการประชุม ซึ่งเป็นการเรียกประชุมเพื่อแจ้งให้ทราบเรื่องการต่ออายุบัตรตำรวจอาสา โดยจะมีการคัดกรองรายชื่อผู้ที่ไม่เคยออกปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจออก รวมถึงการนำบัตรตำรวจอาสาและแต่งกายในเครื่องแบบออกปฏิบัติงานส่วนตัวด้วย เรื่องการตั้งด่านของตำรวจอาสาให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วยทุกครั้ง ห้ามเด็ดขาดเรื่องการรับเงินใต้โต๊ะหรือรับเงินตรวจปัสสาวะม่วง นอกจากนี้ด้าน สวป. ยังแจ้งเรื่องการจัดสรรงบประมาณมาให้เป็นค่าเบี้ยเลี้ยงแก่กำลังตำรวจอาสาที่ออกปฏิบัติงานร่วม ซึ่งในส่วนนี้กำลังอยู่ระหว่างติดต่อทางสมาคมและผู้ประกอบการโรงแรม โดยจะมีการเปิดให้มีสื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจภายในโรงพัก เพื่อหารายได้มาสนับสนุนค่าเบี้ยเลี้ยง แต่รับปากว่าจะพยายามหารายได้มาช่วยเหลือในส่วนนี้แน่นอน
ผกก.พัทยาเรียกประชุมตำรวจอาสา สภ.เมืองพัทยา ซึ่งจะมีการคัดกรองรายชื่อตำรวจอาสาที่ไม่เคยออกปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจออก พร้อมเตรียมสรรหางบประมาณมาเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงให้อาสา ซึ่งเบื้องต้นมีแนวคิดในการร่วมกับผู้ประกอบการต่างๆ มาประชาสัมพันธ์ธุรกิจได้ภายในโรงพัก
16.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่โรงแรมทาวน์อินน์ทาวน์ พัทยากลาง พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอนก สระทองอยู่ สวป.สภ.เมืองพัทยา เปิดการประชุมประจำเดือนตำรวจอาสา สภ.เมืองพัทยา โดยมีตำรวจอาสา จำนวน กว่า 60 นาย เข้าร่วมการประชุม ซึ่งเป็นการเรียกประชุมเพื่อแจ้งให้ทราบเรื่องการต่ออายุบัตรตำรวจอาสา โดยจะมีการคัดกรองรายชื่อผู้ที่ไม่เคยออกปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจออก รวมถึงการนำบัตรตำรวจอาสาและแต่งกายในเครื่องแบบออกปฏิบัติงานส่วนตัวด้วย เรื่องการตั้งด่านของตำรวจอาสาให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วยทุกครั้ง ห้ามเด็ดขาดเรื่องการรับเงินใต้โต๊ะหรือรับเงินตรวจปัสสาวะม่วง นอกจากนี้ด้าน สวป. ยังแจ้งเรื่องการจัดสรรงบประมาณมาให้เป็นค่าเบี้ยเลี้ยงแก่กำลังตำรวจอาสาที่ออกปฏิบัติงานร่วม ซึ่งในส่วนนี้กำลังอยู่ระหว่างติดต่อทางสมาคมและผู้ประกอบการโรงแรม โดยจะมีการเปิดให้มีสื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจภายในโรงพัก เพื่อหารายได้มาสนับสนุนค่าเบี้ยเลี้ยง แต่รับปากว่าจะพยายามหารายได้มาช่วยเหลือในส่วนนี้แน่นอน
ข่าวพัทยา รถพ่วง 18 ล้อ ชนรถ จยย.ดับคาที่
รถพ่วง 18 ล้อ ชนรถ จยย.ดับคาที่
หนุ่มนครพนมดวงกุด ขี่รถจักรยานยนต์มาถูกรถพ่วง 18 ล้อชนเสียชีวิต เบื้องต้นคนขับรถ 18 ล้อ หลบหนีหายไปจากที่เกิดเหตุ
23.00 น. วันที่ 21 ส.ค. พ.ต.ต.สุกิจ ก่องาม สารวัตรเวรสถานีตำรวจทางหลวงเขาเขียว ได้รับแจ้งรถพ่วง 18 ล้อ ชนรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสาย 7 ตอน 3 ในที่เกิดเหตุพบศพนายสันติ แสงสว่าง อายุ 35 ปี สภาพศพแขนขาคอหักและศีรษะแตกเลือดไหลนอง ห่างประมาณ 10 เมตร พบรถจักรยานยนต์ คาวาซากิ รุ่นเคเอสอาร์ สีเขียวดำ พลิกคว่ำได้รับความเสียหาย ส่วนรถพ่วง 18 ล้อ ที่ก่อเหตุได้อาศัยช่วงถนนเป็นที่มืดขับรถหลบหนี จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ตายขี่รถมาด้วยความเร็วขึ้นสะพานต่างระดับ และมาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถพ่วง 18 ล้อที่ขับมาตามหลังมาด้วยความเร็ว ได้เฉี่ยวชนรถของผู้ตาย จนเกิดการเสียหลักพลิกคว่ำ ร่างของผู้ตายกระแทกกับพื้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบศพให้หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.แหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรอีกครั้ง ส่วนคนขับรถ 18 ล้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาทำการสอบสวนพร้อมกับดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
หนุ่มนครพนมดวงกุด ขี่รถจักรยานยนต์มาถูกรถพ่วง 18 ล้อชนเสียชีวิต เบื้องต้นคนขับรถ 18 ล้อ หลบหนีหายไปจากที่เกิดเหตุ
23.00 น. วันที่ 21 ส.ค. พ.ต.ต.สุกิจ ก่องาม สารวัตรเวรสถานีตำรวจทางหลวงเขาเขียว ได้รับแจ้งรถพ่วง 18 ล้อ ชนรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสาย 7 ตอน 3 ในที่เกิดเหตุพบศพนายสันติ แสงสว่าง อายุ 35 ปี สภาพศพแขนขาคอหักและศีรษะแตกเลือดไหลนอง ห่างประมาณ 10 เมตร พบรถจักรยานยนต์ คาวาซากิ รุ่นเคเอสอาร์ สีเขียวดำ พลิกคว่ำได้รับความเสียหาย ส่วนรถพ่วง 18 ล้อ ที่ก่อเหตุได้อาศัยช่วงถนนเป็นที่มืดขับรถหลบหนี จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ตายขี่รถมาด้วยความเร็วขึ้นสะพานต่างระดับ และมาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถพ่วง 18 ล้อที่ขับมาตามหลังมาด้วยความเร็ว ได้เฉี่ยวชนรถของผู้ตาย จนเกิดการเสียหลักพลิกคว่ำ ร่างของผู้ตายกระแทกกับพื้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบศพให้หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.แหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรอีกครั้ง ส่วนคนขับรถ 18 ล้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาทำการสอบสวนพร้อมกับดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ข่าวพัทยา โครงการดวงตาสดใส
โครงการดวงตาสดใส
พิธีเปิดโครงการดวงตาสดใส ปลอดภัยจากต้อกระจก เพื่อเป็นการป้องกันและลดอัตราการตาบอดจากตาต้อกระจก และเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการผ่าตัดต้อกระจกให้ครอบคลุมมากขึ้น
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการดวงตาสดใส ปลอดภัยจากต้อกระจก โรคต้อกระจกถือว่าเป็นโรคที่เป็นสาเหตุทำให้คนไทยตาบอด โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มเป็นโรคต้อกระจกมากกว่าร้อยละ 80 เนื่องจากการเสื่อมตามวัย และภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน โดยจะมีอาการตามัว ความสามารถในการมองเห็นลดลง วิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม ซึ่งจะต้องมีวิธีการดูแลรักษาที่ยุ่งยากในหลายขั้นตอน ด้วยเหตุนี้ฝ่ายหลักประกันสุขภาพ โรงพยาบาลเมืองพัทยา ซึ่งมีจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ จึงได้จัดทำโครงการดวงตาสดใส ปลอดภัยจากต้อกระจกขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการป้องกันและลดอัตราการตาบอดจากตาต้อกระจก และเพิ่มการเข้าถึงบริการผ่าตัดต้อกระจกให้พื้นที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยได้มีการดำเนินการตรวจคัดกรองตาต้อกระจกแก่ประชาชนในเขตเมืองพัทยา จำนวน 300 ราย และเมื่อพบผู้ป่วยตาต้อกระจก จะได้ดำเนินการรักษาโดยการผ่าตัดตามสิทธิบัตรทองของผู้ป่วย คือโรงพยาบาลบางละมุง และโรงพยาบาลเมืองพัทยาต่อไป
พิธีเปิดโครงการดวงตาสดใส ปลอดภัยจากต้อกระจก เพื่อเป็นการป้องกันและลดอัตราการตาบอดจากตาต้อกระจก และเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการผ่าตัดต้อกระจกให้ครอบคลุมมากขึ้น
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการดวงตาสดใส ปลอดภัยจากต้อกระจก โรคต้อกระจกถือว่าเป็นโรคที่เป็นสาเหตุทำให้คนไทยตาบอด โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มเป็นโรคต้อกระจกมากกว่าร้อยละ 80 เนื่องจากการเสื่อมตามวัย และภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน โดยจะมีอาการตามัว ความสามารถในการมองเห็นลดลง วิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม ซึ่งจะต้องมีวิธีการดูแลรักษาที่ยุ่งยากในหลายขั้นตอน ด้วยเหตุนี้ฝ่ายหลักประกันสุขภาพ โรงพยาบาลเมืองพัทยา ซึ่งมีจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ จึงได้จัดทำโครงการดวงตาสดใส ปลอดภัยจากต้อกระจกขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการป้องกันและลดอัตราการตาบอดจากตาต้อกระจก และเพิ่มการเข้าถึงบริการผ่าตัดต้อกระจกให้พื้นที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยได้มีการดำเนินการตรวจคัดกรองตาต้อกระจกแก่ประชาชนในเขตเมืองพัทยา จำนวน 300 ราย และเมื่อพบผู้ป่วยตาต้อกระจก จะได้ดำเนินการรักษาโดยการผ่าตัดตามสิทธิบัตรทองของผู้ป่วย คือโรงพยาบาลบางละมุง และโรงพยาบาลเมืองพัทยาต่อไป
Tuesday, August 20, 2013
ข่าวบางละมุง จับกุมยาบ้าล๊อตใหญ่ ของกลาง 2.4 หมื่นเม็ด
จับกุมยาบ้าล๊อตใหญ่ ของกลาง 2.4 หมื่นเม็ด
ตำรวจบางละมุงวางแผนล่อซื้อยาบ้าเครือข่ายประเทศลาว นำเข้าไทยทางแม่น้ำโขงฝั่งจังหวัดนครพนม พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 24,000 เม็ด สารภาพนำมาขายทั่วอีสานและชลบุรี เนื่องจากมีแรงงานใช้ยามากและราคาดี
14.30 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่ สภ.บางละมุง พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวิชาญ ญาณกิตติคุณ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และพ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก.สภ.บางละมุง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหายาบ้า เครือข่ายยาบ้าจากประเทศลาว – นครพนม จำนวน 5 ราย ได้แก่ นายนพดล ติยะบุตร อายุ 44 ปี นางมณีรัตน์ จิตจักร อายุ 47 ปี นายนิเวศน์ จิตตอำไพ อายุ 58 ปี นางสาวนิภาพร วงค์ประพันธ์ อายุ 32 ปี และนายทานิน กองแสน อายุ 36 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 24,000 เม็ด และอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก รถยนต์เก๋ง 3 คัน รถยนต์กระบะ 3 คัน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 7 ใบ และเงินสดจำนวน 1 แสนบาท โดยจับกุมนายนพพดลและนางมณีรัตน์ได้ที่ริมถนนสายวาปี – ศรีธาตุ ต.นาคำ อ.นาคำ จ.อุดรธานี และนายทานินและนางสาวนิภาพร จับได้ที่อำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.บางละมุง ได้จับกุมผู้เสพและผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ สภ.บางละมุงได้ จึงทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังผู้ค้ารายใหญ่ โดยรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจากเครือข่ายยาบ้าจากประเทศลาว เป็นยาบ้าที่นำมาขึ้นฝั่งแม่น้ำโขงที่จังหวัดนครพนม เพื่อพักยาบ้าก่อนที่จะทำการกระจายยาบ้าขายส่งให้รายย่อยทั่วภาคอีสานและจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีแรงงานและนักท่องเที่ยวอยู่มาก ทำให้ยาบ้ามีราคาสูง เจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อยาบ้าจากนายทานินและนางสาวนิภาพร จากนั้นได้เดินทางไปรับยาบ้าที่ริมถนนสายกุมภวาปี – ศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นจุดนัดหมายส่งมอบยาบ้า โดยนายทานินและนางสาวนิภาพรได้แจ้งกับสายว่าจะให้ลูกน้อง คือนายนพดลและนางมณีรัตน์มาส่งยังจุดนัดหมาย ต่อมาทั้ง 2 คนได้ขับรถเก๋งมาตามเวลานัดหมาย โดยมีนายนิเวศน์ขับขี่รถกระบะ ขับมาสำรวจเส้นทางล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทั้ง 3 คน จากนั้นได้วางแผนเข้าจับกุมและตรวจค้นบ้านพักของนายทานินและนางนิภาพรที่จังหวัดนครพนม พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในบ้านอีกจำนวนหนึ่ง รวมแล้วทำการตรวจยึดยาบ้าไว้ได้ทั้งหมด 24,000 เม็ด และตรวจยึดอาวุธและรถยนต์ทั้งหมดไว้ตรวจสอบ สำหรับอาวุธปืน ทราบว่าเป็นของนายทานิน สารภาพว่าเพิ่งจะไปซื้อมาในราคา 140,000 บาท มีใบทะเบียนปืนถูกต้อง ส่วนยาบ้านั้นตนไปรับมาจากเพื่อนที่ประเทศลาว แล้วนำขึ้นมาทางแม่น้ำโขงฝั่งจังหวัดนครพนม แล้วนำมากระจายขายยังลูกค้ารายย่อย รวมมูลค่ายาบ้าและทรัพย์สินในครั้งนี้กว่า 10 ล้านบาท
ตำรวจบางละมุงวางแผนล่อซื้อยาบ้าเครือข่ายประเทศลาว นำเข้าไทยทางแม่น้ำโขงฝั่งจังหวัดนครพนม พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 24,000 เม็ด สารภาพนำมาขายทั่วอีสานและชลบุรี เนื่องจากมีแรงงานใช้ยามากและราคาดี
14.30 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่ สภ.บางละมุง พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวิชาญ ญาณกิตติคุณ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และพ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก.สภ.บางละมุง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหายาบ้า เครือข่ายยาบ้าจากประเทศลาว – นครพนม จำนวน 5 ราย ได้แก่ นายนพดล ติยะบุตร อายุ 44 ปี นางมณีรัตน์ จิตจักร อายุ 47 ปี นายนิเวศน์ จิตตอำไพ อายุ 58 ปี นางสาวนิภาพร วงค์ประพันธ์ อายุ 32 ปี และนายทานิน กองแสน อายุ 36 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 24,000 เม็ด และอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก รถยนต์เก๋ง 3 คัน รถยนต์กระบะ 3 คัน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 7 ใบ และเงินสดจำนวน 1 แสนบาท โดยจับกุมนายนพพดลและนางมณีรัตน์ได้ที่ริมถนนสายวาปี – ศรีธาตุ ต.นาคำ อ.นาคำ จ.อุดรธานี และนายทานินและนางสาวนิภาพร จับได้ที่อำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.บางละมุง ได้จับกุมผู้เสพและผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ สภ.บางละมุงได้ จึงทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังผู้ค้ารายใหญ่ โดยรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจากเครือข่ายยาบ้าจากประเทศลาว เป็นยาบ้าที่นำมาขึ้นฝั่งแม่น้ำโขงที่จังหวัดนครพนม เพื่อพักยาบ้าก่อนที่จะทำการกระจายยาบ้าขายส่งให้รายย่อยทั่วภาคอีสานและจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีแรงงานและนักท่องเที่ยวอยู่มาก ทำให้ยาบ้ามีราคาสูง เจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อยาบ้าจากนายทานินและนางสาวนิภาพร จากนั้นได้เดินทางไปรับยาบ้าที่ริมถนนสายกุมภวาปี – ศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นจุดนัดหมายส่งมอบยาบ้า โดยนายทานินและนางสาวนิภาพรได้แจ้งกับสายว่าจะให้ลูกน้อง คือนายนพดลและนางมณีรัตน์มาส่งยังจุดนัดหมาย ต่อมาทั้ง 2 คนได้ขับรถเก๋งมาตามเวลานัดหมาย โดยมีนายนิเวศน์ขับขี่รถกระบะ ขับมาสำรวจเส้นทางล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทั้ง 3 คน จากนั้นได้วางแผนเข้าจับกุมและตรวจค้นบ้านพักของนายทานินและนางนิภาพรที่จังหวัดนครพนม พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในบ้านอีกจำนวนหนึ่ง รวมแล้วทำการตรวจยึดยาบ้าไว้ได้ทั้งหมด 24,000 เม็ด และตรวจยึดอาวุธและรถยนต์ทั้งหมดไว้ตรวจสอบ สำหรับอาวุธปืน ทราบว่าเป็นของนายทานิน สารภาพว่าเพิ่งจะไปซื้อมาในราคา 140,000 บาท มีใบทะเบียนปืนถูกต้อง ส่วนยาบ้านั้นตนไปรับมาจากเพื่อนที่ประเทศลาว แล้วนำขึ้นมาทางแม่น้ำโขงฝั่งจังหวัดนครพนม แล้วนำมากระจายขายยังลูกค้ารายย่อย รวมมูลค่ายาบ้าและทรัพย์สินในครั้งนี้กว่า 10 ล้านบาท
ข่าวนองปรือ งานเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก ๑๓ กัณฑ์
งานเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก ๑๓ กัณฑ์
พุทธศาสนิกชนแห่เข้าร่วมงานเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก ๑๓ กัณฑ์ โดยพระนักเทศน์ชื่อดังจากจังหวัดกำแพงเพชร สมทบทุนสร้างศาลาฌาปนกิจหลังใหม่วัดหนองปรือ
ที่ศาลาการเปรียญวัดหนองปรือ ท่านพระครูพิพิธกิจจารักษ์ รองเจ้าคณะอำเภอบางละมุง เจ้าอาวาสวัดหนองปรือ ได้จัดงานเทศน์มหาชาติพระเวสสันดรชาดก ๑๓ กัณฑ์ โดยท่านพระครูปลัดเทวัญ รวิวัณโณ พระนักเทศน์ชื่อดังจากจังหวัดกำแพงเพชร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีพุทธศาสนิกชนในพื้นที่อำเภอบางละมุงและจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออกเข้าร่วมรับฟังการเทศน์มหาชาติ พร้อมนำต้นผ้าป่าร่วมถวายสมทบทุนสร้างศาลาฌาปนกิจหลังใหม่ที่ทางวัดหนองปรือกำลังดำเนินการจัดสร้าง ซึ่งการเทศน์มหาชาติถือเป็นประเพณีที่อยู่คู่กับพระพุทธศาสนาที่สืบทอดมาแต่โบราณ นิยมจัดในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เป็นการน้อมรำลึกถึงเรื่องราวในสมัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์ เป็นพระเวสสันดรที่ทรงบำเพ็ญทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่ามหาทาน ผู้ใดได้สดับย่อมเกิดสิริมงคล และการฟังเทศน์มหาชาติยังเป็นการนำความรู้หลักธรรมทางพระศาสนาและข้อปฏิบัติอันดีงามไปเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต
พุทธศาสนิกชนแห่เข้าร่วมงานเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก ๑๓ กัณฑ์ โดยพระนักเทศน์ชื่อดังจากจังหวัดกำแพงเพชร สมทบทุนสร้างศาลาฌาปนกิจหลังใหม่วัดหนองปรือ
ที่ศาลาการเปรียญวัดหนองปรือ ท่านพระครูพิพิธกิจจารักษ์ รองเจ้าคณะอำเภอบางละมุง เจ้าอาวาสวัดหนองปรือ ได้จัดงานเทศน์มหาชาติพระเวสสันดรชาดก ๑๓ กัณฑ์ โดยท่านพระครูปลัดเทวัญ รวิวัณโณ พระนักเทศน์ชื่อดังจากจังหวัดกำแพงเพชร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีพุทธศาสนิกชนในพื้นที่อำเภอบางละมุงและจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออกเข้าร่วมรับฟังการเทศน์มหาชาติ พร้อมนำต้นผ้าป่าร่วมถวายสมทบทุนสร้างศาลาฌาปนกิจหลังใหม่ที่ทางวัดหนองปรือกำลังดำเนินการจัดสร้าง ซึ่งการเทศน์มหาชาติถือเป็นประเพณีที่อยู่คู่กับพระพุทธศาสนาที่สืบทอดมาแต่โบราณ นิยมจัดในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เป็นการน้อมรำลึกถึงเรื่องราวในสมัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์ เป็นพระเวสสันดรที่ทรงบำเพ็ญทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่ามหาทาน ผู้ใดได้สดับย่อมเกิดสิริมงคล และการฟังเทศน์มหาชาติยังเป็นการนำความรู้หลักธรรมทางพระศาสนาและข้อปฏิบัติอันดีงามไปเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต
ข่าวชลบุรี การแข่งขันวิ่งควาย รอบชิงชนะเลิศรุ่นควายใหญ่ พร้อมพิธีมอบถ้วยรางวัล
การแข่งขันวิ่งควาย รอบชิงชนะเลิศรุ่นควายใหญ่ พร้อมพิธีมอบถ้วยรางวัล
ที่สนามวิ่งควาย หน้าวัดเขาโพธิ์ทอง ได้มีการแข่งขันวิ่งควาย รอบชิงชนะเลิศ รุ่นควายใหญ่ ซึ่งมีควายเข้าร่วมการแข่งขัน 5 เบอร์ ได้แก่หมายเลข 1 ,3,8,9 และ10 ภายในสนามวิ่งควายมีผู้ชมให้ความสนใจทั้งชาวไทยชาวต่างประเทศเข้าชมกันเป็นจำนวนมาก เริ่มปล่อยควายออกจากซอง ควายหมายเลข1กับหมายเลข10 วิ่งนำหน้ากันมา ตามด้วยควายหมายเลข 3 ,9และ8 ในที่สุด ควายหมายเลข1 เข้าเส้นชัยเป็นตัวแรก หลังจากจบการแข่งขันได้มีพิธีมอบรางวัลควายที่ชนะของแต่ละรุ่น โดยเริ่มจากรุ่นจิ๋วเล็ก โดยพันจ่าเอก ดร.สมชัย ศิริสมบัติ รองปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือ เป็นผู้มอบรางวัล
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ควายหมายเลข5 ของคุณสมเจตน์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ได้แก่ ควายหมายเลข1 ของอาจารย์อเนก พัฒนงาม
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2 ได้แก่ ควายหมายเลข2 ของหัวหน้าปรีชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ3 ได้แก่ ควายหมายเลข6 ของผู้ช่วยดำ ท่อใหญ่
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ4 ได้แก่ควายหมายเลข3 ของนายกสมศักดิ์
ต่อจากนั้นเป็นการมอบรางวัลควายรุ่นจิ๋วใหญ่ โดยมีนายธีรวิทย์ ทองนอก ปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือเป็นผู้มอบรางวัล
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ควายหมายเลข15 ของนายเดช อะไหล่
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ได้แก่ ควายหมายเลข1 ของอาจารย์อเนก พัฒนงาม
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2 ได้แก่ ควายหมายเลข4 ของหัวหน้าปรีชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ3 ได้แก่ ควายหมายเลข11 ของประธานโก้
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ4 ได้แก่ ควายหมายเลข12 ของนายปู
ต่อจากนั้นเป็นการมอบรางวัลรุ่นควายใหญ่ โดยมีนายธีรวิทย์ ทองนอก ปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือมอบ
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ควายหมายเลข1 ของอาจารย์อเนก พัฒนงาม
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ได้แก่ ควายหมายเลข9 ของนายกสมศักดิ์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2 ได้แก่ควายหมายเลข10 ของนายอานนท์ แจ้งเจริญ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ3 ได้แก่ ควายหมายเลข3 ของนายหว่อง ทุ่งเหยง
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ4 ได้แก่ควายหมายเลข8 ของผู้กำกับชีวิน
ที่สนามวิ่งควาย หน้าวัดเขาโพธิ์ทอง ได้มีการแข่งขันวิ่งควาย รอบชิงชนะเลิศ รุ่นควายใหญ่ ซึ่งมีควายเข้าร่วมการแข่งขัน 5 เบอร์ ได้แก่หมายเลข 1 ,3,8,9 และ10 ภายในสนามวิ่งควายมีผู้ชมให้ความสนใจทั้งชาวไทยชาวต่างประเทศเข้าชมกันเป็นจำนวนมาก เริ่มปล่อยควายออกจากซอง ควายหมายเลข1กับหมายเลข10 วิ่งนำหน้ากันมา ตามด้วยควายหมายเลข 3 ,9และ8 ในที่สุด ควายหมายเลข1 เข้าเส้นชัยเป็นตัวแรก หลังจากจบการแข่งขันได้มีพิธีมอบรางวัลควายที่ชนะของแต่ละรุ่น โดยเริ่มจากรุ่นจิ๋วเล็ก โดยพันจ่าเอก ดร.สมชัย ศิริสมบัติ รองปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือ เป็นผู้มอบรางวัล
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ควายหมายเลข5 ของคุณสมเจตน์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ได้แก่ ควายหมายเลข1 ของอาจารย์อเนก พัฒนงาม
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2 ได้แก่ ควายหมายเลข2 ของหัวหน้าปรีชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ3 ได้แก่ ควายหมายเลข6 ของผู้ช่วยดำ ท่อใหญ่
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ4 ได้แก่ควายหมายเลข3 ของนายกสมศักดิ์
ต่อจากนั้นเป็นการมอบรางวัลควายรุ่นจิ๋วใหญ่ โดยมีนายธีรวิทย์ ทองนอก ปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือเป็นผู้มอบรางวัล
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ควายหมายเลข15 ของนายเดช อะไหล่
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ได้แก่ ควายหมายเลข1 ของอาจารย์อเนก พัฒนงาม
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2 ได้แก่ ควายหมายเลข4 ของหัวหน้าปรีชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ3 ได้แก่ ควายหมายเลข11 ของประธานโก้
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ4 ได้แก่ ควายหมายเลข12 ของนายปู
ต่อจากนั้นเป็นการมอบรางวัลรุ่นควายใหญ่ โดยมีนายธีรวิทย์ ทองนอก ปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือมอบ
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ควายหมายเลข1 ของอาจารย์อเนก พัฒนงาม
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ได้แก่ ควายหมายเลข9 ของนายกสมศักดิ์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2 ได้แก่ควายหมายเลข10 ของนายอานนท์ แจ้งเจริญ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ3 ได้แก่ ควายหมายเลข3 ของนายหว่อง ทุ่งเหยง
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ4 ได้แก่ควายหมายเลข8 ของผู้กำกับชีวิน
ข่าวพัทยา ไฟไหม้เรือโดยสารข้ามฟากพัทยาเกาะล้าน
ไฟไหม้เรือโดยสารข้ามฟากพัทยาเกาะล้าน
เรือโดยสารข้ามฟากเกาะล้านพัทยาใช้งานหนัก วิ่งตีเรือเปล่ากลับไปรับนักท่องเที่ยวที่เกาะล้าน เครื่องยนต์เกิดความร้อนจนเกิดเปลวไฟลุกไหม้ห้องเครื่องลามออกมาถูกถังน้ำมัน โชคดีรอบนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวอยู่บนเรือ
ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุเรือโดยสารข้ามฟากเกาะล้านเกิดเพลิงลุกไหม้ ห่างจากฝั่งพัทยาออกไปประมาณ 3 กม. หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทางทะเลและชายฝั่ง นำเรือกู้ภัยและเรือยางออกให้การช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบว่าเรือลำดังกล่าวซึ่งเป็นเรือโดยสารชื่อเทพประสิทธิ์ 3 กำลังถูกเพลิงลุกไหม้ช่วงท้ายของเรืออย่างรุนแรง โดยมีกลุ่มผู้ใช้เรือสปีดโบ๊ทได้หันท้ายเรือกลับมาช่วยเหลือกว่า 10 ลำ เพราะคิดว่าจะมีนักท่องเที่ยวติดอยู่ภายในเรือ ก่อนเจ้าหน้าที่และชาวเรือสปีดโบ๊ทช่วยกันนำน้ำมาฉีดสกัดเพลิงไว้ ประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบลง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันลากเรือเทพประสิทธิ์ 3 กลับเข้ายังฝั่ง เพื่อทำการตรวจสอบหาสาเหตุ จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เรือลำดังกล่าวเป็นเรือโดยสารข้ามฟากระหว่างเกาะล้านและฝั่งพัทยา ก่อนเกิดเหตุได้นำผู้โดยสารจากเกาะล้านมาส่งยังฝั่งพัทยาแล้ว และกำลังตีเรือเปล่ากลับไปเกาะล้านเพื่อรับนักท่องเที่ยวบริเวณท่าหน้าบ้าน บนเรือมีเพียงลูกเรือและคนขับเรือแค่ 5 คน ส่วนผู้โดยสารหลังออกจากท่าได้ไม่นานได้เกิดเปลวไฟลุกขึ้นมาจากส่วนท้ายของเรือ เมื่อวิ่งมาตรวจสอบกลับพบว่าไฟได้โหมลุกอย่างแรงจากห้องเครื่องและลามเข้าไปยังถังน้ำมัน ซึ่งคาดว่าจะเกิดจากความร้อนของเครื่องยนต์ที่ทำงานอย่างหนัก จนทำให้เกิดเปลวไฟลุกไหม้และลุกลามจนได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
เรือโดยสารข้ามฟากเกาะล้านพัทยาใช้งานหนัก วิ่งตีเรือเปล่ากลับไปรับนักท่องเที่ยวที่เกาะล้าน เครื่องยนต์เกิดความร้อนจนเกิดเปลวไฟลุกไหม้ห้องเครื่องลามออกมาถูกถังน้ำมัน โชคดีรอบนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวอยู่บนเรือ
ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุเรือโดยสารข้ามฟากเกาะล้านเกิดเพลิงลุกไหม้ ห่างจากฝั่งพัทยาออกไปประมาณ 3 กม. หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทางทะเลและชายฝั่ง นำเรือกู้ภัยและเรือยางออกให้การช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบว่าเรือลำดังกล่าวซึ่งเป็นเรือโดยสารชื่อเทพประสิทธิ์ 3 กำลังถูกเพลิงลุกไหม้ช่วงท้ายของเรืออย่างรุนแรง โดยมีกลุ่มผู้ใช้เรือสปีดโบ๊ทได้หันท้ายเรือกลับมาช่วยเหลือกว่า 10 ลำ เพราะคิดว่าจะมีนักท่องเที่ยวติดอยู่ภายในเรือ ก่อนเจ้าหน้าที่และชาวเรือสปีดโบ๊ทช่วยกันนำน้ำมาฉีดสกัดเพลิงไว้ ประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบลง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันลากเรือเทพประสิทธิ์ 3 กลับเข้ายังฝั่ง เพื่อทำการตรวจสอบหาสาเหตุ จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เรือลำดังกล่าวเป็นเรือโดยสารข้ามฟากระหว่างเกาะล้านและฝั่งพัทยา ก่อนเกิดเหตุได้นำผู้โดยสารจากเกาะล้านมาส่งยังฝั่งพัทยาแล้ว และกำลังตีเรือเปล่ากลับไปเกาะล้านเพื่อรับนักท่องเที่ยวบริเวณท่าหน้าบ้าน บนเรือมีเพียงลูกเรือและคนขับเรือแค่ 5 คน ส่วนผู้โดยสารหลังออกจากท่าได้ไม่นานได้เกิดเปลวไฟลุกขึ้นมาจากส่วนท้ายของเรือ เมื่อวิ่งมาตรวจสอบกลับพบว่าไฟได้โหมลุกอย่างแรงจากห้องเครื่องและลามเข้าไปยังถังน้ำมัน ซึ่งคาดว่าจะเกิดจากความร้อนของเครื่องยนต์ที่ทำงานอย่างหนัก จนทำให้เกิดเปลวไฟลุกไหม้และลุกลามจนได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
Subscribe to:
Posts (Atom)